ประชาชนจากทั่วสารทิศเดินทางมาร่วมกราบสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช อย่างต่อเนื่อง ด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ
วันนี้ (19 ก.ย.) นับเป็นวันที่ 321 ของการเปิดให้ประชาชนเข้าสักการะพระบรมศพเบื้องหน้าพระบรมโกศบนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ตั้งแต่ช่วงเช้าตรู่ที่ผ่านมา มีพสกนิกรเป็นจำนวนมากจากทั่วทุกสารทิศทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัดต่างเดินทางมาสักการะพระบรมศพกันอย่างเนืองแน่นด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ
นางดารณา จูฑะศรี มาลัยธรรม อายุ 44 ปี พนักงานเอกชนบริษัทแห่งหนึ่ง เปิดเผยว่า ตนและครอบครัวเดินทางมาเข้ากราบสักการะพระบรมศพเป็นครั้งที่ 2 แล้ว เพราะตนและครอบครัวรู้สึกซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณอันใหญ่หลวงของในหลวง รัชกาลที่ ๙ ซึ่งตนมักจะสอนลูกชายเสมอว่า ประเทศไทยมีระบอบการปกครองที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ซึ่งในโลกนี้เหลือไม่กี่ประเทศเท่านั้นที่ยังมีพระมหากษัตริย์ ยิ่งเป็นในหลวง รัชกาลที่ ๙ ของไทย ที่ทรงงานหนักเพื่อพสกนิกรมาตลอดการครองราชย์ ซึ่งเรามีบุญที่ได้เกิดในช่วงสมัยของพระองค์ท่าน และอยู่ในช่วงรอยต่อของสองแผ่นดิน
นางดารณา จูฑะศรี มาลัยธรรม กล่าวต่อว่า เมื่อลูกชายได้ทราบถึงพระราชกรณียกิจของพระองค์ท่าน ก็รู้สึกตื้นตันใจ เพราะทรงเป็นแบบอย่างที่ดีให้ชาวไทยในทุกๆ เรื่อง อย่างเรื่องด้านดนตรีที่พระองค์ท่านทรงแซกโซโฟน ลูกชายก็อยากที่จะเล่นตามบ้าง นับเป็นพระมหากษัตริย์ที่ทรงพระปรีชาสามารถรอบด้านจริงๆ แม้พระองค์ท่านจะจากพวกเราไปแล้ว แต่พระองค์ท่านยังอยู่ในใจเสมอ เพราะสิ่งดีๆ คำสอนดีๆ จะปรากฎให้พวกเราเห็นอยู่เสมอ และจะกลายเป็นประวัติศาสตร์ของชาติไทยที่มีพระมหากษัตริย์ที่ดีอย่างในหลวง รัชกาลที่ ๙
