xs
xsm
sm
md
lg

เสนอระบบ"อัยการอิสระ"ฟัน"ผู้นำ"งาบสุวรรณภูมิ - "กัญจนา"แจง สามีเปล่าเอี่ยว บ.พีอาร์"แม้ว"

เผยแพร่:   โดย: "เซี่ยงเส้าหลง" และทีมข่าวการเมือง


•• วันนี้เห็นเรื่องราวของ สนามบินสุวรรณภูมิ บานปลายขยายใหญ่โตกินปริมณฑลกว้างขวางใน หลายมิติ โดยเฉพาะมิติด้าน คอร์รัปชั่น – ที่ครอบคลุมหลายรัฐบาลเป็นระยะเวลาเกิน 10 ปี แล้ว “เซี่ยงเส้าหลง” อยากจะคิดดัง ๆ หลังจากได้ยินท่านผู้เชี่ยวชาญด้านรัฐธรรมนูญหลายท่านรวมทั้ง วิษณุ เครืองาม, บวรศักดิ์ อุวรรณโณ คิดดัง ๆ ออกมาก่อนว่าในร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่น่าจะมี ระบบอัยการอิสระ หรือ Independent Council ตามแบบอย่าง สหรัฐอเมริกา เพื่อไว้เป็นเครื่องมือทำคดีสำคัญที่เกี่ยวพันกับผู้นำการเมืองสูงสุดที่สามารถครอบงำองค์กรอื่น ๆ ได้หมด ความคิดดัง ๆ ที่ว่านี้มี 2 ประเด็น ประเด็นหนึ่งนั้นแน่นอนว่าการสืบสวนหาคนกระทำความผิดกรณี สนามบินสุวรรณภูมิ จะเริ่มต้นอย่าง มีหลักประกัน ก็ต่อเมื่อบ้านนี้เมืองนี้มี ระบบอัยการอิสระ (ไม่ใช่เพียงแค่ คณะกรรมการอิสระ ตามข้อเสนอของ พรรคประชาธิปัตย์) ยอมรับกันได้แล้วสถานการณ์ขณะนี้เกินกำลังของ กระทรวงคมนาคม, บอร์ด ทอท. และ คตส. อีกประเด็นหนึ่งที่สำคัญและถือเป็นประเด็นหลักก็คือ ทำไมจะต้องรอจนมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ รัฐบาลนี้สามารถ กระทำได้ทันที โดยกระบวนการ ออกกฎหมายที่จำเป็น ซึ่งอาจรวมทั้ง แก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ 2549 ซึ่งแน่นอนว่าจะได้รับความร่วมมืออย่างเต็มที่จาก สนช. (หรืออาจจะให้ สนช. เป็น ผู้ริเริ่ม) เชื่อว่าภายในระยะเวลา ไม่เกิน 1 ปี ข้อสรุปจะถึงมือ ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งการเมือง พูดง่าย ๆ อีกลักษณะหนึ่งก็คือ แบ่งงานที่เกี่ยวกับสนามบินสุวรรณภูมิทั้งหมดมาจาก คตส.แต่จะเรียกว่า คตส. 2 ก็ไม่ได้เพราะ ระบบอัยการอิสระ จะมีลักษณะอำนาจ กว้างขวางกว่าคตส. คือจะไม่ใช่แค่ทำหน้าที่เสมือน พนักงานสอบสวน แต่จะเป็นการรวม 2 - 3 ขั้นตอน พนักงานสอบสวน + พนักงานอัยการ เข้ามาอยู่ภายใต้การนำของ ผู้มีประสบการณ์ทางกฎหมายและทางการเมืองที่ได้รับความเชื่อถือศรัทธาจากประชาชน – โดยความยินยอมพร้อมใจของที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา ควรเข้าใจว่ากรณี สนามบินสุวรรณภูมิ นี้ถ้าปล่อยให้ถึงยุค รัฐบาลจากการเลือกตั้ง ก็ยากที่พวกเขาจะดำเนินการใด ๆ ไปโดยไม่เกรงสภาวะ ลูบหน้าปะจมูก เพราะนักการเมืองและพรรคการเมืองที่มีอยู่ทั้งหมดขณะนี้ ล้วนมีส่วนเกี่ยวข้องกับสนามบินสุวรรณภูมิในช่วงใดช่วงหนึ่ง – ไม่มากก็น้อย หากริเริ่มกระบวนการชำระสะสางเสีย ตั้งแต่วันนี้ วิกฤตที่เกิดขึ้นก็มีโอกาสแปรเป็นโอกาส สนามบินสุวรรณภูมิจะเป็นสุสานของขบวนการโกงชาติปล้นประเทศได้ไม่ยาก ขอคิดดัง ๆ ชนิดหวังให้ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์, พล.อ.สนธิ บุญรัตกลิน ได้ยินมา ณ ที่นี้แต่เพียงเท่านี้

