xs
xsm
sm
md
lg

ส่งออก มี.ค.สดใส มูลค่าสูงสุดเป็นประวัติการณ์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ส่งออกไทยสดใส เดือนมีนาคม กลับมาขยายตัว 8.47% ด้วยมูลค่าสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก กระทรวงพาณิชย์ เตรียมหารือเอกชน เพิ่มเป้าส่งออกทั้งปีนี้โตเกิน 4%

นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้ากระทรวงพาณิชย์ หรือ สนค.กล่าวว่าท่ามกลางการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ยังน่ากังวล แต่มูลค่าการส่งออกของไทยยังอยู่เหนือระดับ 2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 โดยในเดือนมีนาคม 2564 มีมูลค่าสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ที่ 24,222.45 ล้านดอลลาร์ฯ ขยายตัว 8.47% สอดคล้องกับทิศทางเศรษฐกิจโลก ที่ได้แรงสนับสนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯ ,การเร่งแจกจ่ายวัคซีนทั่วโลก

เมื่อหักสินค้าเกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน ทองคำ และยุทธปัจจัย การส่งออกของไทยในเดือนมีนาคม ขยายตัวถึง 11.97 % สะท้อนการขยายตัวอย่างแข็งแกร่งของภาคเศรษฐกิจจริง ขณะที่ภาพรวมส่งออกไตรมาสแรกปี 2564 มีมูลค่า 64,148 ล้านดอลลาร์ฯ ขยายตัว 2.27 % ส่วนการนำเข้าไตรมาสแรก มีมูลค่า 63,632 ล้านดอลลาร์ฯ ขยายตัว 9.37 % เกินดุล515.66 ล้านดอลลาร์ฯ


ตลาดส่งออกสำคัญมีทิศทางทีดีขึ้นตามลำดับ โดยหลายตลาดขยายตัวในเกณฑ์ดีต่อเนื่อง เช่น สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น จีน ออสเตรเลีย สหภาพยุโรป (15) และเอเชียใต้ นอกจากนี้หลายตลาดส่งสัญญาณฟื้นตัว อาทิ ตลาด CLMV ตลาดรัสเซียและกลุ่มประเทศ CIS ที่กลับมาขยายตัว รวมถึงตะวันออกกลาง (15) และอาเซียน (5) ที่หด ตัวน้อยลงจากเดือนก่อนมาก

สินค้าอุตสาหกรรมสำคัญที่ขยายตัวได้ดีและเป็นตัวขับเคลื่อนการส่งออกในเดือนนี้ได้แก่ รถยนต์ อุปกรณ์ และส่วนประกอบ ผลิตภัณฑ์ยาง เม็ดพลาสติก เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์เคมีภัณฑ์ ขณะที่สินค้าเกษตรและ อาหารที่ยังเติบโตในระดับสูงต่อเนื่อง ได้แก่ ยางพารา ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง และอาหารสัตว์เลี้ยง

สำหรับสินค้าที่ เกี่ยวข้องกับการทำงานที่บ้าน (Work from Home) และเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน เช่น คอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และ ส่วนประกอบ เตาอบไมโครเวฟ ตู้เย็นและตู้แช่แข็ง เครื่องซักผ้าและส่วนประกอบ เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ โทรศัพท์และอุปกรณ์ และสินค้าเกี่ยวกับการป้องกันการติดเชื้อและลดการแพร่ระบาด เช่น เครื่องมือแพทย์และ อุปกรณ์ และถุงมือยาง ยังมีคำสั่งซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่อง


ผู้อำนวยการ สนค. เชื่อว่า ยอดส่งออกเดือนเมษายน มีแนวโน้มเป็นบวกต่อเนื่อง ตามการฟื้นตัวของภาคการผลิต , ประสิทธิภาพการกระจายวัคซีน ทำให้ความ เชื่อมั่นทางเศรษฐกิจดีขึ้น และราคาน้ำมันดิบเริ่มปรับตัวสูงขึ้นตามปริมาณกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ซึ่งจะเป็นแรงหนุนให้การส่งออกกลุ่มสินค้าที่เกี่ยวข้องกับน้ำมันปรับสูงขึ้น ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ ขอหารือกับภาคเอกชน ก่อนจะปรับเป้าส่งออกไทยทั้งปีนี้ เพิ่มขึ้นจากเดิมที่คาดไว้ 4%

ส่วนปัจจัยที่ต้องเฝ้าระวัง คือ อุปสรรคการค้าชายแดนในเมียนมา โดยเฉพาะการประท้วงที่เกิดขึ้นยาวนาน อาจส่งผลต่อกำลังซื้อของเมียนมาในภาพรวม ,ต้นทุนค่าระวางขนส่งทางเรือของผู้ประกอบการ อาจสูงขึ้นตามราคาน้ำมันดิบ และเศรษฐกิจโลก ยังมีความไม่แน่นอนจากการแพร่ระบาดของโควิด-19
กำลังโหลดความคิดเห็น