xs
xsm
sm
md
lg

“เตี้ย-ห้อย”ไม่หลงเกมแก้รธน. เพื่อไทยต้องเดิน “แผนซักฟอก”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ผ่านไปเรียบร้อยโรงเรียนประชาธิปัตย์สำหรับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ตีปี๊บกันนักหนาว่าจะเป็นปัญหาทำให้รัฐาลล่มปากอ่าว ผลปรากฏว่าเรือเทียบท่าตามที่คอลัมน์นี้ได้เคยวิเคราะห์ไปก่อนหน้านี้

สาเหตุหลักที่ทำให้ทั้ง “เตี้ยห้าสั้น”และ “ยี้ห้อย”เอาตีนก่ายหน้าผากนอนคิดหลายตลบจนได้บทสรุปยอมตามสูตร 375 + 125 ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใด ๆ กับเรื่องงบกลางหรือมีการแปลกเปลี่ยนผลประโยชน์ล่วงหน้าไปถึงโควต้ารัฐมนตรีเหมือนเดิมหลังการเลือกตั้ง

แต่เป็นเพราะทั้งสองคนเล็งเห็นถึงสัจธรรมว่า มิอาจฝากชีวิตการเมืองที่ต้องการ “เขตเล็ก”ใจจะขาดไว้กับมือของพรรคเพื่อไทยได้

เนื่องจากการตกปากรับคำเป็นมั่นเป็นเหมาะในวาระสองของแกนนำพรรคเพื่อไทยว่าจะร่วมโหวตสนับสนุนสูตร 400 + 100 นั้น แท้จริงเป็นเพียงการขุดบ่อล่อปลาให้ตายใจเท่านั้น แต่แผนสองของพรรคเพื่อไทยคือการพลิกเกมในการลงคะแนนวาระที่สามแทน

ซึ่งแน่นอนว่า เมื่อพรรคประชาธิปัตย์ไม่ให้คะแนนเสียงกับสูตรนี้และพรรคเพื่อไทยมาตลบหลังก็ย่อมทำให้คะแนนเสียงสนับสนุนสูตร 400 + 100 ที่ผ่านวาระสองตามที่มีการตกลงกับพรรคเพื่อไทยก่อนหน้านี้ย่อมคว่ำคะมำหงายไม่เป็นท่า

เพราะพรรคเพื่อไทยมีวาระซ่อนเร้นที่จะคว่ำรัฐธรรมนูญวาระสามเพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลยุบสภาเร็วกว่าที่ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี วางแผนไว้ โดยข้ออ้างว่าร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่เสนอโดย ครม.ไม่ผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภา

ก็ต้องแสดงความรับผิดชอบทางการเมือง ด้วยการยุบสภา

นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมพรรคเพื่อไทยยังไม่มีการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลในขณะนี้ เพราะตามรัฐธรรมนูญกำหนดว่า เมื่อมีการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายกรัฐมนตรีจะยุบสภามิได้ จนกว่าการอภิปรายจะแล้วเสร็จ

เกมของพรรคเพื่อไทยที่ล่อให้ “เตี้ยห้าสั้น”และ “ยี้ห้อย”มาร่วมวงด้วย จึงสะดุดลงเนื่องจากทั้งสองคนไม่ใช่ปลาดุกอุยที่จะตกหลุมพรางลงบ่อตามที่เพื่อไทยวางแผนไว้โดยง่าย เพราะเหนือสิ่งอื่นใดคนเหล่านี้ไม่ได้มีความคิดตีจากรัฐบาลอยู่แล้ว อีกทั้งยังตั้งความหวังสูงสุดไว้ที่ระบบเลือกตั้งแบบเขตเดียวเบอร์เดียว

ดังนั้นการฝากชะตากรรมว่าด้วยระบบเลือกตั้งไปอยู่ในอำนาจต่อรองของพรรคเพื่อไทยก็ดูจะโง่ดักดานเกินไป

เพราะถ้าไม่ผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภาในวาระสาม ส่งผลให้ต้องใช้กติกาเดิมตามรัฐธรรมนูญปี 50 ต่อไป คือจำนวนส.ส.มี 480 และระบบเลือกตั้งเป็นแบบเขตใหญ่เรียงเบอร์ ซึ่งเป็นระบบที่ทั้ง “ยี้ห้อย”และ “เตี้ยห้าสั้น”ไม่ปรารถนาและรังเกียจอีกต่างหาก ย่อมทำให้เสียแรงเปล่าและหมดปัญญาจะไล่บี้บีบคอให้พรรคประชาธิปัตย์ช่วยผลักดันให้เกิดการแก้ไขรัฐธรรมนูญได้อีก

เมื่อคิดสะระตะเช่นนี้ทั้ง “เตี้ยห้าสั้น”และ “ยี้ห้อย”จึงติดดิสเบรคก่อนตกลงไปในบ่อที่เพื่อไทยขุดล่อไว้ จึงเป็นที่มาของมติช่วงสายของวันที่ 25 มกราคมให้หนุนสูตร 375 +125 เพื่อรักษาหัวใจคือให้ได้เขตเดียวเบอร์เดียวไว้ก่อน

ทำเอาส.ส.หลายคนอารมณ์ค้างจนนำไปสู่การงดออกเสียงไปนับสิบ เพราะไม่อาจตอบสังคมได้หากเปลี่ยนมายกมือหนุนสูตร 375 + 125 ทั้ง ๆ ที่เคลื่อนไหวเอาเป็นเอาตายกับสูตร 400 + 100 มาโดยตลอด

แต่นั่นก็ไม่ทำให้เกิดปัญหาเพราะตามบทบบัญญัติของรัฐธรรมนูญระบุชัดว่า วาระสองใช้เพียงแค่เสียงข้างมากในรัฐสภาเท่านั้น มิใช่เสียงเกินกึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกรัฐสภาเหมือนที่ระบุไว้ในวาระที่สาม ซึ่งเชื่อได้เลยว่าพวกรักสูตร 400 + 100 จะกลับลำมาเทคะแนนให้กับสูตร 375 + 125 ในการประชุมเพื่อลงมติวาระที่สามวันที่ 11 กุมภาพันธ์ นี้อย่างแน่นอน

โดยให้เหตุผลว่า มีความเป็นประชาธิปไตยที่จะยอมรับมติเสียงข้างมากที่สนับสนุนผ่านวาระที่สองมาแล้ว

เมื่อเกมล่อให้พรรคร่วมรัฐบาลตีกันไม่สำเร็จ คราวนี้พรรคเพื่อไทยก็จะหันมาเดินเครื่องเต็มสูบกับญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ ซึ่งยังเป็นปัญหาว่าจะหาความเป็นเอกภาพภายในพรรคได้หรือไม่ เกมในสภาวันนี้จึงดู ชิว ชิว สำหรับรัฐบาล

แต่ภาระหนักอึ้งที่เป็นโจทย์ใหญ่ คือ ปัญหาค่าครองชีพที่พุ่งสูงขึ้นถึง 30 เปอร์เซ็นต์ นี่แหละ ที่จะเป็นจุดตายทำให้รัฐบาลอยู่ลำบาก และอาจถูกน็อคโดยประชาชนจากการเลือกตั้งครั้งหน้า ถ้ายังไม่สามารถแก้ปัญหาปากท้องให้กับประชาชนได้

กำลังโหลดความคิดเห็น