xs
xsm
sm
md
lg

เสียงบ่นจาก"ประธานมีชัย" กระจกสะท้อนที่"เทพแห่งการสมานฉันท์"ต้องรับฟัง

เผยแพร่:   โดย: "เซี่ยงเส้าหลง" และทีมข่าวการเมือง

มีชัย ฤชุพันธุ์
•• ไม่เพียงแต่คนทั่ว ๆ ไปรวมทั้ง “เซี่ยงเส้าหลง” เท่านั้นที่ รู้สึก ว่ารัฐบาลชุดนี้และนายกรัฐมนตรี เข้าเกียร์ว่าง (หรือถึงขั้น ไม่ได้สตาร์ทรถ, หารถไม่เจอ) ในการประชุมสัมมนาของ สนช. : สภานิติบัญญัติแห่งชาติ เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาที่ โรงแรมไอยรา ปาร์ค แอนด์ รีสอร์ท – จังหวัดอุทัยธานี แม้ไม่ได้พูดออกมาตรง ๆ แต่การออกมาเปิดประเด็นของ มีชัย ฤชุพันธุ์ – ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ให้สมาชิกร่วมกันคิดว่าจะทำอะไรในเชิง สร้างสรรค์ – ให้มีคุณค่าเหลือไว้แก่แผ่นดิน ในช่วงเวลาอีก 8 เดือนที่เหลืออยู่นอกเหนือไปจาก อยู่ไปวัน ๆ ตามจารีตเดิม ๆ รอพิจารณาแต่ร่างกฎหมายที่รัฐบาลเสนอเข้ามา โดยเสนอแนะว่าจะเป็นไปได้ไหมที่ สนช.จะร่วมกัน ปฏิบัติภารกิจ 4 ประการที่เป็นต้นเหตุแห่งรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 โดยวิธีการใด ๆ ก็ได้สุดแต่จะพิจารณาไม่ว่าจะเป็น ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญชุดใหม่, ใช้คณะกรรมาธิการชุดที่มีอยู่, ตั้งคณะทำงาน หรือ ฯลฯ ศึกษาถึง ลักษณะของปัญหา, มูลเหตุ, วิธีการ, ทางแก้ และ จัดทำร่างกฎหมายเป็นแพกเกจในนามของ สนช. เท่าที่อยู่ภายใน กรอบอำนาจของ สนช. (ซึ่งก็คือ ร่างกฎหมายที่ไม่เกี่ยวกับการเงิน) ให้เสร็จสิ้นเป็นรูปธรรม ภายใน 2 เดือน น่าจะทำให้ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ใช้เป็น กระจก ส่องมองดูตนเองว่า สังคมทุกระดับ ณ วันนี้เขา รู้สึก กับท่านอย่างไร

•• วันนี้ “เซี่ยงเส้าหลง” ไม่อยากมองอย่าง หาเรื่อง ว่าเป็นเพราะ สนช.มาจาก คมช. – ไม่ได้มาจากรัฐบาล จึงไม่อยากมองให้สอดคล้องกับที่เขียน ๆ มาว่าเป็น สัญญาณ, สัญลักษณ์ แต่อยากจะมองว่าเพราะ ทุกคนทุกฝ่ายเห็นภยันตรายของการไม่ทำในสิ่งที่ควรทำ จึงอยากจะ ช่วยทำ – ภายในกรอบอำนาจของตน หวังว่าภาพจาก กระจก ภาพนี้จะพอช่วย กระตุ้น คนที่มีอำนาจมากที่สุดในการทำงานอย่าง พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ได้บ้าง

