สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ พระราชทานอาหาร ขนมไทย ของว่าง น้ำดื่มสมุนไพร และน้ำดื่มจิตรลดา ให้บริการประชาชนที่เดินทางมากราบสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บริเวณหน้าประตูวิมานเทเวศร์ ในพระบรมมหาราชวัง
วันนี้ (5 ก.ย.) ที่เต็นท์อาหารพระราชทานของ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ตั้งอยู่บริเวณหน้าประตูวิมานเทเวศร์ ในพระบรมมหาราชวัง ซึ่งเป็นประตูทางออกของพสกนิกรหลังกราบสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศร รามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร เบื้องหน้าพระบรมโกศ
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงห่วงใยพสกนิกรที่มาสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เบื้องหน้าพระบรมโกศ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้หน่วยทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ นำอาหาร ขนม ของว่าง และน้ำดื่มพระราชทานมาแจกจ่ายให้ประชาชน
สำหรับเมนูอาหารพระราชทานแจกจ่ายประชาชน โดยวันนี้แบ่งเป็นมื้อเช้า เวลา 07.00 น. ข้าวเหนียวหมูปิ้ง ข้าวเหนียวไก่ทอด 2,000 กล่อง ชานมเย็น-ชาเขียว 500 ขวด นมหนองโพ 2,000 กล่อง มื้อกลางวัน เวลา 11.00 น. ข้าวกระเพราหมูสับ ไข่เจียว 2,000 กล่อง บะหมี่น่องไก่ตุ๋นมะระ 2,000 กล่อง ขนมไทย 1,000 ชุด มื้อบ่าย เวลา 14.00 น. เฉาก๊วยชากังราว 1,000 ถุง น้ำสมุนไพร 700 ลิตร ส่วนมื้อเย็นเวลา 18.00 น. ผักพริกขิงปลานิล 4,000 กล่อง คะน้าฮ่องกงปลาเค็ม 3,000 กล่อง น้ำพริกมะขาม กุนเชียง หมูยอ 3,000 กล่อง ลูกชิ้นปลาหมึกผัดพริกสด 3,000 กล่อง ผัดฟักทอง 2,000 กล่อง และมีน้ำดื่มให้บริการตลอดทั้งวันด้วย
ในวันเดียวกันสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้นักเรียนจากโรงเรียนช่างฝีมือในวัง (หญิง) ทำอาหารและขนมไทยโบราณมาร่วมแจกให้กับพสกนิกรที่เดินทางมากราบสักการะพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่เต็นท์อาหารพระราชทานของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ตั้งอยู่บริเวณทางออกประตูวิมานเทเวศร์ ในพระบรมมหาราชวัง โดยในวันนี้ขนมพระราชทานเป็นมะกรูดเชื่อม ซึ่งมะกรูดเชื่อมเป็นขนมหวานชาววังที่หารับประทานได้ยากยิ่งในปัจจุบันนี้ เพราะด้วยกรรมวิธีที่ยุ่งอยากและใช้เวลาในการทำ ซึ่งกว่าจะได้มะกรูดเชื่อม 1 ผลนั้นจะต้องนำผลมะกรูดสดมาปลอกเปลือกสีเขียวออกให้หมด ให้เหลือเพียงผลสีขาวว จากนั้นก็ใช้มีดคว้านเอาเนื้อด้านในออกให้เป็นรูปดอกไม้ 8 แฉก แล้วจึงนำไปแช่น้ำเกลือ 1 คืน วันรุ่งขึ้นก็นำผลมะกรูดที่คว้านแล้วไปแช่น้ำปูนอีก 2 ชั่วโมงจึงจะสามารถนำมาเชื่อมให้ทุกคนรับประทานได้ ซึ่งมะกรูดเชื่อมยังเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่สะท้อนให้เห็นถึงความละเอียดอ่อนของผู้คนในสมัยก่อนที่มีความพยายามจะแปรรูปของที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด
