xs
xsm
sm
md
lg

ฤาน้ำจะท่วมฟ้า 2550 : วีรชนกลายเป็นผู้ต้องหาฆ่าคนตาย – ขี้ข้าทรราชกลายเป็นวีรชนสื่อเสรี

เผยแพร่:   โดย: "เซี่ยงเส้าหลง" และทีมข่าวการเมือง

•• หยุดเขียนไปหลายวันเพราะภารกิจอื่นรัดตัว “เซี่ยงเส้าหลง” ขอบอกว่ากรณี ไอทีวี (หรือ ทีไอทีวี ย่อมาจาก ทักษิณไอทีวี เพื่อสื่อความ ไอทีวีของทักษิณที่รัฐบาลสุรยุทธ์รับฝากเอาไว้ชั่วคราว) ไม่ว่าจะอย่างไรก็ได้เกิด ความผิดสำเร็จ ขึ้นแล้วตั้งแต่ เวลา 00.01 น. วันที่ 8 มีนาคม 2550 ที่จู่ ๆ รัฐโดย กรมประชาสัมพันธ์, สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ได้เข้าไปดำเนินการออกอากาศสถานีโทรทัศน์ที่ยึดคืนมาโดย คลื่นเดิม, พนักงานชุดเดิม, ผู้ผลิตรายการจากภายนอกชุดเดิม, โฆษณาตามสัญญาเดิม, อุปกรณ์เดิมที่ยังไม่ได้ตรวจรับมอบอย่างเป็นทางการ ในลักษณะที่ ไร้ความชัดเจนในทุกกรณี และที่สำคัญที่สุด ไม่มีหน่วยงานใดรับรองความชอบด้วยกฎหมาย (ไม่ว่า สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา หรือ ศาลปกครอง) ขอย้ำว่านี่เป็น ความผิดสำเร็จ ที่ไม่ว่าต่อมาจะหาทาง เอาสีข้างเข้าถู – ทำสัญญาย้อนหลัง อย่างไรก็ตามจะต้อง รับโทษ ใน ความผิดสำเร็จ ที่เกิดขึ้นไปแล้ว

•• ลำพังแค่เรื่องของตัวเองสารพัดสารพัน พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ยังแทบ เอาตัวไม่รอด ลำบากถึง พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ต้องหอบสังขารออกมา อุ้ม สังคมที่ไม่เข้าใจว่าเหตุไฉนท่านถึง ดันทุรัง นักหนาสาหัสที่จะ เอาลูกเขามาเลี้ยง – เอาเมี่ยงเขามาอม จึงเริ่มคิดเริ่มฝันกันไปต่าง ๆ นานาจนแม้ Conspiracy Theory ที่ว่า ท่านและป๋าถูกแบล็กเมล์จากเครือข่ายอำนาจเก่าว่าจะแฉเรื่องราวที่สังคมจะต้องช็อก ที่ในตอนแรก ๆ ดูเหมือน ไร้สาระ เริ่มเปลี่ยนแปลงไปเป็น มีคนเชื่อมากขึ้น นี่คือเรื่องจริง

•• สำหรับ “เซี่ยงเส้าหลง” จะไม่พูดว่า เชื่อ, ไม่เชื่อ ในข้อมูลต่าง ๆ เหล่านั้นเพราะ ไม่สนใจ, ไม่เคยเชื่อในความเป็นคนดีแบบพระในบริบทการเมืองและบ้านเมือง แต่จะตัดสินคนอย่าง พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ที่อาสาเข้ามาจัดการงานบ้านเมืองกันที่ ผลงานในปัจจุบัน มากกว่า