•• ตามปกติตามระเบียบข้อบังคับ วิธีควบคุมรัฐบาล ที่ สนช.เคยทำมาโดยตลอดก็คือ ตั้งกระทู้ทั่วไป, ตั้งกระทู้สด, ยื่นญัตติ และ พิจารณาร่างกฎหมายงบประมาณ ถ้าข้อเสนอแนะของ มีชัย ฤชุพันธุ์ สำเร็จก็เท่ากับสภานิติบัญญัติชุดนี้จะบรรลุ จารีตใหม่ ในกระบวนการควบคุมรัฐบาลคือ กระบวนการนิติบัญญัติ, รายงานสำคัญของสภานิติบัญญัติ แต่รูปธรรมจะออกมาเป็นอย่างไรคงต้องเป็น ความยินยอมพร้อมใจของสมาชิกส่วนใหญ่ ที่จะจับมือกัน แหวกจารีตเดิม ในเรื่องของร่างกฎหมายที่พอจะตอบโจทย์ 4 ข้อของการรัฐประหารได้นั้น “เซี่ยงเส้าหลง” มองเห็นว่าสมาชิก สนช.ระดับ มือกฎหมาย อย่าง วิษณุ เครืองาม, บวรศักดิ์ อุวรรณโณ รวมทั้งตัวประธาน มีชัย ฤชุพันธุ์ นั้น มีอยู่ในใจ แค่ขยับไม่กี่เพลาก็ เรียบร้อย แต่ที่ผ่านมาที่ไม่ได้ทำอะไรนั้นเป็นเพราะ ไม่ใช่หน้าที่โดยตรง เรื่องนี้เป็น หน้าที่ของรัฐบาล ก็ได้แต่หวังว่าคนที่มีหน้าที่เขาจะไม่หมั่นไส้และมองเห็นเป็น ฝ่ายค้าน ไปนะ