•• อันว่า ระบบอัยการอิสระ จะมีรูปร่างหน้าตาเป็นอย่างไร “เซี่ยงเส้าหลง” ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายก็เลยพอจะบอกได้แต่เพียงว่าเรื่องที่จะเข้าสู่กระบวนการนี้จะต้อง ใหญ่จริง ๆ ผู้ริเริ่มอาจจะมีได้หลายช่องทางตั้งแต่ รัฐบาลโดยมติเห็นชอบของสภา, เสียงข้างมากเด็ดขาดของสภา, ประชาชนเข้าชื่อกัน 50,000 คน, ที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกามีมติ แต่ไม่ว่าจะเป็นช่องทางใดก็จะต้อง ได้รับมติเห็นชอบจากที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา จากนั้นก็นำไปสู่กระบวนการแต่งตั้ง อัยการอิสระ โดยการเลือกสรรของ ที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา ที่จะพิจารณาเลือกจาก ผู้มีประสบการณ์ทางกฎหมายและทางการเมืองที่ได้รับความเชื่อถือศรัทธาจากประชาชน (รวมทั้ง อดีตนายกรัฐมนตรี) มาเพียง 1 คน แล้วให้ท่านผู้นี้ดำเนินการ เลือกสรรคณะทำงาน – โดยได้รับการสนับสนุนทั้งด้านบุคลากรและด้านงบประมาณจากรัฐ กำหนดระยะเวลาทำงาน ภายใน 1 ปี โดยอาจจะกำหนดให้ ขอต่ออายุได้ครั้งละ 3 เดือนไม่เกิน 2 ครั้ง ถ้าจะทำกันจริง ๆ น่าจะทำได้นะ

•• ยกตัวอย่างเปรียบเทียบกับ เหตุการณ์ใหญ่ ๆ ในอดีต พูดง่าย ๆ ว่า “เซี่ยงเส้าหลง” คิดฝันที่จะพัฒนาและยกระดับองค์กรที่ผู้คนเชื่อถืออย่าง ศปร. (ภายใต้การนำของ นุกูล ประจวบเหมาะ ที่ทำหน้าที่ศึกษา วิกฤติเศรษฐกิจ 2540) และ กอส. (ภายใต้การนำของ อานันท์ ปันยารชุน ที่ทำหน้าที่ศึกษา วิกฤติ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้) ให้พ้นจากแค่ระดับ คณะกรรมการ..., คณะกรรมการอิสระ... ที่ทำได้แค่ ศึกษา, เสนอแนะ เพื่อให้ คาราคาซัง – ฉี่ไม่สะเด็ดน้ำ ขึ้นมาเป็นองค์กรที่ใช้อำนาจของ พนักงานสอบสวน + พนักงานอัยการ ที่ทำงานเฉพาะกิจ เพียง เรื่องเดียว – ภายในระยะเวลาจำกัด แต่สามารถทำให้ สะเด็ดน้ำ คือ ส่งสำนวนสู่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งการเมืองและ/หรือศาลอื่นที่เกี่ยวข้อง ได้

•• ยืนยันมาจาก กัญจนา สปินด์เลอร์ ว่าเธอนอกจากจะไม่เคยเกี่ยวข้องแม้แต่เล็กน้อยกับ บริษัทสปินด์เลอร์ แอนด์ แอสโซซิเอท ของสามีนาม จูเลียน สปินด์เลอร์ มาตลอดระยะเวลา 16 ปี ด้วยสำนึกแห่ง ผู้ประกอบวิชาชีพสื่อมวลชน แล้วบริษัทของสามีก็ไม่เคย รับทำงานใด ๆ ให้รัฐบาลชุดที่แล้ว เพราะเป็นเรื่องโดยตรงของ พันศักดิ์ วิญญรัตน์ ที่แม้จะเคยเป็น เพื่อนสนิท แต่ตลอดระยะเวลา 5 ปี ของรัฐบาลชุดที่แล้วก็ แทบไม่ได้เคยคุยกันเป็นเรื่องเป็นราว ส่วนเรื่องที่บริษัทของสามีเธอเป็นเครือข่ายของบริษัทประชาสัมพันธ์ยักษ์ใหญ่ อีแดลแมน นั้นก็เป็นเพียง เครือข่ายเล็ก ๆ ที่ทางบริษัทใหญ่ไม่จำเป็นต้อง บอกกล่าว เข้ามาว่าจะทำงานอะไรให้ใคร “...ขอให้เชื่อในเกียรติของผู้ประกอบวิชาชีพสื่อที่ยึดมั่นในจรรยาบรรณมาตลอด.” ถ้าพูดถึงขนาดนี้ “เซี่ยงเส้าหลง” ก็ต้อง เชื่อ และขอให้เชื่อเช่นกันว่าที่นำเสนอไปหาได้มี เจตนาแอบแฝง แต่ในเมื่อการนำเสนอนั้น ก่อให้เกิดความเสียหาย ก็ต้อง ขออภัย มา ณ ที่นี้

•• นอกจากนั้น กัญจนา สปินด์เลอร์ ยังยืนยันว่าตัวเธอนั้น วิพากษ์วิจารณ์ระบอบทักษิณไม่น้อยกว่าใคร รวมทั้งมีความเคารพและศรัทธาในตัว พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ มานาน กว่า 15 ปี และเขียนถึงท่านผู้นี้ มากชิ้นที่สุด – ก่อนที่คนอื่นจะพูดถึงเขียนถึง จึงจะไม่ทำอะไรให้นายกรัฐมนตรีคนที่ 24 คนนี้มีอันต้อง เสียหาย แน่
กำลังโหลดความคิดเห็น