ปัญหาความขัดแย้ง ระหว่างนายมงคลกิตติ์ และนายสิระ มีแนวโน้มจะจบแล้ว หลังประธานสภาฯ เรียกคุยปรับความเข้าใจให้ทั้งคู่เลิกแล้วต่อกัน และหันหน้าทำงานเพื่อประชาชนอย่างแท้จริง
ที่รัฐสภา นายแทนคุณ จิตต์อิสระ เลขานุการคณะทำงานประธานสภาผู้แทนราษฎร ร่วมแถลงข่าว กับนายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคไทยศรีวิไลย์ และกลุ่มส.ส.บางส่วน โดยระบุว่า ขณะนี้กรณีความขัดแย้งระหว่างนายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กรุงเทพมหานคร พรรคพลังประชารัฐ กับนายมงคลกิตติ์ ยุติลงแล้ว หลังจากนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้เรียกให้นายมงคลกิตต์ มาพูดคุยทำความเข้าใจ
ทั้งนี้ นายมงคลกิตติ์ ให้ความเคารพนายชวน อยู่แล้ว จึงยอมยุติความขัดแย้งที่จะเกิดขึ้นอีก ส่วนความขัดแย้งเก่าคงต้องพูดคุยเจรจาต่อไป โดยนายชวน มีนโยบายให้สภาเป็นสถานที่ที่ทำงานเพื่อประชาชนอย่างแท้จริง โดยจะเรียกนายสิระ เข้าพูดคุยปรับความเข้าใจอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งการเจรจาในขณะนี้ จำเป็นต้องมีตัวกลางในการพูดคุย
ด้าน นายมงคลกิตติ์ กล่าวว่า หนึ่งสัปดาห์ที่แล้วมา ทางประธานสภาผู้แทนราษฎรได้เรียกเข้าพบเพื่อพูดคุยถึงปัญหา และต้องการให้แต่ละฝ่ายเลิกแล้วต่อกัน โดยนายชวน เปรียบเป็นครูทางการเมือง อีกทั้งเป็นประมุขฝ่ายนิติบัญญัติ จึงให้เคารพ และศรัทธาเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งตนเองก็เป็นลูกผู้ชายพอ เมื่อผู้ใหญ่ที่ตนให้ความเคารพบอกให้ยุติปัญหา ก็จะปฏิบัติตาม ซึ่งข้อความที่ตนเองได้โพสใน Facebook ส่วนตัวในวันนั้นยอมรับว่าเป็นถ้อยคำที่รุนแรง เกิดจากการบันดาลโทสะ ซึ่งนายสิระ นับเป็นเพื่อนร่วมรุ่น ปปร.23 ด้วยกัน เพื่อให้ความเป็นเพื่อนยังคงอยู่ ตนจะขอยุติความขัดแย้งลง อีกทั้งให้เกิดความสามัคคีขึ้นในสภา เนื่องจากขณะนี้บ้านเมืองอยู่ท่ามกลางความขัดแย้ง การใช้ชีวิตต่อจากนี้ก็ใช้ธรรมะเข้ามาข่มจิตใจ จากนี้ไปก็จะทำหน้าที่เป็นผู้แทนของประชาชนต่อไป จึงขอโทษต่อการโพสต์ข้อความที่รุนแรงเกินไป
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า จะถอนฟ้องนายสิระ คดีหมื่นประมาท โดยเรียกค่าเสียหาย 100 ล้านหรือไม่ นายมงคลกิตติ์ กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องเล็กน้อย สามารถพูดคุยกันได้ พร้อมย้ำว่าความขัดแย้งในครั้งนี้ไม่ได้เป็นการกลบข่าวการซื้อเรือดำน้ำ และม็อบเยาวชนแต่อย่างใด
เมื่อถามว่า เหตุใด นายสิระ ไม่มาร่วมแถลงข่าวด้วย นายมงกิตต์ กล่าวเพียงว่า “พี่สิระ ติดภาระกิจอยู่ และส่วนตัวยังไม่ได้คุยกัน และถ้าจะคุยกันจริง ๆคงต้องมีคนกลางมาร่วมพูดคุยด้วย”