xs
xsm
sm
md
lg

อ่านแล้วจะรู้ว่า “ในหลวง ร.๙” ทรงรักคนไทยมากแค่ไหน ! จส.100 เผยเรื่องสุดซาบซึ้ง “พระสุรเสียง ผ่านโทรศัพท์สาย Z”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ภาพจาก www.js100.com
จส.100 เผยเรื่องสุดซาบซึ้ง! สถานีได้มีการจัดเตรียมสายโทรศัพท์สายพิเศษที่เรียกว่า “สาย Z” สำหรับให้ “ในหลวง ร.๙” ทรงติดต่อสถานีได้โดยตรง ซึ่งพระองค์ทรงเคยโทรศัพท์มาในทุกช่วงเวลา ไม่ว่าเช้ามืด สาย บ่าย เย็น ยามวิกาลดึกดื่น ทรงห่วงใยติดตามดูแลทุกข์สุขของประชาชนอย่างไม่ทรงเหน็ดเหนื่อย ... ต้องอ่านดูแล้วจะรู้ว่าพระองค์ทรงรักคนไทยมากขนาดไหน

วานนี้ (3 มี.ค.) ทางเว็บไซต์ จส.100 (www.js100.com) ได้เผยแพร่บทความ เรื่อง “พระสุรเสียง... ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ผ่านโทรศัพท์สาย Z ของ จส.100” โดยระบุว่า “เป็นครั้งแรก..! ที่ตอบคำถามว่าทำไม..? ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ทรงฟังสถานีวิทยุ จส.100 มีรับสั่งเรื่องอะไร..? #แล้วคุณจะรู้ว่า...ทรงรัก พวกเราคนไทยแค่ไหน...”

มีรายละเอียดว่า ... “หลายคนอาจเคยได้ยิน ได้ฟัง หรือพอรู้ว่าพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงฟังสถานีวิทยุ จส.100 จึงมักมีคนมาถามพวกเรา จส.100 ว่าทำไม..? มีรับสั่งเรื่องอะไร..? และคน จส.100 ทำอย่างไร..?

...เรื่องเล่าเรื่องนี้อาจไม่ได้ตอบคำถามทุกข้อ...แต่ที่สำคัญที่สุด คือ ความตั้งใจที่อยากถ่ายทอดให้หลายคนมีโอกาสได้รู้ถึงพระราชหฤทัยรัก ห่วงใย ที่ทรงมีต่อคนไทย พระมหากรุณาธิคุณบางเรื่องที่หลายคนยังไม่เคยได้รู้...

คงจำภาพ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ทรงพระดำเนินบุกป่าฝ่าเข้าไปในพื้นที่ทุรกันดารทั่วประเทศ เพื่อได้ทอดพระเนตร ได้ทรงพูดคุยกับราษฎรในพื้นที่โดยพระองค์เอง ทำให้เราพอจะทราบว่าทรงใช้วิธีการศึกษาข้อมูล ข้อเท็จจริงโดยตรงจากต้นตอของเรื่อง ดังนั้น การที่ทรงฟังสถานีวิทยุ จส.100 นั้น. คิดในมุมมองของตนเอง ด้วยไม่อาจทราบความในพระทัยได้ว่าทรงฟังสถานีวิทยุ จส.100 ด้วยเหตุผลใด ว่า อาจเป็นเพราะลักษณะการดำเนินงานของสถานีเป็นการที่สมาชิกผู้ฟังจส.100 ที่อยู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและจังหวัดใกล้เคียงโทรศัพท์เข้ามารายงานออกอากาศเหตุการณ์ต่างๆ ทำให้ทรงสามารถติดตามรับฟังปัญหาทุกข์สุขต่างๆ ของคนกรุงเทพฯและพื้นที่นั้นๆ ได้ด้วยพระองค์เอง

ต่อมาสถานีวิทยุ จส.100 ได้จัดเตรียมให้พระองค์ทรงโทรศัพท์ติดต่อกับสถานีได้สะดวกโดยตรงผ่านสายโทรศัพท์สายพิเศษ ที่พวกเราเรียกว่าสาย Z และนั่นเองทำให้คนทำงานสถานีวิทยุ จส.100 โชคดี ได้มีโอกาสรับรู้ถึงพระมหากรุณา ทรงห่วงใยติดตามดูแลทุกข์สุขของประชาชนอย่างไม่ทรงเหน็ดเหนื่อย สถานีวิทยุ จส.100 นั้นออกอากาศตลอด 24 ชั่วโมง ก็ดูเหมือนว่าพระองค์ได้ทรงเคยโทรศัพท์มาในทุกช่วงเวลา..ไม่ว่าเช้ามืด สายบ่าย เย็น จนถึงยามวิกาลดึกดื่น ขึ้นอยู่กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในกรุงเทพมหานครและปริมณฑลในช่วงเวลานั้น

พระเมตตาห่วงใยผ่านสาย Z ของ จส.100 นั้นมากมายใหญ่หลวงหาที่สุดมิได้ โดยเฉพาะเรื่องปัญหาใหญ่ๆ ปัญหาหลักคือ ปัญหาน้ำท่วม การจราจร ปัญหาอุบัติภัย จนถึงความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน

