xs
xsm
sm
md
lg

"มูลนิธิกระจกเงา" ชื่นชมพลเมืองดีพาคนเร่ร่อนส่งให้ครอบครัว เข้ารักษา รพ.จิตเวช

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เพจ "มูลนิธิกระจกเงา" โพสต์เรื่องราวประทับใจของชายเร่ร่อนที่หายออกจากบ้านและญาติได้ประกาศตามหา จากนั้นมีคนแจ้งเบาะแสจนกลับมาพบครอบครัวและได้เข้ารักษาที่โรงพยาบาลจิตเวช ชาวเน็ตแห่ชื่นชมขอบคุณพลเมืองดี

เมื่อวันที่ 13 ก.ย. เพจ "มูลนิธิกระจกเงา" ได้ออกมาโพสต์เรื่องราวประทับใจของชายเร่ร่อนรายหนึ่งที่หายออกจากบ้านและญาติได้ประกาศตามหา จากนั้นมีคนแจ้งเบาะแสจนกลับมาพบครอบครัวและได้เข้ารักษาที่โรงพยาบาลจิตเวช โดยทางเพจเล่าว่า "หลายเดือนก่อน ในโลกออนไลน์มีการแชร์คลิปวิดีโอวัยรุ่นชายหน้าตาดี เดินเร่ร่อนด้วยเท้าเปล่า สภาพผมเผ้ายาวรุงรัง เสื้อผ้ากางเกงขาดวิ่น คุ้ยถังขยะตามข้างทาง

เขาได้แต่เดินยิ้ม พูดน้อย ไม่มีท่าทีก้าวร้าว ผู้พบเห็นต่างสงสัยว่าเขาเป็นใคร และคาดเดาว่าน่าจะเป็นคนที่มีบ้านมีครอบครัว กระทั่งปลายสัปดาห์ที่แล้ว พลเมืองดีพบเห็นเขาอีกครั้ง จึงโพสต์ภาพของเขาใน Facebook ส่วนตัว เพื่อประกาศตามหาข้อมูลและตามหาญาติของชายคนนี้

เขา คือ ชายคนเดียวกับที่ครอบครัวแจ้งคนหายไว้ที่มูลนิธิกระจกเงา ในคืนนั้นมีคนแชร์ภาพเขาและแจ้งเบาะแสเข้ามาเป็นจำนวนมาก เพราะเขาเดินเท้าไปตามสถานที่ต่างๆ ไม่หยุดนิ่ง กระทั่งแม่ค้าขายน้ำที่ตลาดอินดี้ดาวคะนอง พบตัวเขาแล้วช่วยแจ้งตำรวจ สน.บางมด เพื่อพาเขากลับไปส่งบ้าน ภาพจำข้างถนน ขณะที่เขาคุ้ยเขี่ยถังขยะ ทำให้คนตั้งคำถามและข้อสงสัยว่า เหตุใดครอบครัวจึงปล่อยให้เขาออกมาเดินเร่ร่อนแบบนี้ ทั้งๆ ที่บ้านเขาอยู่ไม่ไกลจากจุดที่พบเขา

ทีมงานมูลนิธิกระจกเงาได้ไปเยี่ยมครอบครัวเขาที่บ้าน ได้เจอ ได้พูดคุย และรับฟังคนในครอบครัวของเขา ทุกอย่างมีเหตุปัจจัย มีรายละเอียด มีเรื่องยากต่อการจัดการเพียงลำพังโดยครอบครัว แม้คนภายนอกอาจตัดสินจากภาพที่เห็นเพียงสั้นๆ แต่รายละเอียดอันยาวนานในชีวิตของเขามีเพียงครอบครัวที่ให้คำตอบได้

สุดท้าย เราพาเขาไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลจิตเวชแห่งหนึ่ง ระหว่างรอเรียกตรวจ เสียงโหยหวนจากผู้ป่วยอีกรายดังบาดใจคนทั่วบริเวณนั้น กระทั่งเขาเองที่นั่งนิ่งสงบก็ยังหันไปมองที่ต้นเสียง น้องสาววัยรุ่นของเขารีบเดินมายืนบัง ยื่นหน้าจอโทรศัพท์มือถือชวนเขาคุยเรื่องอื่น แต่เขายังมีท่าทีพะวงกับเสียงโหยหวนนั้น น้องสาวจึงเอามือลูบหัวเขา ดึงเศษหญ้าที่ติดผมออกให้ เหมือนปลอบใจเขาว่าคนในครอบครัวยังยืนอยู่ข้างเขาเสมอ

ขอบคุณพลเมืองดีทุกท่านที่ช่วยกันแจ้งเบาะแส และเอาใจช่วยเขาให้ได้กลับบ้านเพื่อรับการรักษาอาการป่วยอีกครั้ง พวกเราจะติดตามและช่วยเหลือครอบครัวนี้ต่อไปครับ"






กำลังโหลดความคิดเห็น