กระทรวงพาณิชย์ ปรับเป้าเงินเฟ้อปีนี้ เป็น 0.8-1.2% จากเดิม 0.7-1.7% หลังน้ำมันแพง,เงินบาทอ่อนค่า จับตาโควิด-19 ยังเป็นตัวแปรสำคัญของการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ และส่งผลต่อเงินเฟ้อ
สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า กระทรวงพาณิชย์ หรือ สนค. รายงานสถานการณ์ราคาสินค้าและบริการประจำเดือนกันยายน 2564 พบว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค หรือ อัตราเงินเฟ้อทั่วไป เดือนกันยายน 2564 เพิ่มขึ้น 1.68 % จากเดือนเดียวกันของปีก่อน ส่วนอัตราเงินเฟ้อทั่วไปเฉลี่ย 9 เดือนแรกปีนี้ (ม.ค.-ก.ย.64) เพิ่มขึ้น 0.83 % จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
นายวิชานัน นิวาตจินดา รองผู้อำนวยการ สนค. กล่าวว่า เงินเฟ้อทั่วไป กลับมาขยายตัวอีกครั้งหลังจากที่ติดลบ 0.02% เมื่อเดือนสิงหาคม ผลจากระดับราคาขายปลีกน้ำมันเชื้อเพลิงสูงขึ้นต่อเนื่อง ขณะที่สินค้าอื่นๆส่วนใหญ่ยังเคลื่อนไหวเป็นปกติและค่อนข้างทรงตัว ยกเว้นสินค้ากลุ่มอาหารสด ที่เคลื่อนไหวในทิศทางที่ค่อนข้างผันผวน แต่ส่วนใหญ่ ยังมีราคาต่ำกว่าช่วงเดียวกันปี 2563 โดยเฉพาะข้าวสารเจ้า ข้าวสารเหนียว เนื้อสุกร ไก่สด ผักสด ผลไม้สด
สนค.ปรับเป้าเงินเฟ้อเฉลี่ยทั้งปี 2564 อยู่ระหว่าง 0.8-1.2 % จากเดิม 0.7-1.7% ให้สอดคล้องกับสถานการณ์เศรษฐกิจปัจจุบัน ซึ่งอัตราเงินเฟ้อ เมื่อเทียบกับอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่เพิ่มในอัตราใกล้เคียงกัน ถือว่า ยังไม่ผิดปกติ และเป็นไปในทิศทางกำลังซื้อที่แท้จริง โดยมองเงินเฟ้อไตรมาส 4 มีแนวโน้มขาขึ้นตามทิศทางราคาน้ำมัน แต่เชื่อว่า รัฐบาลจะคุมราคาในระดับที่ไม่กระทบค่าครองชีพประชาชน รวมทั้งการอ่อนค่าของเงินบาท ส่งผลต่อต้นทุนการผลิต การขนส่ง และอีกปัจจัย คือ สถานการณ์โควิด เริ่มคลี่คลาย ,การเปิดประเทศ กิจกรรมทางเศรษฐกิจเริ่มกลับมาดำเนินการได้ ทำให้มีการจับจ่ายมากขึ้น แต่ยังต้องติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด เพราะโควิด ยังเป็นตัวแปรสำคัญของการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ และส่งผลต่อเงินเฟ้ออย่างมีนัยสำคัญ
