xs
xsm
sm
md
lg

กสม.ลุยเชียงใหม่เก็บข้อมูลทุจริตไนท์ซาฟารี-พืชสวนโลก

เผยแพร่:   โดย: สำนักข่าวประชาธรรม


เชียงใหม่ : “สุรสีห์”นำทีม กสม.ลงพื้นที่เชียงใหม่ ฟังข้อมูลโครงการพัฒนาเมืองเชียงใหม่จากภาคีคนฮักเชียงใหม่โดยเฉพาะไนท์ซาฟารี พืชสวนโลก เผยปมทุจริต ผิดกฎหมาย ผลกระทบสวล. ชุมชนอื้อ เตรียมประมวลข้อมูลเสนอนายกฯ คตส. ปปช. ระงับโครงการ

วันนี้(13 ต.ค.) ที่สำนักบริการวิชาการ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ(กสม.) นำโดยนายสุรสีห์ โกศลนาวิน และคณะ ได้จัดประชุมรับฟังข้อมูลเพื่อเตรียมตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีโครงการพัฒนาเมืองเชียงใหม่จากภาคีคนฮักเชียงใหม่ ซึ่งในการประชุมวันนี้มีตัวแทนภาคีคนฮักเชียงใหม่ อาทิ นายชัยพันธุ์ ประภาสะวัต ศ.เฉลิมพล แซมเพชร ทพ.อุทัยวรรณ กาญจนกามล น.ส.กนกวรรณ อุโฆษกิจ ฯลฯ ร่วมให้ข้อมูล

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การที่ กสม.เข้ารับฟังข้อมูลโครงการพัฒนาเมืองเชียงใหม่จากภาคีคนฮักเชียงใหม่ครั้งนี้เป็นผลมาจากการที่ภาคีคนฮักเชียงใหม่ นำโดย ศ.เฉลิมพล แซมเพชร ได้เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนต่อ กสม.ให้ดำเนินการตรวจสอบโครงการพัฒนาเมืองเชียงใหม่ในปัจจุบัน ซึ่งการดำเนินกิจกรรมต่างๆล้วนไม่โปร่งใสและยังขาดการมีส่วนร่วมของประชาชนจนนำมาสู่ปัญหาผลกระทบต่างๆตามมามากมาย โครงการดังกล่าวประกอบด้วย โครงการเชียงใหม่เวิลด์ ที่ดำเนินการบริเวณเชิงดอยสุเทพ แต่ชาวเชียงใหม่ไม่เคยทราบรายละเอียดการดำเนินการที่แท้จริง ซึ่งภาคีฯกังวลเกี่ยวกับแนวทางการพัฒนาในหลายประการ คือการพัฒนาลานครูบาศรีวิชัย จะมีการปรับภูมิทัศน์และสร้างสถานีกระเช้าไฟฟ้า ซึ่งไม่มีความเหมาะสม

ขณะที่โครงการเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี อาจมีผลกระทบโดยตรงต่อทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ยังรวมไปถึงโครงการอุทยานช้าง โครงการทำเคเบิ้ลคา และโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ในเขตเชิงดอยสุเทพ ซึ่งโครงการต่างๆเหล่านี้ล้วนนำมาซึ่งความเสียหายต่อทรัพยากรธรรมชาติ ระบบนิเวศน์ รวมทั้งวิถีชีวิตของชาวเชียงใหม่ นอกจากนี้ยังมีโครงการที่จะดำเนินการเพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วมที่จะมีการรื้อฝายกั้นน้ำของชาวบ้าน รวมทั้งโครงการท่าอากาศยานเชียงใหม่ของบริษัทการท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ที่จะมีการขยายความยาวทางวิ่งด้านทิศเหนือของท่าอากาศยานด้วย

อย่างไรก็ตาม ในเวทีดังกล่าวนั้นตัวแทนภาคีคนฮักเชียงใหม่ได้นำเสนอข้อมูลรายละเอียดโครงการกันอย่างกว้างขวาง ทั้งโครงการเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีในประเด็นการทุจริต การดำเนินการที่ผิดกฎหมายทั้งกฎหมายอุทยานฯ กฎหมายสิ่งแวดล้อม รวมทั้งการดำเนินการที่ใช้ระบบฟาร์สแทรกที่สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบการดำเนินการได้ตลอดเวลา นึกอะไรได้ก็ทำ เมื่อทำไม่ได้ก็เลิก จนนำมาซึ่งความเสียหายต่อพื้นที่ป่าเพราะบางพื้นที่มีการไถปรับพื้นที่ป่าไปแล้ว แต่ต่อมามีการปรับรูปแบบการก่อสร้างมาสร้างในพื้นที่ใหม่ เป็นต้น และยังรวมไปถึงประเด็นงบประมาณดำเนินการที่หมกเม็ดไม่โปร่งใส ประเด็นการจัดหาสัตว์ป่าภายในโครงการ ประเด็นการใช้น้ำที่ส่งผลกระทบต่อชุมชนรายรอบโครงการ รวมทั้งประเด็นการมีส่วนร่วมของชุมชน เป็นต้น

