xs
xsm
sm
md
lg

ท้า"หม่อมอุ๋ย"พิสูจน์สำนึก แก้ร่าง พ.ร.บ.ฯ ห้ามขายหวยออนไลน์เด็ดขาด

เผยแพร่:   โดย: "เซี่ยงเส้าหลง" และทีมข่าวการเมือง


•• ร่ำลือกันในหมู่ผู้ที่ไม่ได้ชม ASTV และอ่าน แมเนเจอร์ออนไลน์ ว่าเมื่อค่ำวันศุกร์ที่ 1 ธันวาคม 2549 นั้น สนธิ ลิ้มทองกุลยังคงเกาะติดประเด็น ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล ต่อเป็นสัปดาห์ที่ 2 หลังจากเป็น คนแรกที่เปิดประเด็นหวยออนไลน์ มาแล้วเมื่อวันศุกร์ที่ 24 พฤศจิกายน 2549 คราวนี้ถึงขนาด ร่ายยาวไปถึงบรรพบุรุษ บางคนฟังไม่ได้ศัพท์จับไปกระเดียดไปพูดต่อว่า ขุดโคตร อันเป็นคำที่ให้ความหมายใน ด้านลบ ซึ่งจริง ๆ แล้วไม่มีอะไรมากไปกว่าย้ำเตือน พระราชหัตถเลขาในองค์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ว่าด้วย การพนัน, โทษภัยของการพนัน และ พระบรมราโชบายว่าด้วยการพนัน ที่ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล ควรจะต้องเป็นผู้ที่ รู้ดีกว่าใคร เพราะท่านหาได้เป็นเพียง พสกนิกรทั่วไป หากแต่เป็นถึง เชื้อพระวงศ์ – ชั้นหม่อมราชวงศ์ โดยศักดิ์และสายราชสกุลแล้วก็สูงส่งระดับที่ภาษาชาวบ้านเรียกได้ว่า หลานปู่ ของพระผู้ซึ่ง ทรงสร้างสยามยุคใหม่ จนได้รับพระราชสมัญญาว่า พระปิยะมหาราช พระองค์ที่คนไทยทั้งแผ่นดินสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอยู่มิรู้คลาย

•• ควรเข้าใจว่า ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล เป็นบุตรของ พลตรีหม่อมเจ้าปรีดีเทพพงษ์ เทวกุล ที่เกิดแต่ หม่อมแตงไทย และเป็นหลานของ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมพระยาเทวะวงศ์วโรปการ – พระเจ้าน้องยาเธอในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่เกิดแต่ หม่อมพุก จันทรเสน จึงมีศักดิ์สูงส่งระดับที่ภาษาชาวบ้านเรียกได้ว่าเป็น หลานปู่ของรัชกาลที่ 5 นี่จึงเป็นการกล่าวถึงใน ด้านบวก อย่างแน่นอน

•• จึงเป็นไปไม่ได้ที่ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล จะลืม พระราชหัตเลขาของพระบาทสมเด็จพระจุลจอม เกล้าเจ้าอยู่หัว 5 ที่พระราชทานแก่สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมพระยาดำรงราชานุภาพในช่วงที่เสด็จพระราชดำเนินประพาสยุโรปครั้งที่ 2 เมื่อ ปี 2450 การตัดสินใจบางประการลงไปอาจจะเพราะ ได้ข้อมูลไม่รอบด้าน เมื่อได้รับคำท้วงติงจากบรรดา สนช. และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ แล้วสมควรที่พวกเราจะรอ การเปลี่ยนแปลงในเชิงคุณภาพ สักระยะ

•• ใจความสำคัญของพระราชหัตถเลขาองค์นี้มีความว่า “...ได้เรียนตำราเล่นเบี้ยอย่างฝรั่งเข้าใจแล้ว ข้อซึ่งเข้าใจกันว่าเล่นไม่น่าสนุกนั้นไม่จริงเลย สนุกยิ่งกว่าอะไร ๆ หมด ถ้าชาวบางกอกได้รู้ไปเล่นแล้ว ฉิบหายกันไม่เหลือ ถ้าหากว่าไปถึงเมืองเราเข้าเมื่อไร จะรอช้าแต่สักวันเดียวก็ไม่ควร ต้องห้ามทันที.” ขีดเส้นใต้ด้วยสีแดง 2 เส้นโดย “เซี่ยงเส้าหลง” ตรงนี้อีกครั้งว่า “...ฉิบหายกันไม่เหลือ.” และ “...จะรอช้าแต่สักวันเดียวก็ไม่ควร ต้องห้ามทันที.” ชัดเจนมาก

