xs
xsm
sm
md
lg

เศร้า! คุณแม่เผยลูกวัย 6 ขวบป่วยเป็นโรคซึมเศร้า หลังเจอพ่อแม่ทะเลาะและหย่าร้าง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



แม่โพสต์อาการป่วยซึมเศร้าของลูกสาว วัย 6 ขวบที่เกิดมาจากปัญหาการทะเลาะและหย่าร้างของพ่อแม่ เตือนเป็นอุทาหรณ์เด็กเครียดได้และความขัดแย้งรุนแรงในครอบครัวสามารถส่งผลกระทบต่อจิตใจและพัฒนาการของเด็กเล็ก

วันนี้ (9 มิ.ย.) ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งได้โพสต์อาการป่วยซึมเศร้าของลูกสาวที่เกิดมาจากปัญหาการทะเลาะและหย่าร้างของพ่อแม่ เด็ก 6 ขวบเป็นซึมเศร้า ปัญหาของผู้ใหญ่กลับทำร้ายเด็กได้ถึงขนาดนี้

เริ่มจากแม่ต้องกลายเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว แยกทางกับพ่อของลูกตอนลูกอายุ 4 ขวบ ทะเลาะกันค่อนข้างบ่อย ลูกเห็นบ่อย  สุดท้ายคนที่เสียใจที่สุดคือลูก

เริ่มต้นจากแม่เห็นพฤติกรรมของลูกเปลี่ยนไปจากเป็นเด็กที่ร่าเริง เริ่มเก็บตัว เริ่มอารมณ์รุนแรงขึ้น อยู่เฉยๆ ก็ร้องไห้ขึ้นมา

แม่ได้พาน้องไปพบนักพัฒนาการเด็ก ซึ่งพัฒนาการน้องอยู่ในเกณฑ์ที่ดีมาก แต่นักพัฒนาการพบว่าน้องมีภาวะเครียดค่อนข้างสูง จึงให้น้องมาบำบัดโดยการพูดคุยกับนักพัฒนาการ เป็นเวลาผ่านมาประมาณ 1 ปี น้องเหมือนจะดีขึ้น หมอเริ่มนัดห่างขึ้น แต่สิ่งที่เพิ่มขึ้นมาคือน้องปัสสาวะบ่อยมากวันหนึ่งเฉลี่ยแล้ว ประมาณ 30 ครั้ง ซึ่งคุณแม่รู้สึกว่าผิดปกติเลยพาไปหาคุณหมอต่อมไร้ท่อเพื่อตรวจเช็กดู คุณหมอตรวจเลือดทุกอย่างทั้ง เบาหวาน ไทรอยด์ ไต ตับ รวมถึงตรวจคลื่นหัวใจไฟฟ้าด้วย ผลออกมาคือปกติทุกอย่าง คุณหมอถามว่าน้องมีอาการนี้นานหรือยัง คุณแม่บอกว่าประมาณ 3-4 เดือน คุณหมอเลยแจ้งว่าน้องมีภาวะเครียดหรือเจอเรื่องกระทบกระเทือนจิตใจในช่วงนี้ไหม

คุณแม่ก็เลยนึกถึงว่าเมื่อเดือนเกิดเขา เดือนเมษายน เขาขอพ่อของเขาว่า ‘ให้กลับมาอยู่กับเขาและแม่ได้ไหม’ แต่พ่อบอกว่ามันเป็นไปไม่ได้และได้ดุลูกว่ามันเป็นเรื่องของผู้ใหญ่เด็กไม่ควรมายุ่ง
รวมถึงก่อนหน้าวันเกิด 1 วัน เขาได้ไปหาพ่อเขาที่บ้าน และได้ไปเจอเมียน้อยของพ่อนอนอยู่กับพ่อตัวเอง (พ่อน้องเคยสัญญากับน้องว่าให้มาหาป๊าที่บ้านได้ตลอดป๊าจะไม่พาใครเข้ามา) ตอนแรกแม่คิดว่าไม่น่าจะเป็นอะไรเพราะลูกได้เดินกลับมาเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

คุณหมอต่อมไร้ท่อเลยส่งต่อให้จิตแพทย์ที่โรงพยาบาลแต่โชคดีที่ว่าวันที่ไปมีคนไข้แคนเซิลคิวน้องจึงได้พบจิตแพทย์ทันที ได้เข้าไปคุยกับจิตแพทย์ประมาณ 2 ชั่วโมง คุณหมอสรุปได้ว่าน้องเป็นซึมเศร้า และย้ำคิดย้ำทำ