เรื่องปัญหาน้ำท่วม ทรงเป็นห่วงมาก มีรับสั่งให้สถานีวิทยุ จส.100 ช่วยทำหน้าที่ ทรงใช้คำว่า “จราจรน้ำ” หมายถึงให้เจ้าหน้าที่สถานีฯไปศึกษาเรื่องแผนที่ลุ่มน้ำ ว่า น้ำไหลจากไหนไปถึงไหน คอยดูดาวเทียมสภาพอากาศ เวลาขึ้นลงของน้ำทะเลเพื่อให้เข้าใจเวลาพูดจัดรายการ แล้วให้คอยสัมภาษณ์เจ้าหน้าที่ทำงานน้ำท่วม คอยถามประชาชนให้เล่าออกอากาศ เพื่อที่พระองค์จะทรงติดตามดูว่าสถานการณ์น้ำท่วมเป็นอย่างไรแล้ว

ปัญหาเรื่องการจราจร ขอยกตัวอย่าง ตอนนั้นสถานีวิทยุ จส.100 ใช้เฮลิคอปเตอร์บินตรวจสภาพจราจรบนท้องถนน โปรดให้ถ่ายภาพทางอากาศสภาพการจราจรบนท้องถนนมาถวายให้ทอดพระเนตร และเมื่อมีพระราชดำริให้จัดสร้างเส้นทางเพื่อแก้ปัญหาจราจร โปรดให้ จส.100 ถ่ายภาพทางอากาศเพื่อทรงติดตามความคืบหน้าของการก่อสร้าง ดังเช่น ที่มีพระราชดำริให้แก้ปัญหาจราจรคับคั่งเชิงสะพานพระปิ่นเกล้า ฝั่งพระนคร ที่กลายมาเป็นถนนที่เรียกกันว่าถนนหยดน้ำ ทรงแก้ปัญหา “คอขวด” หลายจุด บนถนนราชดำเนิน โดยโปรดให้ขยายสะพานผ่านฟ้าลีลาศ สร้างสะพานคู่ขนานสะพานมัฆวานรังสรรค์ ลดขนาดฐานอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยลงประมาณ 1 เมตร และปรับผิวการจราจรใหม่ เป็นต้น

ส่วนเรื่องปัญหาอุบัติเหตุใหญ่ๆ หรือที่จะมีภัยต่อเนื่อง เช่น ครั้งหนึ่งทรงโทรศัพท์มารับสั่งที่ได้ยิน จส.100 ออกอากาศเรื่องรถบรรทุกขนกำมะถันเกิดอุบัติเหตุคว่ำที่สมุทรปราการ ทรงเกรงว่ากำมะถันจะลงไปในแม่น้ำเจ้าพระยา ทรงเป็นห่วงเรื่องวิธีจัดการกับกำมะถัน ให้จส.100ติดตามรายงานอย่างต่อเนื่อง เข้าใจว่าได้มีรับสั่งต่อกับหน่วยงานที่รับผิดชอบ ให้รีบจัดการปัญหากำมะถันอย่างถูกต้องและรวดเร็ว

อีกเรื่องหนึ่งเช่น ทรงติดตามรายงานการเกิดไฟไหม้พื้นที่กรุงเทพฯบ่อยครั้ง และปัญหาเจ้าหน้าที่ขาดแคลนชุดผจญเพลิง ภายหลังสถานีวิทยุ จส.100 จึงได้จัดซื้อชุดผจญเพลิงไปน้อมเกล้าฯถวายเมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2537 เพื่อทรงนำไปพระราชทานแก่หน่วยงานนั้น

ทั้งหมดนี้คงเป็นเพียงส่วนหนึ่งให้เห็นถึงพระปรีชาสามารถในการทรงใช้การสื่อสาร ตลอดจนหน่วยงานสื่อสารต่างๆ อย่างเช่น สถานีวิทยุ จส.100 รวมทั้งอีกหลายหน่วยงาน เป็นเครื่องมือให้ทรงช่วยเหลือปัญหาทุกข์ร้อนของประชาชนได้อย่างรวดเร็วและตรงจุด

สำหรับคนทำงานสถานีวิทยุ จส.100 เราทำงานเป็นชุดๆเปลี่ยนผลัดกันตามช่วงเวลา ทุกคนจะต้องคอยฟังว่า “โทรศัพท์สาย Z” จะดังเมื่อไหร่. และที่รู้สึกเหมือนกันทุกคนคือ รู้สึกเหมือนพระองค์จะไม่เคยทรงหยุดพักเลย เพราะเมื่อไหร่ที่มีสมาชิกผู้ฟัง จส.100 รายงานเหตุการณ์ร้ายแรงเข้ามา พวกเรารู้ทันทีว่าเดี๋ยวจะต้องได้ยิน “พระสุรเสียงผ่านสาย Z” แน่

วันนี้พวกเราไม่ได้ยิน “พระสุรเสียงผ่านสาย Z” อีกแล้ว แต่พระมหากรุณาธิคุณที่ทรงมีต่อคนกรุงเทพฯและพสกนิกรทั่วประเทศ ก็จะอยู่ในความทรงจำของพวกเราตราบนิรันดร์”
กำลังโหลดความคิดเห็น