xs
xsm
sm
md
lg

ปชป. ยืนยัน "ถาวร" ยังไม่สิ้นสุดสถานะ ส.ส.

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมชี้แจงศาลรัฐธรรมนูญ กรณีสมาชิกภาพ ส.ส. ของ "ถาวร เสนเนียม" อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ย้ำ”ถาวร” ยังมีสถานะ ส.ส.ตามรัฐธรรมนูญ

ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยถึงกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. มีมติยื่นศาลรัฐธรรมนูญเพื่อให้พิจารณาวินิจฉัยสมาชิกภาพความเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของ ส.ส. ที่ศาลอาญามีคำพิพากษาว่า พรรคประชาธิปัตย์ เคารพในดุลพินิจของ กกต. ซึ่งพรรคพร้อมชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาในศาลรัฐธรรมนูญต่อไปตามกระบวนการ

โดยกรณีของนายอิสสระ สมชัย ส.ส.บัญชีรายชื่อ และ นายชุมพล จุลใส ส.ส.ชุมพร คงไม่มีข้อกฎหมายที่สลับซับซ้อน เพราะมีกรณีเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งอยู่ด้วย ส่วนกรณีสมาชิกภาพความเป็น ส.ส. ของนายถาวร เสนเนียม ส.ส.สงขลา มีความแตกต่างจากทุกกรณี เพราะมีเพียงโทษจำคุก ซึ่งขอยืนยันว่านายถาวรยังคงความเป็น ส.ส.ตามรัฐธรรมนูญ

ส่วนรายละเอียดในการขี้แจงต่อศาลนั้น ยังไม่ขอพูดถึงเพราะเป็นเรื่องของการชี้แจงในศาล ซึ่งเมื่อเข้าสู่กระบวนการที่ กกต. ได้ส่งศาลรัฐธรรมนูญ พรรคก็จะชี้แจงข้อเท็จจริง ข้อกฎหมาย ตามหลักการของรัฐธรรมนูญต่อศาลรัฐธรรมนูญต่อไป ซึ่งมั่นใจว่าความเป็น ส.ส.ของนายถาวรยังชอบด้วยรัฐธรรมนูญทุกประการ ซึ่งกรณีการเข้าเรือนจำของนายถาวร เป็นการเข้าเรือนจำเพื่ออยู่ระหว่างรอศาลพิจารณาประกันตัว และคดียังไม่ถึงที่สุด ดังนั้น จึงไม่เข้าลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญมาตรา 98 แต่อย่างใด

ส่วนประเด็นที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ระบุเหตุผลในการส่งหนังสือถึงคณะกรรมการการเลือกตั้ง ก็มีประเด็นที่น่าสนใจ เช่นกรณีที่มีการคุมขังในสมัยประชุมว่าจะสามารถทำได้หรือไม่ เพราะจะมีผลต่อการวินิจฉัยสมาชิกภาพความเป็น ส.ส. เช่นกันนั้น โดยขณะนี้ต้องรอกระบวนการของศาลรัฐธรรมนูญในการวินิจฉัยต่อไป

นอกจากนี้ นายราเมศ ยังกล่าวถึงกระแสข่าวการปรับครม.ว่า ขณะนี้ยังไม่มีการส่งสัญญาณจากนายกรัฐมนตรีในการปรับคณะรัฐมนตรี ซึ่งอำนาจในการปรับคณะรัฐมนตรีเป็นอำนาจของท่านนายกรัฐมนตรี หากจะเริ่มต้นเข้าสู่กระบวนการของการปรับคณะรัฐมนตรีจะต้องแจ้งมายังพรรคร่วมรัฐบาลว่าจะให้บุคคลใดเข้ามาแทน แต่ขณะนี้ยังไม่ได้มีการส่งสัญญาณมาจากนายกรัฐมนตรีแต่อย่างใด

สำหรับกระบวนการคัดเลือกตัวบุคคลเป็นรัฐมนตรีของพรรคประชาธิปัตย์นั้น เริ่มจากการเสนอตัวบุคคลโดยคณะกรรมการบริหารพรรค เสนอรายชื่อต่อที่ประชุมร่วม ระหว่างคณะกรรมการบริหารพรรคและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จากนั้นจะมีการเลือกคนที่จะมาเป็นรัฐมนตรีในส่วนที่จะมีการปรับคณะรัฐมนตรีตามข้อบังคับพรรค

ส่วนที่ปรากฏเป็นข่าวว่ามีรายชื่อ ผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีของพรรคประชาธิปัตย์จำนวน 3-4 รายชื่อนั้น ขอยืนยันว่ายังไม่มีการระบุตัวบุคคลที่เฉพาะเจาะจง ซึ่งบุคคลที่มีศักยภาพ มีความรู้ความสามารถที่จะไปเป็นรัฐมนตรีมีจำนวนมาก ทั้งผู้ที่เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและอดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร โดยไม่ได้มีการจำกัดโควต้าว่าจะต้องเป็นบุคคลที่อยู่ในภาคใด ซึ่งในส่วนของประชาธิปัตย์ทุกคนมีสิทธิในการพิจารณาร่วมกัน


กำลังโหลดความคิดเห็น