•• ส่วนเรื่อง รายได้เข้ารัฐจากการพนัน พระองค์ก็ได้ทรงมีพระบรมราชวินิจฉัยไว้ว่า ไม่คุ้มกันกับการมัวเมาลุ่มหลงการพนันของราษฎร จึงทรงมีพระบรมราโชบายมุ่งมั่น หารายได้จากทางอื่นมาทดแทน ในหนังสือพระราชนิพนธ์ พระราชพิธี 12 เดือน พระองค์ทรงพระนิพนธ์ไว้ดังจะยกมาใน 2 – 3 ย่อหน้าถัดไป

•• “การเล่นเบี้ยนั้น เป็นที่ไม่ต้องพระอัธยาศัยมาทุก ๆ พระเจ้าแผ่นดิน เพราะฉะนั้นควรที่พระบรมวงศานุวงศ์และข้าราชการผู้ซึ่งมีความนับถือเคารพต่อพระบารมีและพระเดชพระคุณพระเจ้าแผ่นดินสืบ ๆ กันมา ควรจะคิดตริตรองให้เห็นโทษเห็นคุณตามที่จริง และงดเว้นการสนุกและการหาประโยชน์ในเรื่องเล่นเบี้ยนี้เสีย จะได้ช่วยกันรับราชการฉลองพระเดชพระคุณทะนุบำรุงแผ่นดิน เพิกถอนความชั่วในเรื่องเล่นเบี้ย ซึ่งอบรมอยู่ในสันดานชนทั้งปวงอันอยู่ในพระราชอาณาเขตอันเป็นเหตุจะเหนี่ยวรั้งความเจริญของบ้านเมืองให้เสื่อมสูญไป...

•• “ด้วยกำลังที่ช่วยกันมาก ๆ และเป็นแบบอย่างความประพฤติให้คนทั้งปวงเอาอย่าง ตามคำนักปราชญ์ย่อมกล่าวว่า การที่ทำให้เห็นเป็นแบบอย่างง่ายกว่าที่จะสั่งสอนด้วยปาก ถ้าเจ้านายขุนนางประพฤติเล่นเบี้ยอยู่ตราบใด คนทั้งปวงก็ยังเห็นว่าไม่สู้เป็นการเสียหายมาก ผู้มีบรรดา ศักดิ์จึงยังประพฤติอยู่.....

•• “ถ้าผู้มีบรรดาศักดิ์ละเว้นเสีย ให้เห็นว่าความพยายามเช่นนั้นเป็นของคนที่ต่ำช้าประพฤติแล้ว ถึงแม้ว่าจะเลิกขาดสูญไม่ได้ ก็คงจะเบาบางลงได้เป็นแท้...”

•• โดยพระบรมราโชบายดังกล่าวพระองค์ทรง ประกาศลดจำนวนบ่อนลงเรื่อย ๆ จากในกทม.ที่มี กว่า 400 ตำบล เมื่อปี 2431 ลดเหลือ 47 ตำบล เมื่อปี 2433 และเหลือเพียง 9 ตำบล เมื่อปี 2453 ทรงมีพระราชดำริที่จะ เลิกให้หมดไป แต่พระราชภารกิจของพระองค์ยังไม่บรรลุก็เสด็จ สวรรคต เสียก่อน

•• ถึงรัชสมัยต่อมา พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงสานต่อพระบรมราโชบายของสมเด็จพระราชบิดา แม้บ้านเมืองจะต้องการรายได้ – แต่ก็ยังทรงมุ่งมั่นตัดสินพระทัยเด็ดขาดที่จะกำจัดบ่อนเบี้ยให้สิ้นไปจากสยามประเทศ ประวัติศาสตร์สยามยุคใหม่จึงบันทึกไว้ว่าเมื่อ วันที่ 1 มีนาคม 2458 ได้ทรงมีประกาศพระบรมราชโองการ ให้เลิกเล่นการพนันทุกประเภทโดยสิ้นเชิง นี่คือประเด็นที่ควรพิจารณา