นอกจากนี้ อีกประเด็นหนึ่งที่มีการพูดคุยในที่ประชุมอย่างกว้างขวางคือประเด็นโครงการพืชสวนโลก เฉลิมพระเกียรติ ที่กำลังจะเปิดในวันที่ 1 พ.ย.นี้ ซึ่งมีความไม่ชอบมาพากล ความไม่โปร่งใสในหลายประเด็นด้วยกัน

นายชัยพันธุ์ ประภาสะวัต ตัวแทนภาคีฯ ชี้แจงว่า โครงการพืชสวนโลกดังกล่าวขาดการมีส่วนร่วมของภาคประชาชนมาตั้งแต่ต้น เพราะเกิดจากความต้องการของนักการเมือง ซึ่งเดิมทีโครงการนี้มีกำหนดจัดขึ้นที่พิพิธภัณฑ์การเกษตรเฉลิมพระเกียรติคลองหลวง จ.ปทุมธานี ต่อมาก็ย้ายมาที่ ต.แม่เหียะ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ บนเนื้อที่ 470 ไร่ ซ้ำพื้นที่ดังกล่าวอยู่ในเขตอุทยานฯสุเทพ-ปุย ดังนั้นโครงการนี้ย่อมขัดกับพ.ร.บ.อุทยานฯแน่นอนเพราะมีการดัดแปลงสภาพพื้นที่ในเขตอุทยานฯเป็นอย่างมาก ดังนั้นจึงถือว่าโครงการนี้ทำผิดกฎหมายตั้งแต่เริ่มต้น

นายชัยพันธุ์ แจงต่อว่า โครงการนี้ยังทำผิดพ.ร.บ.สิ่งแวดล้อมปี 2535 ที่ระบุว่าห้ามก่อสร้างถนนเข้าไปในเขตอุทยานฯกว้างเกิน 8 เมตร หากจำเป็นต้องทำก็ต้องศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม และสิ่งปลูกสร้างที่สูงเกิน 23 เมตรก็ต้องศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมเช่นเดียวกัน แต่ทั้งสองประการไม่มีการทำตามกฎหมาย นอกจากนี้ยังรวมไปถึงความไม่โปร่งใสในการบวนการออกแบบ การควบคุมงาน และการประมูลการก่อสร้างด้วย

นอกจากนี้ ประเด็นการนำพืชต่างถิ่นเข้ามาจัดแสดงในเขตอุทยานฯถือเป็นเรื่องผิดกฎหมายเช่นกัน กล่าวคือพ.ร.บ.อุทยานฯ พ.ศ.2504 ระบุว่าห้ามนำพืชต่างถิ่นเข้าไปในเขตอุทยานฯเด็ดขาด ซึ่งโครงการนี้แม้จัดโดยรัฐบาลแต่ไม่สามารถอยู่เหนือกฎหมายได้ ซึ่งการห้ามนำพืชต่างถิ่นเข้าไปในเขตอุทยานฯนั้นเหตุผลก็เพื่อป้องกันการปนเปื้อนของพันธุกรรมจากต่างถิ่น รวมทั้งความเสียหายจากการนำพืชดัดแปลงพันธุกรรมที่จะเข้าไปแสดงในงานนี้ด้วย เหล่านี้คือปัญหาใหญ่ที่ทุกภาคส่วนต้องช่วยกันพิจารณา

“โครงการนี้ปัญหาเยอะมากซึ่งการอ้างเป็นโครงการเฉลิมพระเกียรติจึงเป็นการไม่สมควรเพราะมีการเตรียมโกงกินตั้งแต่เริ่มโครงการ โดยเฉพาะการฮั้วประมูล เป็นต้น ดังนั้นจึงจำเป็นที่ผู้เกี่ยวข้องต้องระงับโครงการดังกล่าวอย่างเร่งด่วน” นายชัยพันธุ์ กล่าว

