xs
xsm
sm
md
lg

สภาทนายฯ จี้ “ทักษิณ” ขอพระราชทานอภัยโทษ ชี้ จม.ถึง “บุช” ทำเสื่อมเสีย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


"ทักษิณ" อ่วมสภาทนายความออกแถลงการณ์จี้ขอพระราชทานอภัยโทษ ที่กระทำผิดรัฐธรรมนูญโดยไม่ระบุคำว่า"ราชอาณาจักร"ลงท้ายในจดหมายที่เขียนถึงประธานาธิบดีสหรัฐ และให้ชี้แจงเหตุผลถึงสาเหตุเขียนจดหมายไปฟ้องผู้นำต่างชาติ ขณะเดียวกันยังใช้ภาษาอังกฤษไม่ถูกต้องเหมาะสมหลายครั้ง สร้างความเสื่อมเสียให้กับประเทศ

วันนี้(13 ก.ค.) นายเดชอุดม ไกรฤทธิ์ นายกสภาทนายความแห่งประเทศไทย พร้อมด้วยนายดนัย พุ่มเล็ก เลขาธิการสภาทนายความฯ ฝ่ายช่วยเหลือประชาชน นายเสงี่ยม บุญจันทร์ รองโฆษกสภาทนายฯ นายชูวงศ์ พงษ์เพชร กรรมการบริหารสภาทนายฯ และนายดนัย อนันติโย อุปนายกสภาทนายความฯ ฝ่ายกิจกรรมพิเศษ ได้รวมกันแถลงข่าว

นายเดชอุดม กล่าวว่า จากเนื้อหาในจดหมายของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี ส่งไปถึงประธานาธิบดีสหรัฐ นั้นไม่เหมาะสม สภาทนายความฯ จึงเสนอแนะให้ นายกฯ มีความเป็นสุภาพบุรุษน่าจะยอมรับ และควรจะไปขอคำปรึกษา พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ

นอกจากนี้ สภาทนายความฯ มีข้อสังเกตที่ขอเสนอต่อประชาชนและต่อสถาบันที่มีส่วนกี่ยวข้องถึงความไม่ถูกต้องในภาษาหนังสือ ซึ่งได้แสดงโดยจงใจหรือโดยประมาทเลินเล่อก็แล้วแต่ แต่เป็นกรณีตัวอย่างที่ควรพึงระมัดระวังไม่ให้เกิดขึ้นอีก ดังนี้

1) จดหมายฉบับลงวันที่ 23 มิถุนายน 2549 ของรักษาการนายกรัฐมนตรีนั้น ไม่ได้ลงท้ายใต้ลายมือชื่อว่าเป็นผู้รักษาการนายกรัฐนตรี แต่ใช้คำว่า "Prime Minister of Thailand" ซึ่งไม่ตรงกับคำขึ้นต้น ในวรรคแรกบรรทัดที่ 3 ใช้คำอ้างตัวท่านเองว่า Caretaker Prime Minister

2) การเป็นผู้รักษาการนายกรัฐมนตรี Caretaker Prime Ministerนั้น โดยสถานภาพแล้วควรมีข้อจำกัดในการแสดงออกซึ่งสถานะทางการเมืองของตนเองและภาพรวมโดยทั่วไปของประเทศไทย ซึ่งปกติจดหมายในลักษณะนี้ควรจะทำในฐานะของผู้ที่รับผิดชอบในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเท่านั้น ไม่ใช่ผู้รักษาการนายกรัฐมนตรี

3) ประการสำคัญของความไม่ถูกต้องคือ ถ้อยคำที่ลงท้ายใต้ลายมือชื่อของรักษาการ นายกรัฐมนตรรีว่า "Prime Minister of Thailand" นั้น ไม่สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยใน มาตรา 1 ที่บัญญัติว่า "ประเทศไทยเป็นราชอาณาจักรอันหนึ่งอันเดียวจะแบ่งแยกมิได้"

นายกสภาทนายผู้นี้ยังระบุอีกว่า ในทางตรงกันข้าม ในจดหมายตอบของประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกา George W.Bush ได้ตอบรักษาการนายกรัฐมนตรีฯ ว่า โดยถ้อยคำขึ้นต้นที่ถูกต้องคือใช้ประโยคที่ว่า " Prime Minister of The Kingdom of Thailand " ซึ่งสอดคล้องกับถ้อยคำที่ใช้ในรัฐธรรมนูญและสอดคล้องกับการถวายสัตย์ปฏิญาณของนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวตามมาตรา 205 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย

4) ในหลายๆ ถ้อยคำของจดหมายฉบับลงวันที่ 23 มิถุนายน 2549 รักษาการนายกรัฐมนตรี ได้ใช้คำว่า "my" ในหลายๆ แห่ง ไม่ว่าจะเป็น my opponents, my Deputy Prime Minister, my party, แต่สิ่งหนึ่งที่รักษาการนายกรัฐมตรีไม่ควรจะใช้ก็คือ "my country" ในบรรทัดที่ 4 ของย่อหน้าที่ 5 ของจดหมายฯ ซึ่งคำนี้จะเป็นคำที่ใช้พูดกันเสียมากกว่าที่จะใช้ในจดหมายที่เป็นทางการ หรือกึ่งทางการ ที่ส่งไปถึงประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกา คนอเมริกันเองเขายังเคยประท้วงสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(ส.ส.) ของเขาที่ถูกต้องแล้วควรใช้คำว่า " Our country" มากกว่า ผู้ใช้จึงควรจะต้องมีความระมัดระวังในถ้อยคำที่ใช้เป็นอย่างยิ่ง

นอกจากนั้น ในข้อความของบรรทัดที่ 7 ของย่อหน้าที่5ของจดหมายรักษาการนายกรัฐมนตรีที่เริ่มประโยคว่า " I know that you agree with me..." ก็เป็นประโยคที่ไม่ควรจะทึกทักเอาว่าท่านประธานาธิบดีแห่งประเทศสหรัฐอเมริกาจะเห็นด้วยกับตน ซึ่งในจดหมายตอบของท่านประธานาธิบดีก็ไม่ได้กล่าวถึงประเด็นที่รักษาการนายกรัฐมนตรีกล่าวอ้างเลย นับว่าเป็นข้อความที่ไม่เหมาะสมมาก

5) สภาทนายความเห็นว่าเพื่อลดกระแสความขัดแย้งและดำเนินการให้เป็นไปตามกรอบของรัฐธรรมนูญ ผู้รักษาการนายกรัฐมนตรีและสำนักนายกรัฐมนตรีคงต้องพิจารณาดำเนินการให้มีการชี้แจงวัตถุประสงค์ของจดหมายฉบับนี้และถ้อยคำที่ใช้เพื่อความกระจ่างต่อสาธารณชน

โดยเฉพาะหากเป็นการสมควรและไม่เป็นการรบกวนเบื้องพระยุคลบาท รักษาการนายกรัฐมนตรีควรหารือ ฯพณฯ ประธานองคมนตรีเพื่อกราบบังคมทูลของพระราชทานอภัยเกี่ยวกับความพลั้งเผลอที่ไม่ได้ใช้คำว่า " The Kingdom of Thailand" ในจดหมายฉบับลงวันที่ 23 มิถุนายน 2549

เปิดจดหมาย “แม้ว” ถึง “บุช” อ้างถูกกลุ่มนอก รธน.คุกคาม

กำลังโหลดความคิดเห็น