xs
xsm
sm
md
lg

เปิดเว็บล่าชื่อปลดป๋าโดยเสรี “พล.อ.สุรยุทธ์-นายพล 4 ดาว 5 ดาว” สบายใจอยู่หรือ

เผยแพร่:   โดย: "เซี่ยงเส้าหลง" และทีมข่าวการเมือง

•• ถูกต้องแล้วที่ สันติบาล ตัดสินใจที่จะ ดำเนินคดี กับเว็บไซต์ที่เรียกร้องให้ประชาชนเข้ามาลงชื่อถวายฎีกาเพื่อปลดองคมนตรีและรัฐบุรุษ

•• ก็ไม่รู้เหมือนกันว่า พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน, พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ (และจำเป็นต้องกล่าวถึง สิทธิชัย โภไคยอุดม) รวมตลอดถึง รัฐมนตรีคนอื่นที่เกี่ยวข้อง ท่านสบายใจดีอยู่หรือที่เปิดโอกาสให้สังคมไทยวันนี้ ล่ารายชื่อเพื่อถวายฎีกาปลดประธานองคมนตรีกันได้อย่างเสรี เพียงแต่มีเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ต่ออินเตอร์เน็ตได้แล้วเปิดเข้าไปในเว็บไซต์ www.TMCtoday.com แล้วคลิกเบา ๆ เข้าไปยังหน้า ร่วมลงนามถวายฎีกาปลด พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ออกจากองคมนตรี (ณ ที่อยู่ http://tmctoday.com/vote/vote5450.php) ทั้ง ๆ ที่ประเด็นนี้รัฐธรรมนูญทุกฉบับที่ผ่านมาและฉบับที่กำลังร่างกันอยู่ สงวน ไว้ให้เป็น พระราชอำนาจ – ตามพระราชอัธยาศัย ตัวอย่างจาก รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2540 ก็มีบัญญัติไว้ใน มาตรา 13 ชัดเจนว่า “...การเลือกและแต่งตั้งองคมนตรี หรือการให้องคมนตรีพ้นจากตำแหน่ง ให้เป็นไปตามพระราชอัธยาศัย.” และถ้าดูลึกเข้าไปถึงหนังสือถวายฎีกาสั้น ๆ ของคนกลุ่มนี้แล้วจะพบว่าไม่ได้เสนอให้ปลดป๋าเปรมออกจากเฉพาะตำแหน่ง องคมนตรี ยังเสนอให้ทรงปลดออกจากความเป็น รัฐบุรุษ ด้วยเหตุผลที่เลื่อนลอยไร้สาระ “...เนื่องจากมีการกระทำไม่เหมาะสมกับตำแหน่งหน้าที่ ไม่สมกับที่ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณ ไม่มีสำนึกในการปกครองระบอบประชาธิปไตย โดยมีหลักฐานอย่างชัดแจ้งและเป็นที่ประจักษ์ต่อสาธารณชนทั่วไป.” และ ฯลฯ เป็นการกระทำที่อุกอาจสุด ๆ แต่รัฐบาลชุดนี้และคณะรัฐประหารชุดนี้ที่พอถึงวันปีใหม่ทีหรือครบรอบวันเกิดทีก็ยกขบวนกันไป อวยพรป๋า, ขอพรป๋า ซึ่งที่สุดแล้วก็แค่ อามิสบูชา น่าสนใจว่านายพล 5 ดาวประดามีเหล่านี้รู้จักหรือไม่กับคำว่า ปฏิบัติบูชา มิพักต้องให้ “เซี่ยงเส้าหลง” เฝ้าสีซอให้ฟังว่าเป้าหมายโจมตีสูงสุดของคนกลุ่มนี้ไม่ใช่แค่ ประธานองคมนตรี, รัฐบุรุษ แต่นี่คือส่วนต่อยอดของ ยุทธการชนฟ้า หรือถ้าพูดให้ถึงที่สุดนี่ก็ไม่ต่างจากส่วนต่อยอดของ ปฏิญญาฟินแลนด์ ที่เกิดขึ้นมาในยุค พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีคนที่นายรัฐมนตรีแสนดีคนปัจจุบันนี้ รับฝากดูแลลูกเมีย, หาที่ยืนให้ตามหลักสมานฉันท์ ไม่รู้เหมือนกันว่าผลแห่งความสมานฉันท์ในวันนี้จะนำพาให้สังคมไทยในวันหน้าอันไม่ไกลนักก้าวสู่ จุดเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ แต่ไหนอย่างไร พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน - พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ จะมีชื่อจารึกไว้ในประวัติศาสตร์อย่างไร