ในตอนท้าย นายชัยพันธุ์ กล่าวว่า สำหรับโครงการพืชสวนโลกนั้น ในอนาคตหลังเสร็จสิ้นโครงการนั้น เป็นไปได้ว่ารัฐบาลจะเปิดโอกาสให้เอกชนเข้ามาสัมปทานเพราะอาจแบกรับภาระค่าใช้จ่ายไม่ไหว ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นหมายความว่าในพื้นที่ดังกล่าวย่อมมีการก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างอื่นๆตามมาแน่ เช่น โรงแรม ร้านอาหาร เพราะลำพังแค่การจัดแสดงพืชสวนอย่างเดียวคงไม่คุ้มทุน

ทพ.อุทัยวรรณ กาญจนกามล ตัวแทนภาคีคนฮักเชียงใหม่ กล่าวว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นจะทำอย่างไรให้เกิดกลไกการตรวจสอบที่ชัดเจน และการดำเนินโครงการต่างๆมีความโปร่งใส และเกิดจากความต้องการของประชาชนอย่างแท้จริง ทั้งนี้หากพิจารณาจะพบว่าโครงการภายใต้เมกะโปรเจคต์เหล่านี้ล้วนเกิดภายใต้นโยบายแห่งชาติที่เปิดโอกาสให้โลกาภิวัตรทำงานได้อย่างเสรี อีกทั้งโครงการเกือบทั้งหมดรัฐบาลล้วนเป็นผู้ริเริ่ม และโครงการก็มีเสน่ห์พอที่จะดีงดูดนักลงทุน ขณะที่ปัจจุบันเองนั้นท้องถิ่น เช่น อบต.เองก็มีโครงการพัฒนาต่างๆในมืออยู่แล้ว แต่โครงการเหล่านี้มักสวนทางกับโครงการพัฒนาของภาครัฐ

“กรณีที่เกิดขึ้นจะทำอย่างไรให้เกิดกระบวนการการมีส่วนร่วมของประชาชน ขณะที่คณะกรรมการสิทธิ์ฯเองนั้นก็ต้องทำหน้าที่ในการจัดการเรื่องเหล่านี้ทั้ง 2 รูปแบบ คืออย่างการมาของคณะกรรมการสิทธิ์ในวันนี้เองนั้นเป็นการมาหลังจากโครงการเกิดขึ้นแล้ว แต่ยังไม่มีกระบวนการสร้างเงื่อนไขใหม่ให้เกิดนโยบายสาธารณะเพื่อสร้างพื้นที่ทางสังคมให้ชาวบ้านได้คิดเห็น ตระหนัก และเห็นคุณค่าขึ้นมาภายใต้กลไกจากระดับล่างขึ้นบน ซึ่งเรื่องนี้ตนขอฝากทางคณะกรรมการสิทธิ์ไปด้วย” ทพ.อุทัยวรรณ กล่าว

นายสุรสีห์ โกศลนาวิน คณะกรรมการสิทธิ์ฯ กล่าวว่า การมาของ กสม.ในวันนี้เพื่อต้องการตรวจสอบและรวบรวมข้อมูลในโครงการพัฒนาเมืองเชียงใหม่ โดยเฉพาะโครงการที่สร้างผลกระทบต่อชุมชนชาวเชียงใหม่ ซึ่งที่ผ่านมานั้นทาง กสม.เองก็ใช้ระยะเวลาช่วงหนึ่งในการศึกษารายละเอียดข้อมูลโครงการต่างๆเหล่านี้มาบ้างแล้ว ซึ่งจากการศึกษาเห็นชัดว่าการพัฒนาของรัฐที่ผ่านมานั้นมุ่งไปทางการพัฒนาด้านวัตถุเพื่อสร้างผลกำไร แต่ขณะเดียวกันกลับไม่ได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาด้านจิตวิญญาณ

นายสุรสีห์ กล่าวต่อว่า โครงการต่างๆที่ภาคีคนฮักเชียงใหม่ร้องเรียนมานั้นล้วนมีการดำเนินการไปแล้วทั้งสิ้น และอย่างโครงการเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีนั้นเห็นได้ชัดว่าไม่โปร่งใส ดังนั้นเราจะต้องหาแนวทางเพื่อแก้ไขและยับยั้งสิ่งที่เกิดขึ้น ส่วนจะใช้มาตราการหรือวิธีการใดนั้นคงต้อหารือกันหลายฝ่าย แต่อย่างไรก็ตามข้อมูลที่ได้ในครั้งนี้ทาง กสม.จะทำการประมวล รวบรวมเพื่อเสนอต่อนายกรัฐมนตรี คตส. ปปช. รวมทั้งองค์กรอื่นๆที่เกี่ยวข้องเพื่อพิจารณาให้ระงับการดำเนินการต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น