นายกฯเผยกรณีรัฐสภามีมติตั้งกมธ.ศึกษาร่างแก้ไขรธน. เป็นไปตามกติกาประชาธิปไตยฯ ชี้เคารพสิทธิของทุกคน ไม่เคยไปล๊อบบี้ เพราะไม่มีเรื่องผลประโยชน์ส่วนตัว
ที่กระทรวงกลาโหม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ กรณีที่รัฐสภามีมติตั้งกรรมาธิการวิสามัญศึกษาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ว่า ตนไม่มีความเห็นอะไร เพราะเป็นเรื่องของทางรัฐสภา บรรยากาศการประชุมในวันแรกเป็นไปได้ด้วยดี แต่วันที่สองก็เริ่มมีความขัดแย้งกันมากขึ้น ซึ่งทุกคนก็เห็นกันแล้วว่ามีการก้าวล่วงอะไรต่าง ๆ หลายคนก็รับไม่ได้ จึงทำให้เกิดการลงมติกันอย่างที่ว่า รวมถึงเปลี่ยนแปลงญัตติอะไรต่าง ๆ ที่ตนไม่เคยสั่งอะไร ซึ่งการลงมติไม่ใช่ว่าจะเห็นชอบด้วยกันทั้งหมด เพราะก็มีบางส่วนก็เห็นแตกต่าง ต้องเคารพความคิดเห็นที่แตกต่างกัน เพราะคือผู้ทรงเกียรติใช่หรือไม่
ดังนั้นเราต้องรับฟังซึ่งกันและกัน หากมีการให้ร้ายว่ากล่าวเบียดเบียนกัน พูดจาไม่สุภาพเป็นเราก็รับไม่ได้ เพราะฉะนั้นจะทำอย่างไรให้แก้ไขปัญหาตรงนี้ได้ เขาเรียกว่าความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง ทั้งนี้ฝากพวกเราช่วยแก้ด้วยแล้วกัน
เมื่อถามว่า หลายฝ่ายมองว่าเป็นการยื้อเวลาของรัฐบาลหรือไม่นั้น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตอนแรกตนคิดว่าก็จะเรียบร้อย แต่วันที่สองทุกคนก็มีวุฒิภาวะและรักในศักดิ์ศรีของตนเอง บางทีการพูดจาอะไรมันก็ทำให้ทุกอย่างเดินหน้าไปไม่ได้ และที่มองว่าเป็นการชะลอ 1 เดือน ก็เป็นการทำตามกฎหมายไม่ใช่หรือ และเป็นการทำตามกติกาของสภาฯ มันจะเกิดอะไรขึ้นต่อไปก็ให้ไปดูข้างหน้า ถ้าทุกคนสามารถผ่อนสั้นผ่อนยาวไปได้บ้าง มันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับตนเลย มันก็ไม่ได้ทำให้ตนดีขึ้นหรือเลวลง เป็นเรื่องความคิดเห็นของทุกคนถ้าทุกคนบอกว่าประชาธิปไตยนี่ก็คือประชาธิปไตย เพราะฉะนั้นต้องรับฟังเหตุผล แล้วจะทำอย่างไรให้เดินหน้าไปด้วยกันได้ด้วยความปรองดอง และการหารือรวมกันต่าง ๆ เหล่านี้ ตนไม่คาดหวังว่าจะเกิดอะไรขึ้น
เมื่อถามย้ำว่า ได้มีการล๊อบบี้จากทางรัฐบาลหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ ย้อนถามว่า จะไปล๊อบบี้อะไร จะไปล๊อบบี้กับใคร และจะไปสั่งใคร เพราะสมาชิกวุฒิสภา หรือ ส.ว. ก็มีเกียรติของเขา และอย่าลืมว่าใน ส.ว. .250 คน ก็มี 50 คน ที่มาจากการเลือกของประชาชน และอีก 200 คน ก็มาจากผู้ที่มีศักยภาพและประสบกาการณ์จากภาครัฐและเอกชน ขอให้ฟังพวกเขาบ้างว่าทำอะไรที่เสียหาย // และที่หลายคนมองว่าเอื้อประโยชน์ให้กับตน ตนก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเอื้อตรงไหน ส่วนตัวมองว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องกลไกแต่ละคนที่ทำงานมา ตนไม่ได้หมายความว่าจะอยู่จนถึงโลกแตก เพราะอะไรที่หารือกันได้ ช่องทางไหนที่พูดกันได้ มีการแก้ไขตรงนั้นก็ว่ากันไป แก้บางฉบับหรือแก้บางมาตราก็แล้วแต่ ก็ให้เกียรติเขา เพราะ ส.ว. ก็เป็นตัวแทนประชาชน หลายคนมองว่ามาจากตนนั้น ตนบอกเลยว่าไม่รู้จักทั้งหมด เป็นเรื่องการกลั้นกรองขึ้นมา มองประสบการณ์ของเขาก็อนุมัติเท่านั้นเอง
เมื่อถามว่า ในใจของ นายกฯ อยากให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตนไม่เคยตอบว่าอยาก หรือไม่อยาก แต่ตนตอบว่าไม่ขัดข้องในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งจะแก้อย่างไรก็ว่ากันมา