แนะคสช.ทุ่มงบให้ถึงมือรากหญ้า ซื้อขายออนไลน์ช่วยพ้นกับดักความจน

ยุคสมัยนี้การกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลไม่ได้ทำได้ง่ายๆเหมือนก่อนที่เงินฝืดก็ส่งเงินงบประมาณลงไปในระบบธุรกิจหรืออุตสาหกรรมใหญ่ๆ เงินก็จะเกิดการหมุนเวียนเงินจะเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจจะค่อยกระเตื้อง ขึ้น คสช.ก็ทำแบบนี้แต่ล้มเหลว

รัฐบาล คสช.โปรยเงินลงมาหลายแสนล้านบาทแล้วตลอดเวลาสี่ปีที่ผ่านมา เพื่อหวังจะให้กระแสเงินสะพัดขึ้นบ้างแต่กลับเงียบเงินละลายหลายไปหมด

การใช้วิธีหว่านเงินลงไปจึงเป็นความคิดเก่าที่ตามสังคมไม่ทันไม่รู้จุดแก้ปัญหา เพราะเวลานี้เงินลงไปเจอกับดักงาบไปหมดสิ้น กับดักที่ว่าคือธนาคาร หรือพวกค้าปลีกที่คุมตลาดอย่างร้านสะดวก 7-11 ที่รับเงินแล้วเข้าอย่างเดียวไม่มีจ่ายออกมา

เงินอุดหนุน จากภาค รัฐ ที่ควรออกมาหมุนเวียนก็เป็นอันว่าไม่ขยับ นอนนิ่งกับบัญชีของยักษ์ใหญ่ ทางเศรษฐกิจ เหล่านี้

ประมาณว่า พวกที่ได้รับอานิสงส์ จากการแก้ปัญหา เงินฝืดที่รัฐอัดเงินใส่ระบบ มีอยู่แค่ไม่เกิน 20เปอร์เซ็นต์ คนทั่วประเท ส่วนใหญ่จึงอดอยากปากแห้งจนปากจะแหว่งกันอยู่แล้ว

เพราะเหตุที่นายทุนเจ้าสัวทั้งหลายยึดตลาดร้านค้าบนดินเสียหมด แต่มันยังครอบครองตลาดบนอากาศ ไม่ได้นี่เป็นช่องทางออก

ทางออก ที่จะให้เม็ดลงมาถึงกระเป๋าประชาชน รัฐน่าจะส่งเสริมการซื้อขายในโซเชียลมีเดียไม่ว่าจะเป็นไอจีหรือเฟซบุ๊ก เพราะตลาดออนไลน์เป็นเศรษฐกิจของคนค้าขายจริงๆ ซื้อจริงขายจริงได้เงินเข้ากระเป๋าพ่อค้าแม่ค้าจริงๆ

สินค้าในตลาดออนไลน์มีทุกอย่างตั้งแต่สากกะเบือยังเรือรบทั้งของเก่าของใหม่ใครใคร่ค้าๆ มีการค้ากว้างมากๆ วันๆหนึ่ง ซื้อขายกันมูลค่า มากมายมหาศาลทั้งยังขายกันไม่มีเวลาจำกัด ร้านไม่เคยปิดหน้าเสื่อไม่เคยสะบัด เงินก็กระจายไกลไปลงทุกหย่อมหญ้า

รับประกันว่าถ้ารัฐบาลให้เงินกระตุ้นมาจะหนีปากพวกนายทุนใหญ่ที่เป็นจอมเขมือบ เงินจะถึงมือประชาชนและเกิดการหมุนเวียนหลายๆ รอบตามทฤษฏี เศรษฐศาสตร์ ทำให้เศรษฐกิจการเงินฟื้นตัวแน่