“ยิ่งลักษณ์” ประชุม ครม.วันนี้ จับตากระทรวงการคลังขออนุมัติกู้เงิน ตาม พ.ร.ก.บริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาท ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย กระทรวงศึกษาฯ เสนอให้พิจารณามหาวิทยาลัยสวนดุสิตออกนอกระบบ ด้านมหาดไทยขอกู้ 2.9 พันล้านลงทุนตามแผนระยะยาว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ (28 ก.พ.) ซึ่งมี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุม มีวาระที่น่าสนใจคือ กระทรวงการคลังจะเสนอขออนุมัติการกู้เงินตาม พ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อดำเนินโครงการบริหารจัดการ โครงสร้างพื้นฐานเกี่ยวกับน้ำภายในกรอบวงเงิน 350,000 ล้านบาท ระบบการติดตามความก้าวหน้าในการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย การช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาปีที่จะเข้าร่วมโครงการรับจำนำข้าว
ขณะที่ กระทรวงศึกษาธิการ เสนอขอมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิตออกนอกระบบ โดยจะขอความเห็นชอบในหลักการร่าง พ.ร.บ.มหาวิทยาลัย สวนดุสิต พ.ศ. .... ทั้งนี้ กระทรวงศึกษาธิการพิจารณาแล้วเห็นว่า ร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวสอดคล้องกับหลักการกลางที่จะบัญญัติในร่าง พ.ร.บ.มหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 19 ส.ค. 2546 และมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 2 พ.ย. 2547 แล้ว ซึ่งมีสาระสำคัญ กำหนดให้มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิตเป็นนิติบุคคล มีฐานะเป็นหน่วยงานในกำกับของรัฐ ซึ่งไม่เป็นส่วนราชการตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน กฎหมายว่าด้วยระเบียบบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการ กฎหมายว่าด้วยการปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม และไม่เป็นรัฐวิสาหกิจ ตามกฎหมายว่าด้วยวิธีการงบประมาณและกฎหมายอื่น แต่ยังคงได้รับจัดสรรงบประมาณตามกฎหมายว่าด้วยวิธีการงบประมาณ กิจการของมหาวิทยาลัยไม่อยู่ภายใต้บังคับแห่งกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองแรงงาน กฎหมายว่าด้วยแรงงานสัมพันธ์ แต่พนักงานมหาวิทยาลัยต้องได้รับประโยชน์ตอบแทนไม่น้อยกว่าที่กำหนดไว้ ในกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองแรงงาน ในกรณีที่รัฐบาลได้ปรับเงินเดือน เงินประจำตำแหน่ง ค่าตอบแทนหรือสิทธิประโยชน์อื่นใดแก่ข้าราชการ ให้รัฐบาลจัดสรรงบประมาณในลักษณะเงินทุนอุดหนุนทั่วไปเพิ่มเติม ให้แก่มหาวิทยาลัยในสัดส่วนเดียวกันด้วย
กระทรวงมหาดไทยขออนุมัติให้ กฟภ.กู้เงิน 2,930 ล้านบาท ลงทุนแผนโครงการระยะยาว โดยกระทรวงมหาดไทย ขอความเห็นชอบการกู้เงินในประเทศ เพื่อเป็นแหล่งเงินลงทุนสำหรับแผนงานระยะยาวของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค โดยขอความเห็นชอบให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) กู้เงินในประเทศ ภายในกรอบวงเงินรวม 2,930 ล้านบาท เพื่อการลงทุนในแผนระยะยาว ที่กำหนดจะเริ่มดำเนินงานตั้งแต่ปี 2555 จำนวน 1 แผน ได้แก่ แผนสนับสนุนการดำเนินงานระยะที่ 3 โดยทยอยดำเนินการกู้เงินได้ตามความจำเป็นรายปี จนกว่าจะแล้วเสร็จ และขอความเห็นชอบให้กระทรวงการคลัง (กค.) สามารถค้ำประกันเงินกู้ของ กฟภ. เพื่อเป็นเงินลงทุนในแผนสนับสนุนการดำเนินงานระยะที่ 3 ภายในกรอบวงเงิน 2,930 ล้านบาทได้ โดย กค. สามารถพิจารณาความเหมาะสมของการค้ำประกันเงินกู้ได้สำหรับการกู้เงินในแต่ละคราว
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ขอความเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลเขาย่า อำเภอศรีบรรพต และตำบลชะมวง อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. … โดยสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) ได้แก้ไขแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกาโดยกันพื้นที่ที่ทับซ้อนกับป่าสงวนแห่งชาติ ป่าค่ายไพออกแล้ว ส่วนพื้นที่ที่ทับซ้อนกับป่าไม้ถาวรนอกเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าค่ายไพ (แปลงย่อยที่ 3 และแปลงย่อยที่ 4) และที่จำแนกออกจากป่าไม้ถาวรป่าค่ายไพ (แปลงย่อยที่ 3 และแปลงย่อยที่ 4) มิได้กันออกเนื่องจากการกำหนดตำแหน่งป่าสงวนแห่งชาติ ป่าค่ายไพ ที่กรมป่าไม้ส่งมอบให้กรมพัฒนาที่ดินกับส่งมอบให้ ส.ป.ก. มีความคลาดเคลื่อนกัน
รมว.เกษตรฯ ชง ครม.ไฟเขียวเปิดตลาดสินค้าเกษตรตามข้อผูกพัน WTO
นายธีระ วงศ์สมุทร รมว.เกษตรและสหกรณ์ ประธานกรรมการนโยบายและแผนพัฒนาการเกษตรและสหกรณ์เสนอขอความเห็นชอบ การเปิดตลาดสินค้าเกษตรตามข้อผูกพันองค์การการค้าโลก (WTO) ตามมติคณะกรรมการนโยบายและแผนพัฒนาการเกษตรและสหกรณ์ในคราวประชุมครั้งที่ 4/2554 เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2554 ดังนี้ 1. สินค้าหอมหัวใหญ่ ตามข้อผูกพันองค์การการค้าโลก ให้เปิดตลาดนำเข้า ปี 2555-2557 ปริมาณในโควตาปีละ 600 ตัน อัตราภาษีในโควตาร้อยละ 27 และอัตราภาษีนอกโควตาร้อยละ 142 2. สินค้าเมล็ดพันธุ์หอมหัวใหญ่ ตามข้อผูกพันองค์การการค้าโลกให้เปิดตลาดนำเข้า ปี 2555-2557 ปริมาณในโควตาปีละ 3.15 ตัน อัตราภาษีในโควตาร้อยละ 0 และอัตราภาษีนอกโควตา ร้อยละ 218 และ3. สินค้ามันฝรั่ง ตามข้อผูกพันองค์การการค้าโลก ให้เปิดตลาดนำเข้า ปี 2555-2557 3.1 หัวพันธุ์มันฝรั่ง โดยให้เปิดตลาดไม่จำกัดจำนวน อัตราภาษีในโควตาร้อยละ 0 (ตามข้อผูกพัน ร้อยละ 27) และอัตราภาษีนอกโควตาร้อยละ 125 3.2 หัวมันฝรั่งสดเพื่อแปรรูป ให้เปิดตลาดปริมาณในโควตาปีละ 36,000 ตัน อัตราภาษีในโควตา ร้อยละ 27 และนอกโควตาร้อยละ 125