•• บอกตามตรงว่าเขียนหนังสือทุกวันนี้ในหลายอารมณ์ เซ็งยิ่งนัก เปิดหนังสือพิมพ์ดูฟรีทีวีทุกวัน นับกันข่าวต่อข่าวนาทีต่อนาที – อำนาจใหม่พ่ายแพ้สิ้นเชิงในแนวรบด้านการข่าว ช่วงต้น ๆ ก็เกิดปรากฎการณ์ไฟไหม้โรงเรียนขู่ระเบิดโรงเรียนและการเรียงแถวดิสเครดิตจาก สมุนโจรทุกระดับ – โดยเฉพาะระดับปลายแถว แต่อำนาจใหม่กลับบำเพ็ญตนเป็น ทองไม่รู้ร้อน คนรักคนสนับสนุนเสนออะไรต่อมิอะไรไป เงียบ, เงียบ และ เงียบ อำนาจใหม่บอดบ๊องอะไรก็ไม่รู้ ใช้คนเก่าของอำนาจเก่าโดยไม่ตะขิดตะขวงใจ หลายเดือนมานี้ทุกคนที่รักที่สนับสนุนอำนาจใหม่คณะนี้มีแต่จะต้อง ทำใจ, ทำใจ และ ทำใจ เห็นกันชัด ๆ กว่าจะเปลี่ยนตัว ผบ.ตร. ได้ก็แทบจะ สายเกินการณ์ นับวันมันยิ่งชัดเจนว่า พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ท่านวางตนไว้สูง อยู่นอกเหนือวงความขัดแย้งทางการเมือง – ยึดหลักประนีประนอมสมานฉันท์ สถานการณ์วันนี้ม็อบสารพัดม็อบทั้งที่เกิดจากความเดือดร้อนโดยธรรมชาติตามฤดูกาลเข้าหน้าแล้งและที่มี จัดตั้ง เริ่มทยอยเข้ามา อย่าว่าแต่ ความสามารถในการแก้ปัญหา เลยแม้แต่ ชื่อ รมว.เกษตรฯ วันนี้หลายคนยัง จำไม่ได้ วันนี้ม็อบเหิมถึงขนาดขู่จะ ถวายฎีกา – ให้ปลดประธานองคมตรี ลูกป๋าทั้งหลายที่นั่งหั่วโด่หัวเด่อยู่ในตำแหน่งต่าง ๆ ก็ได้แต่ ใบ้รับประทาน ต่างกับบรรดาทหารยุคก่อน ๆ ที่พอ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช ออกมา เดินหน้าชน ก็มีลูกน้องที่จงรักภักดีและเจ็บแค้นแทนนายไป เขย่ารั้วบ้านสวนพลู หรือไม่ก็ จัดชุมนุมสำแดงพลัง สถานการณ์เช่นนี้เริ่มทำให้ผู้คนที่เป็นกลางและที่สนับสนุนอำนาจใหม่ อึดอัดคับข้อง – คลายศรัทธา แต่จะทำอะไรได้นอกจาก ทำใจ, ทำใจ และ ทำใจ วิพากษ์วิจารณ์ไปก็ตกอยู่ในสถานะเหมือนกับที่ สนธิ ลิ้มทองกุล เคยกล่าวเอาไว้ตรงใจยิ่งนักเมื่อ 2 เดือนก่อนว่า “...เหมือนเลือดไหลตกในอยู่ข้างในอก.” เพราะจะโขมงโฉงเฉงสักแต่ด่าแต่ประณามหรือ ขับไสไล่ส่ง ก็ยิ่ง เข้าทาง(ตีน)กลุ่มอำนาจเก่า ก็ได้แต่ท่องคาถามองโลกในแง่ดีปลอบใจตัวเองไปวัน ๆ ว่า “...เอาน่า ถึงอย่างไรก็ยังดีกว่านายทักษิณยังอยู่ในอำนาจ เราเคยลำบากมามากกว่านี้ อดทนลำบากต่อไปอีกสักหน่อยจะเป็นไร.” ทั้ง ๆ ที่ในส่วนลึกมี เสียงค้าน ค่อนข้างดังแข่งออกมาว่า “...ถ้ายังคงไม่เป็นโล้เป็นพายอย่างนี้ นายทักษิณจะกลับมาในไม่ช้า และครั้งนี้จะใหญ่กว่าเก่า เพราะผ่านกระบวนการฟอกตัวโดยกลุ่มอำนาจใหม่ที่ไร้เดียงสาไปแล้ว หรือถ้านายทักษิณคนเดิมไม่มา ก็จะมีทักษิณ 2 ทักษิณ 3 ทักษิณ 4 เกิดขึ้นมา การปฏิรูปการเมืองจากการลงทุนรัฐประหารที่แพงที่สุดครั้งหนึ่งของบ้านเราไม่มีทางเกิด.” ในเสียงค้านที่ว่านี้ยังบอกด้วยว่าที่ว่าอำนาจใหม่มีบุญคุณต่อประชาชน ไม่ทำให้เสียเลือดเนื้อ แต่ถึงที่สุดแล้วจะ เป็นจริงอยู่นานขนาดไหน พลังประชาชนที่บ่มเพาะมา 1 ปีเต็มนับแต่ เดือนกันยายน 2548 มีอันสะดุดหยุดลงเพราะ (จำเป็นต้อง)หลีกทางให้กับการรัฐประหาร โดยธรรมชาติแล้วคงจะต้อง ใช้เวลาบ่มเพาะใหม่ หากต้องเผชิญหน้า วิกฤตครั้งใหม่ ช่างเป็นเรื่อง Irony of Life เสียนี่กระไรที่ด้านหนึ่ง รัก, สนับสนุน และ (เคย)เชื่อมั่น แต่อีกด้านหนึ่งกลับต้อง เจ็บปวดรวดร้าว เสียแต่เวลาไม่อาจหวนคืนไม่อาจหันกลับไปขอลองอีกทางเลือกให้ไม่มีรัฐประหารวันที่ 19 กันยายน 2549 เปิดโอกาสให้ พลังประชาชนจากทั่วประเทศออกไปต่อสู้ครั้งสุดท้ายจัดชุมนุมที่ลานพระบรมรูปทรงม้าตามกำหนดนัด 20 กันยายน 2549 ถึงจะเจ็บปวดถึงจะแพ้พ่ายและอาจจะถึงกับตายก็ ด้วยการกระทำของเราเอง น่าเสียดายเวลาไม่อาจหวนคืน