มันมีประโยคนึงที่ทำให้แม่รู้สึกจุกและเสียใจมากๆ คุณหมอถามว่า
หมอ : คุณพ่อใจดีไหม
เอพริล : ใจดีมาก
หมอ : แล้วอยากเจอคุณพ่อไหม
เอพริล : ไม่อยากเจอ
หมอ : ทำไมล่ะคะ
เอพริล : พริล ไม่อยากให้ป๊ามาทะเลาะกับแม่
หมอ : แล้วป๊าทะเลาะกับแม่เรื่องอะไร
เอพริล : ป๊าชอบพูดว่าแม่ชอบเอาเรื่องไม่ดีของป๊ามาบอกพริล แต่พริลโตแล้วพริลคิดได้ไม่จำเป็นต้องให้แม่มาบอกพริลรู้ว่าอะไรมันไม่ดี แต่ป๊าชอบไปว่าแม่ตลอดเลย
หมอ : แล้วป๊าพาไปเที่ยวบ้างไหมไปเที่ยวที่ไหนบ้างได้เคยไปสวนสัตว์หรือเปล่ามีสัตว์เยอะมากเลยนะ
เอพริล : ป๊าเคยพาไปเที่ยวแต่ป๊าพาไปกับเพื่อนผู้หญิงและลูกของเพื่อนผู้หญิงก็ไปด้วยหนูไม่มีความสุขเลยเพราะป๊าสนใจแต่เพื่อนผู้หญิง
หมอ : แล้วได้บอกคุณแม่ไหม
เอพริล : ไม่ได้บอก
หมอ : ทำไมล่ะ
เอพริล : เพราะพริล ไม่อยากให้แม่เสียใจไม่อยากให้แม่ร้องไห้ พริลสงสารแม่

เด็กแค่ 6 ขวบทำไมต้องมาแบกรับความรู้สึกของผู้ใหญ่ขนาดนี้ แม่สงสารน้องมากไม่เคยรู้เรื่องพวกนี้มาก่อนเลยเค้ารักเรามากจริงๆโลกทั้งใบของเค้ามีแค่เรา

แม่อยากมาแชร์อุทาหรณ์ให้ทุกคนได้รู้ลูกคือสิ่งสำคัญที่สุดเค้าอาจจะดูว่าเป็นเด็กแต่หัวใจเค้าโตยิ่งกว่าผู้ใหญ่บางคนอีก”

อย่างไรก็ตาม โรคซึมเศร้าในเด็กเล็กเป็นภาวะที่สามารถเกิดขึ้นได้จริง แม้ในเด็กวัยก่อนเข้าโรงเรียนหรือในช่วงวัยประถมต้น เด็กในวัยนี้อาจยังไม่สามารถอธิบายความรู้สึกตัวเองได้ชัดเจนเหมือนผู้ใหญ่ ทำให้การสังเกตและวินิจฉัยโรคนี้ค่อนข้างท้าทาย

สาเหตุที่เป็นไปได้
-พันธุกรรม: มีประวัติคนในครอบครัวเป็นโรคซึมเศร้า
-ปัจจัยทางชีวภาพ: ความไม่สมดุลของสารเคมีในสมอง
-สิ่งแวดล้อม: การสูญเสียคนรัก ความรุนแรงในครอบครัว ความขัดแย้งในบ้าน-ประสบการณ์เชิงลบ: การถูกกลั่นแกล้ง การถูกละเลยหรือถูกทำร้าย

อาการที่ควรสังเกต
-อารมณ์เศร้า หงอย ซึม ไม่สนใจสิ่งที่เคยชอบ
-ความเปลี่ยนแปลงด้านพฤติกรรม เช่น เก็บตัวมากขึ้น ก้าวร้าวง่าย
-การเปลี่ยนแปลงของการนอน เช่น นอนไม่หลับ หรือหลับมากเกินไป
-เบื่ออาหาร หรือกินมากผิดปกติ
-ร้องไห้ง่ายหรือบ่อยขึ้น
-สมาธิสั้น ไม่สนใจเรียนหรือเล่น
-บ่นเรื่องอาการทางกาย เช่น ปวดท้อง ปวดหัว โดยไม่มีสาเหตุทางกายภาพ
-พูดถึงความสิ้นหวัง หรือในกรณีรุนแรงอาจพูดถึงความตาย


กำลังโหลดความคิดเห็น