•• ถ้าสื่อความถึง นายพล 4 ดาว 5 ดาว ผู้มีชื่อเสียงคับบ้านคับเมืองทั้งหลาย ไร้ผล บรรทัดนี้ “เซี่ยงเส้าหลง” ก็อยากจะสื่อถึงบรรดา นายทหารระดับคีย์แมนในแผนปฏิบัติการ ที่แฝงตัวเข้ามาในเมืองหลวงก่อนหน้า วันที่ 19 กันยายน 2549 อย่างน้อย ๆ ก็ 2-3 วัน หลายท่านในจำนวนนี้ไม่ได้มาเพราะเพียง คำสั่ง แต่มาด้วย จิตสำนึก ที่ตระหนักดีกว่า ประเทศชาติและราชบัลลังก์ตกอยู่ในภยันตรายชนิดที่ไม่อาจยับยั้งได้ด้วยมาตรการปกติ ท่านทั้งหลายในกลุ่มนี้เติบโตมาจากหน่วยที่รู้จักกันในนาม ทหารเสือพระราชินี ที่มีสีประจำหน่วยเป็น สีม่วง ท่านต้องไม่สบายใจอย่างยิ่งกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น

•• นับจาก พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา – ผช.ผบ.ทบ. ลงมาผ่าน พล.ท.ประยุทธ์ จันทร์โอชา – มทภ. 1 ไปยัง พล.ต.คณิต สาพิทักษ์ – ผบ.พล. 2 รอ. และทหารระดับปฏิบัติการทั้งใน พล. 2 รอ. และ ร. 21 รอ. หรือสูงขึ้นไปถึง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ – อดีต ผบ.ทบ. ล้วนเติบโตมาจาก สีม่วง มีส่วน เกี่ยวข้องโดยตรงชนิดเสี่ยงเป็นเสี่ยงตาย กับปฏิบัติการเมื่อ 6 เดือนก่อนทั้งสิ้น “เซี่ยงเส้าหลง” ว่าพวกท่าน ไม่สบายใจกับสถานการณ์ปัจจุบัน เช่นกันแต่ก็ ไม่รู้จะทำอะไร นี่คือความจริงที่ต้องยอมรับ

•• คำว่า สีม่วง ที่เป็นสีประจำหน่วยของ ทหารเสือพระราชินี ที่จริงแล้วคือ หัวใจสีม่วง หมายความว่า เป็นผู้ที่จงรักภักดีสูงสุด, ผู้บริสุทธิ์ ผู้มีความซื่อสัตย์ สุจริต และจริงใจเป็นที่ตั้ง ทั้งนี้เพราะเหตุผล “...ผู้ที่ใกล้เสียชีวิตหัวใจจะกลายจากสีแดงเป็นสีม่วง และในห้วงเวลานั้น ผู้นั้นจะไม่มีการพูดปดโกหกหรือปิดบังสิ่งใด ๆ.” สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถได้ทรงพระราชทาน หัวใจสีม่วง นี้แก่กำลังพลใน ร. 21 รอ. ทุกนายด้วยทรงมุ่งหวัง “...ให้กำลังพลทหารเสือทุกนายเป็นผู้มีความสื่อสัตย์ สุจริต และจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์.” นี่เป็นเรื่องที่ทหารส่วนใหญ่รู้แต่คนทั่วไปอาจจะไม่รู้

สัญลักษณ์ทหารเสือพระราชินี – หัวใจสีม่วงหมายถึงผู้บริสุทธิ์ ผู้มีความซื่อสัตย์ สุจริต และจริงใจเป็นที่ตั้ง ทั้งนี้เพราะ ผู้ที่ใกล้เสียชีวิตหัวใจจะกลายจากสีแดงเป็นสีม่วง และในห้วงเวลานั้นจะไม่มีการพูดปดโกหกหรือปิดบังสิ่งใด ๆ ซึ่งสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถได้ทรงพระราชทานหัวใจสีม่วงนี้แก่กำลังพลในกรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ทุกนาย ด้วยทรงมุ่งหวังให้กำลังพลทหารเสือทุกนายเป็นผู้มีความสื่อสัตย์ สุจริต และจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ส่วนพระนามาภิไธยย่อ “สก.” หมายถึง สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ องค์ผู้พระราชทานกำเนิดทหารเสือ ; เสือประคองหัวใจสีม่วง จึงหมายถึง กำลังพลทหารเสือทุกนายที่เทิดทูนความซื่อสัตย์ สุจริต และจงรักภักดี แทบเบื้องยุคลบาทองค์พระมหากษัตริย์และราชวงศ์ด้วยความจริงใจ ; ภูเขา เกลียวคลื่น และก้อนเมฆ หมายถึง ทุกหนทุกแห่งไม่ว่าจะเป็นบนฟ้า พื้นดิน ภูเขา หรือในทะเล ทหารเสือทุกนายพร้อมที่จะดั้นด้นไปเพื่อรักษาไว้ซึ่งความปลอดภัยของชาติ และองค์พระมหากษัตริย์