•• คนอย่าง สนธิ ลิ้มทองกุล นั้นตลอดชีวิตยึดคติ เป็นเสือต้องไม่ร้อง – มีแต่หมาเท่านั้นที่ร้อง แพ้คดีหมิ่นประมาทในศาลชั้นต้น เรื่องปกติ, เรื่องที่ต้องเคารพคำพิพากษา ลับลมคมในมีหรือไม่ “เซี่ยงเส้าหลง” ไม่ว่าจะรู้หรือไม่รู้ก็มีค่าเท่ากัน พูดไม่ได้ จริง ๆ แต่ก็อยากจะฝากบอกไปถึง พล.อ.สนธิ บัญรัตกลิน, พล.อ.วินัย ภัททิยะกุล, พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา และ พล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร ว่าท่านคิดกันอย่างไรในกรณีนี้

•• วันนี้ สนธิ ลิ้มทองกุล ตกเป็นจำเลย ลูกกระเป๋งทักษิณ และ แพ้คดีในศาลชั้นต้น แต่วันหน้าถ้าพวกท่านบริหารจัดการได้ไม่รอบคอบพอ ชื่อจำเลย จะเปลี่ยนไปเป็น หนึ่งในพวกท่าน เชื่อ “เซี่ยงเส้าหลง” ซิ

•• ส่วน พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นั้นท่านเป็น เทพ เป็น เทพแห่งการประนีประนอม, เทพแห่งการสมานฉันท์ ไปแล้วไม่มีวันจะตกเป็น จำเลย ของใครหรอก “เซี่ยงเส้าหลง” ไม่แปลกใจที่ มุก ของบรรดา ลูกกระเป๋งทักษิณ ขนาดจะยื่นถวายฎีกายังไม่เสนอให้ ปลดนายกรัฐมนตรี แต่ข้ามไปเป็น ปลดประธานองคมนตรี อย่างนี้ไม่เรียกว่า เทพ ได้อย่างไร

•• ช่วงนี้ไปจนถึงวันที่ 10 เมษายน 2550 อย่าลืมไปเที่ยวงาน สัปดาห์หนังสือแห่งชาติ จัดขึ้นที่เดิม ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ แวะสำนักพิมพ์ต่าง ๆ ที่ถูกใจแล้วเดินตรงไปที่ บู้ธ M 01 โซน C ชั้นล่าง สำนักพิมพ์บ้านพระอาทิตย์จัดพิมพ์หนังสือพิเศษ คิดไม่เหมือนใคร ของ สนธิ ลิ้มทองกุล หนา 240 หน้าราคา 180 บาท ไม่มีจำหน่าย – แต่ให้ฟรี -- เพียงซื้อหนังสือสำนักพิมพ์บ้านพระอาทิตย์ราคารวมตั้งแต่ 400 บาทขึ้นไป รีบด่วนก่อนหนังสือหมด
ปกหน้า

พิเศษสุด! สำหรับนักอ่านในงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ
สำนักพิมพ์ บ้านพระอาทิตย์ จัดพิมพ์หนังสือพิเศษ
คิดไม่เหมือนใคร ของ สนธิ ลิ้มทองกุล หนา 240 หน้า ราคา 180 บาท
หนังสือเล่มนี้ ไม่มีจำหน่าย แต่เราให้ฟรี
เพียงซื้อหนังสือ สำนักพิมพ์ บ้านพระอาทิตย์ ตั้งแต่ 400 บาทขึ้นไป
รับหนังสือ คิดไม่เหมือนใคร ราคา 180 บาท ทันที
( ใบเสร็จ 1 ใบต่อหนังสือ 1 เล่ม )
ที่ บู๊ท สำนักพิมพ์ บ้านพระอาทิตย์ M01 โซน C ชั้นล่าง
( 30 มีนาคม-10 เมษายน นี้เท่านั้น )

รีบด่วนก่อนหนังสือหมด

ปกหลัง
กำลังโหลดความคิดเห็น