•• ฝาก พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ไว้อีกครั้งไม่ว่าในกรณี ไอทีวี หรือกรณีอื่น ๆ การรับอาสา คมช.เข้ามาเป็น นายกรัฐมนตรี ท่านจะต้อง คิดอย่างการเมือง – ทำอย่างการเมือง ไม่ใช่ คิดอย่างข้าราชการ – ทำอย่างข้าราชการ และคำว่า การเมือง นั้นไม่ใช่มีแต่ ด้านเลวร้าย, ด้านสกปรก ที่จะต้องหลีกเลี่ยงหรือดัดจริตทำให้เห็นเป็นว่า ตนเองสูงส่งเกินกว่าจะเกลือกกลั้ว สำหรับคนที่คิดว่า สูงส่งเกินกว่าจะเกลือกกลั้วกับการเมือง วิถีทางที่ดีที่สุดทางเดียวสำหรับตัวเองและประเทศชาติก็คือ เร่งลาออกไปเสีย อย่ามาอ้างโน่นอ้างนี่เพื่อปกปิดความเป็นคนที่ อยากกินอาหารอร่อยโดยไม่ยอมเข้าครัวแล่เนื้อหั่นผัก อยู่เลย “เซี่ยงเส้าหลง” ขอฟันธงตรง ๆ ว่ามีอยู่อีกปัญหาหนึ่งที่ท่านจะต้อง เร่งคิด, เร่งทำ และ เร่งแก้ปัญหา ให้ได้เท่าเทียมกับกรณีทีวีมหัศจรรย์ก็คือ ปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ การที่ ทหารพรานหน่วย 4905, 4305 บุกเข้าโจมตีฐานที่มั่นของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบบน เทือกเขาตะเว เมื่อ วันที่ 2 มีนาคม 2550 เป็นเหตุให้ผู้ต้องสงสัยว่าเป็นกองกำลังหรือผู้รับการอบรมเข้าเป็นกองกำลังของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ เสียชีวิต 5 คน นั้นแม้ในทางยุทธศาสตร์แล้วถือเป็น จุดพลิกผันของสถานการณ์ ที่สามารถ สร้างขวัญสร้างกำลังใจ ให้กับทั้ง เจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย, มวลชนทั้งพุทธและมุสลิมในพื้นที่ และ มวลชนทั่วประเทศ แต่ขอโทษทีว่าชั่วข้ามวันทหารพรานหน่วยนั้นภายใต้การนำของผู้บังคับบัญชาต้อง เดินแถวเข้ามอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อรับทราบข้อหาสำคัญ ฆ่าคนตาย เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นแล้วบนผืนแผ่นดินนี้ที่ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ จะนั่งทำสมาธิอยู่กับบ้านกับทำเนียบไม่ได้แต่จะต้อง เร่งชี้แจง, เร่งแก้ไข อย่าง รวดเร็ว ในระดับที่อย่างน้อยก็ต้องให้เท่าเทียมกับที่ลุกลี้ลุกลนทำไปโดยไม่กริ่งเกรงต่อกฎหมายเหมือนกรณีทีวีมหัศจรรย์ อย่าอ้าง ว่าทั้งหมดเป็นไปตาม แบบพิธี ที่ในที่สุดแล้วเจ้าพนักงานสอบสวนก็ต้อง สั่งไม่ฟ้อง ท่านเองก็ ยอดทหาร มีบ้างไหนในสมรภูมิใดที่เมื่อออกแนวหน้าปะทะข้าศึกแล้วลั่นกระสุนปลิดชีพฝ่ายตรงกันข้ามแล้วจะต้อง ถูกตั้งข้อสงสัยไว้ก่อนว่าฆ่าคนตายตามฐานความผิดปกติในประมวลกฎหมายอาญา แบบพิธีใดที่ก่อให้เกิดเรื่องน่าเศร้าทำนองนี้ขึ้นหากมีก็ต้อง แก้ไขโดยเร่งด่วน โดยไม่มีข้อแม้

•• อย่าให้เกิดภาพ วีรชนต้องกลายเป็นผู้ต้องหาฆ่าคนตาย – ที่รัฐบาลไม่ถามไถ่ ในกรณี เทือกเขาตะเว ขึ้นมาเปรียบเทียบกับภาพ ขี้ข้าทรราชกลายเป็นวีรชนสื่อเสรี – ที่รัฐบาลต้องโอบอุ้ม ในกรณี ไอทีวี ขึ้นมาให้ เจ็บช้ำน้ำใจประชาชนผู้เสียภาษีอากรทั้งประเทศ เลย

•• ลำพังแค่ส่ง ร่างกฎหมาย ศอ.บต. เข้าสู่สภานิติบัญญัติแห่งชาติโดยให้ขึ้นอยู่กับ กระทรวงมหาดไทย ก็แทบ ล่ม มาแล้ว พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ อย่าได้ประมาท ปรากฏการณ์เทือกเขาตะเว – เมื่อวีรชนต้องกลายเป็นผู้ต้องหาฆ่าคนตาย เร่งรัด ถามไถ่, แก้ไข เสียโดยเร็วไว

•• พูดถึงเรื่อง ไอทีวี กับเรื่อง เทือกเขาตะเว แล้ว “เซี่ยงเส้าหลง” ก็อยากจะอุทานด้วยคำที่เป็นชื่อหนังสือเล่มสำคัญของ เสฐียรพงษ์ วรรณปก เมื่อ ปี 2515 สั้น ๆ แต่เพียงว่า “...ฤาสมัยนี้โลกมันเอียง.” ถ้าจะมีอีกคำก็เห็นจะเป็นชื่อข้อเขียนของ ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ ที่รวมอยู่ในหนังสือขายดีของสำนักพิมพ์บ้านพระอาทิตย์ 10 วิกฤตชาติ 50 สั้น ๆ เช่นกันว่า “...ฤาน้ำจะท่วมฟ้า 2550.” อนิจจา

