บรรยากาศตลอดทั้งวันมีประชาชนแต่งกายด้วยชุดสีดำสุภาพ เดินทางมาพร้อมกับพวงมาลัยดอกไม้อย่างต่อเนื่องและเพิ่มมากขึ้น หลังจากเปิดให้ประชาชนได้ถวายสักการะ โดยเจ้าหน้าที่สำนักพระราชวังได้เตรียมพานวางไว้เบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เพื่อใช้สำหรับถวายพวงมาลัยและดอกไม้สด ก่อนสำนักพระราชวังจะปิดพื้นที่ชั่วคราว
ตามที่ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระราชานุญาต ให้สำนักพระราชวังจัดทำซุ้มประดิษฐาน พระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร บริเวณริมกำแพงพระบรมมหาราชวัง ระหว่างประตูวิเศษไชยศรี และประตูมณีนพรัตน์ สำหรับให้ประชาชนได้ถวายสักการะต่อเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เป็นประจำทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง แต่เนื่องด้วยวันที่ 25 - 29 ตุลาคม 2560 เป็นวันงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร สำนักพระราชวังจึงจะเปิดให้ประชาชน มาถวายดอกไม้เบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ ได้จนถึงเวลา 24.00 น. ของวันที่ 23 ตุลาคม เพื่อเตรียมสถานที่สำหรับงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ
ดังนั้น วันนี้ (23 ต.ค.) อันเป็นวันสุดท้ายก่อนที่จะมีการปิดพื้นที่ชั่วคราวตลอดทั้งวันตั้งแต่เช้าตรู่ประชาชนต่างเดินทางมาถวายพวงมาลัยและดอกไม้อย่างเนืองแน่น ด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้
ด้าน นางปิยะนุช โภชนา อายุ 41 ปี เดินทางมาพร้อมหลานสาว น.ส.อรวรรณ ศรีทองคง พนักงานรัฐวิสาหกิจ อายุ 28 ปี ด้วยรถประจำทางปรับอากาศจากจังหวัดนครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม ที่ผ่านมา โดยนางปิยะนุชกล่าวถึงความรู้สึกภายหลังได้นำพวงมาลัยมากราบพระบรมฉายาลักษณ์ว่า ก่อนหน้านี้ตนได้เดินทางมาร่วมกราบพระบรมศพในหลวงรัชกาลที่ ๙ แล้ว 1 ครั้ง เนื่องจากตนทำงานเป็นพนักงานจำหน่ายตั๋วรถโดยสารประจำอยู่ที่สถานีขนส่ง จังหวัดนครศรีธรรมราช จึงไม่ค่อยมีวันหยุด สำหรับวันนี้ตนและหลานสาวที่ทำงานบริษัทเดียวกัน ขอลางานเนื่องในวันหยุดวันปิยมหาราช เป็นเวลา 3 วันเดินทางมาวางพวงมาลัยเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ แม้ได้เห็นพระบรมฉายาลักษณ์จากภายนอกพระบรมมหาราชวัง ก็รู้สึกตื้นตันใจมาก สำหรับความประทับใจที่มีต่อในหลวงรัชกาลที่ ๙ ตนประทับใจในทุกพระอัจฉริยภาพทุกด้าน โดยเฉพาะพระปรีชาสามารถ ทรงช่วยเหลือประชาชนในถิ่นทุรกันดารให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และความรักของพระองค์ที่มีต่อปวงชนชาวไทยทุกคน
“วันนี้ป้ารู้สึกภูมิใจมากที่ได้เดินทางมากราบเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ ซึ่งป้ารู้ดีว่าวันที่ 26 ตุลาคม ป้าไม่สามารถเดินทางมาร่วมส่งท่านสู่สรวงสรรค์ได้ เนื่องจากป้าต้องทำงานบริการประชาชน คือ การจำหน่ายตั๋วรถโดยสารที่สถานีขนส่งผู้โดยสารที่ จ.นครศรีธรรมราช โดยในวันนั้นป้าก็จะปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มที่และจะบริการประชาชนที่ส่วนใหญ่จะเดินทางมาร่วมพระราชพิธีสำคัญ ถือเป็นการทำความดีถวายพ่ออย่างหนึ่ง” นางปิยะนุช กล่าว
ส่วน น.ส.อรวรรณ กล่าวว่า ตนยังไม่เคยเดินทางมากราบพระบรมศพแม้แต่ครั้งเดียว เพราะต้องทำงานและเดินทางไม่สะดวก วันนี้รู้สึกดีใจมากที่ครั้งหนึ่งได้ร่วมเดินทางมายังท้องสนามหลวง จึงใช้โอกาสนี้ซื้อกรอบรูปและธนบัตรที่ระลึกกลับไปฝากครอบครัวและเพื่อนร่วมงานที่ยังไม่มีโอกาสเดินทางมากราบในหลวงรัชกาลที่ ๙ สำหรับความตื้นตันใจในวันนี้คือ การที่ได้เห็นประชาชนเดินทางมากราบเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ที่ซุ้มประดิษฐานแสดงถึงความจงรักภักดีที่มีต่อพระองค์ อยากให้คนไทยรักกันเช่นนี้ไปตลอด ไม่อยากให้คนไทยแบ่งแยกสีหรือทะเลาะกันอีกแล้ว
ทั้งนี้ สำนักพระราชวังจะปิดให้ประชาชนถวายดอกไม้ที่ซุ้มพระบรมฉายาลักษณ์เป็นการชั่วคราว เพื่อเตรียมสถานที่สำหรับงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพฯ ระหว่างวันที่ 25 - 29 ตุลาคม และหลังจากจบงานพระราชพิธีแล้วจะเปิดให้ประชาชนเข้ามาถวายดอกไม้ที่เบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ตลอดเป็นประจำทุกวันตลอด 24 ชั่วโมงเหมือนเดิม