•• สถานการณ์จากวันนี้ไปส่วนหนึ่งขอให้จับตาที่ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ อย่าลืมว่าคอมเมนท์ของ มีชัย ฤชุพันธ์ นั้นไม่อาจถือว่า ธรรมดา คนคนนี้ไม่เพียงแต่จะเป็น ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เพราะคนที่สร้างสถิติเป็นสมาชิกสภาแต่งตั้งและประธานสภาแต่งตั้งที่ ยาวนานที่สุด กล่าวคือเป็น สมาชิกสภาแต่งตั้ง รวมกันแล้ว 5 สมัย 19 ปี (แยกเป็น สมาชิกสภานิติบัญญัติ 2 สมัย, สมาชิกวุฒิสภา 3 สมัย) เป็น ประธานสภาแต่งตั้ง รวมกันแล้ว 3 สมัย 9 ปี (โดยเป็น ประธานวุฒิสภาปี 2538 – 2543 และ ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ณ วันนี้) และถ้ารวมการเป็น รัฐมนตรีที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง เข้าไปด้วยก็จะยิ่งมหัศจรรย์เพราะท่านผู้นี้ดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี – มือกฎหมาย และเขยิบชั้นขึ้นครองตำแหน่ง รองนายกรัฐมนตรี – มือกฎหมาย รวมกันแล้ว 4 รัฐบาล 4 นายกรัฐมนตรี 15 ปี (เป็นต่อเนื่องกันตั้งแต่รัฐบาล พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์, พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ, อานันท์ ปันยารชุน และ พล.อ.สุจินดา คราประยูร) หรือถ้าจะย้อนไปก่อนหน้านั้นคนคนนี้ก็ดำรงตำแหน่ง ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมาย รวมกันแล้ว 5 รัฐบาล 5 นายกรัฐมนตรี 5 ปี (คือเริ่มตั้งแต่รัฐบาล สัญญา ธรรมศักดิ์, ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช, ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช, ธานินทร์ กรัยวิเชียร และ พล.อ.เกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์) ในช่วงต้นของรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เมื่อ ปี 2544 ก็รับตำแหน่ง ประธานคณะกรรมการปรับปรุงกฎหมายเพื่อการพัฒนาประเทศ ดังนั้นในเรื่องของ ประสบการณ์, ความเชี่ยวชาญ, ชั้นเชิง, เครือข่าย – ทั้งฟากนักการเมืองและข้าราชการประจำ นั้นทุกคนยอมรับว่า สุดยอด, ไร้เทียมทาน ผลงานที่ถือว่า โดดเด่น นั้น นับไม่ถ้วน และที่ “เซี่ยงเส้าหลง” ยังคงให้คะแนนสูงมาจนถึงปัจจุบันคือผลงานในฐานะ ประธานวุฒิสภาปี 2538 – 2543 ที่คร่อมทับช่วงเวลา วิกฤตเศรษฐกิจปี 2540 บทบาทของคนคนนี้ในขณะนั้นก็คือบทบาทโดยปริยายของ ผู้นำของสภาที่เป็นตัวแทนของกลุ่มทุนเก่า ที่พยายามจะเสนอบางด้านและบางระดับของ ลัทธิชาตินิยมทางเศรษฐกิจ นี่คือความดีความงามและความถูกต้องที่หลาย ๆ คนยัง จำได้ และตั้งความหวังให้คนคนนี้ผู้นี้ เดินตามรอยเท้าของตนเองในอดีต อีกครั้งในวันนี้

•• เพราะไหน ๆ วันนี้ มีชัย ฤชุพันธุ์ ก็ได้นั่งเป็น ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ที่อาจจะเป็น ปีสุดท้าย, สมัยสุดท้าย ใครจะชอบหรือไม่ชอบอย่างไรก็ตาม “เซี่ยงเส้าหลง” ว่าวิถีคิดในเชิงบวกก็คือ มองไปข้างหน้า, มีความหวังในมนุษยชาติ เฉพาะในประเด็นนี้ก็คือขอให้ท่านประธานสถิติโลกผู้นี้ได้ใช้ ข้อดี ให้เป็นประโยชน์ต่อบ้านเมือง ข้อเสีย ที่ผู้คนเขากริ่งเกรงและวิพากษ์วิจารณ์ก็มาขอให้ พิสูจน์กันด้วยผลงานในช่วงเวลา 6-8 เดือนที่เหลืออยู่ นะ

•• ย้ำอีกครั้งว่าช่วงนี้ไปจนถึงวันที่ 10 เมษายน 2550 อย่าลืมไปเที่ยวงาน สัปดาห์หนังสือแห่งชาติ จัดขึ้นที่เดิม ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ แวะสำนักพิมพ์ต่าง ๆ ที่ถูกใจแล้วเดินตรงไปที่ บู้ธ M 01 โซน C ชั้นล่าง สำนักพิมพ์บ้านพระอาทิตย์ จัดพิมพ์หนังสือพิเศษ คิดไม่เหมือนใคร ของ สนธิ ลิ้มทองกุล หนา 240 หน้า ราคา 180 บาท ไม่มีจำหน่าย – แต่ให้ฟรี -- เพียงซื้อหนังสือสำนักพิมพ์บ้านพระอาทิตย์ ราคารวมตั้งแต่ 400 บาทขึ้นไป รีบด่วนก่อนหนังสือหมด
กำลังโหลดความคิดเห็น