•• ย้ำอีกครั้งมายัง พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ว่าในรอบ 5 – 6 ปีที่ผ่านมาหรือย้อนไปถึง 8 ปีนับแต่ถือกำเนิด พรรคไทยรักไทย ประชาชนคนไทยทั้งในชนบทและเมืองหลวงได้ ลิ้มรสความแปลกใหม่ทางการเมือง มาจนเริ่มจะ ชิน, ติด เริ่มจากส่วนแรก ประชาชนในเมืองหลวง ชินในวิธีการบริหารประเทศที่ กระฉับกระเฉง, ถือเป้าหมายเป็นหลัก พูดง่าย ๆ คือวิธีการแบบ นักธุรกิจ ไม่ใช่วิธีการแบบ ข้าราชการประจำ ในขณะที่ ประชาชนในชนบท ชินในนโยบาย ประชานิยม รัฐบาลชุดที่ผ่านมาแม้จะมี เจตนาไม่บริสุทธิ์ แต่ก็ได้ทำให้คนชนบทจำนวนมากเห็นว่า เป็นรัฐบาลชุดแรกที่กำหนดนโยบายเพื่อคนจนในชนบท ทั้ง 2 ส่วนนี้เสียหายเพราะ สุดโต่งเกินไป, โกงกินมโหฬารเกินไป และ เหิมเกริมเกินไป แต่ประชาชนไม่ได้คาดหวังจะให้การโค่นล้มรัฐบาลชุดที่ผ่านมานำไปสู่การเปลี่ยนแปลงชนิด ตรงกันข้าม, ย้อนยุค ต้องยอมรับเนื้อนาดินอันอุดมที่เอื้อต่อการเติบโตอย่างรวดเร็วของ พรรคไทยรักไทย และ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร คือความล้าหลังและความไม่มีประสิทธิภาพของ รัฐราชการ และบรรดา พรรคการเมืองที่อิงแอบรัฐราชการ ถ้ารัฐบาลใหม่และระบอบการเมืองใหม่หลังการเปลี่ยนแปลง ไม่ได้สร้างความเชื่อว่าประเทศไทยจะเดินไปข้างหน้าอย่างมีทิศทาง ได้ในเร็ววัน ระยะเวลาแห่งการให้โอกาส ครั้งนี้จะ หมดไป ลองเปรียบเทียบกันเล่น ๆ จะพบได้ว่า รัฐบาลหลังรัฐประหาร 23 กุมภาพันธ์ 2534 นั้น ได้รับการยอมรับสูงกว่า รัฐบาลหลังรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 ครั้งนี้ หลายเท่า แต่ที่ พังครืน ลงเมื่อ พฤษภาคม 2535 ก็ไม่ใช่เพราะประชาชน เบื่อรัฐบาลชั่วคราว หากแต่เพราะยอมรับไม่ได้กับ ความพยายามสืบทอดอำนาจของคณะรัฐประหารชุดนั้นผ่านการเลือกตั้งในระบอบประชาธิปไตยจอมปลอม ระยะเวลา 1 ปีเท่า ๆ กันรัฐบาลที่อยู่ภายใต้การนำของ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ จะทำได้ดีเท่ากับ อานันท์ ปันยารชุน หรือไม่คง ไม่ต้องตอบ น่าเป็นห่วงว่าจะเกิดสถานการณ์ ความไม่พอใจ 2 ประสาน เพราะค่อนข้างชัดเจนว่า คนชั้นกลางในเมืองหลวงจะไม่ประทับใจ พร้อม ๆ กับที่ คนชนบทยังขึ้นอยู่กับนักการเมืองในระบบอุปถัมภ์ ในขณะที่ การปฏิรูปการเมือง, การปฏิรูปสื่อ หมดหวังโดยเกือบจะสิ้นเชิง

•• ความที่เป็น รัฐบาลที่มาจากการรัฐประหาร ไม่ว่าจะชอบหรือไม่ก็ตาม พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ จะต้องยอมรับว่าท่านได้กระโจนเข้าสู่ การเมืองขั้นสูงสุด ถ้ารัฐบาลลักษณะนี้ยังคงปฏิเสธการเมือง ความโหดร้ายของการเมืองก็จะหันมาเล่นงานโดยไม่ปรานี และนอกจากตัวรัฐบาลแล้วเป้าหมายหลักที่จะถูกเล่นงานโดยไม่ปรานีไม่แพ้กันก็คือ ภารกิจอันใหญ่หลวงที่ระบอบรัฐประหารอาสาเข้ามาแบกรับ ซึ่งก็คือ “...ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข.” ถ้าพลาดพลั้งรัฐบาลก็จะ ไม่พังทลายคนเดียว แต่จะ พาระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขพังทลายลงไปด้วย นี่พูดมาด้วยความจริงใจและจริงจัง
กำลังโหลดความคิดเห็น