•• อันที่จริง “เซี่ยงเส้าหลง” เคยกล่าวไว้ก่อนใคร ๆ โดย ภาพ, ภูมิหลัง และ พื้นฐานการศึกษา แล้ว ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล มีคุณสมบัติเพียงพอที่จะเป็นหนึ่งใน ว่าที่นายกรัฐมนตรี เพราะสามารถจะเป็น สะพานเชื่อม ระหว่าง กลุ่มทุนเก่า กับ กลุ่มทุนใหม่ หรือถ้าสอบผ่านอาจจะถึงขั้นระหว่าง สังคมเก่า กับ สังคมใหม่ เพราะราชสกุล เทวกุล ที่สืบเชื้อสายมาจาก สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมพระยาเทวะวงศ์วโรปการ – พระเจ้าน้องยาเธอในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ในรุ่นของเขาได้เกิดการผสมผสานกับ ทุน โดยที่ พี่สาวของเขา คือ ม.ร.ว.สำอางวรรณ (เทวกุล) ล่ำซำ มาแต่งงานเป็น ภรรยา ของ บัญชา ล่ำซำ ลูกชายคนโตของ โชติ ล่ำซำ กับ น้อม (อึ๊งภากรณ์) ล่ำซำ พี่สาวแท้ ๆ ของ ดร.ป๋วย อึ๊งภากรณ์ น่าจะเป็นอิทธิพลทางความคิดจากพี่สาวท่านนี้ที่ทำให้เขาเลือกเรียน คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในยุคที่มีคณบดีชื่อ ดร.ป๋วย อึ๊งภากรณ์ ที่ต่อมาได้เขียนหนังสือแนะนำอย่างดีส่งผลให้เขาได้เข้าเรียน MBA ที่ Wharton School of Finance and Commerce, University of Pennsylvania ก่อนกลับมาทำงานที่ ธนาคารกสิกรไทย อยู่ถึง 20 ปี ก่อนเปิดทางให้ ทายาทล่ำซำสายตรง อย่าง บัณฑูร ล่ำซำ ได้ขึ้นเป็นเบอร์ 1 ด้วยการลาออกมาสัมผัสการเมืองเป็นครั้งแรกช่วงสั้น ๆ ในตำแหน่ง โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในยุค พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ เมื่อ ปลายปี 2533 ก่อนจะเข้ารับตำแหน่งในรัฐบาลเฉพาะกิจเป็นครั้งแรกเป็น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในยุคของ อานันท์ ปันยารชุน เมื่อ ปี 2534 โน่น

•• แต่วันนี้ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล จะต้อง ผ่านด่านทดสอบสำคัญ ว่าท่านนั้นเป็น ของจริง หรือ ของปลอม เมื่อท่านได้รับโอกาสจาก พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ในฐานะหนึ่งใน รุ่นน้องเซนต์คาเบรียล ท่านก็ควรจะบริหารงาน กระทรวงการคลัง และ ฯลฯ ให้สมกับที่นี่คือส่วนสำคัญของ รัฐบาลเฉพาะกิจ – ที่จะต้องปฏิบัติภารกิจที่รัฐบาลจากการเลือกตั้งไม่สะดวกที่จะทำ ไม่บำเพ็ญตนเป็นเครื่องมือให้ กลุ่มทุน ไม่ว่ากลุ่มทุนนั้นจะอยู่ในเครือข่ายของ ล่ำซำ หรือไม่ก็ตาม

•• เอาอย่างนี้ “เซี่ยงเส้าหลง” ว่า ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล เสนอเป็นนโยบายไว้เลยว่าใน ร่าง พ.ร.บ.สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล (ฉบับที่ ....) พ.ศ. ..... ท่านบรรจุไว้ใน มาตรา 5 เลยดีไหมว่า “...ห้ามสำนักงานสลากกินแบ่งฯ ทำการจำหน่ายสลากทุกชนิดโดยตู้ขายสลากอัตโนมัติ หรือหวยออนไลน์ โดยเด็ดขาด.” และอื่น ๆ อีก 4 ประเด็นตามที่ โสภณ สุภาพงษ์ เสนอมา


กำลังโหลดความคิดเห็น