xs
xsm
sm
md
lg

จบยาก ! “เต้" ฝาก "บิ๊กป้อม" คุมลูกพรรค อย่าไล่กัดชาวบ้าน

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“เต้ มงคลกิตติ์” ยันแสดงความเห็นทางการเมืองพาดพิง พล.อ.ประยุทธ์ เพราะห่วงเหตุการณ์บ้านเมือง แต่กลับถูก “สิระ”พูดเหยียดหยามศักดิ์ศรี ทำให้บันดาลโทสะ พร้อมฝาก “ บิ๊กป้อม” คุมลูกพรรคให้อยู่ อย่าให้ไปไล่กัดชาวบ้าน

ที่รัฐสภา นายมงคลกิตติ์ สุขสินธรานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยศรีวิไลย์ ให้สัมภาษณ์ภายหลังเข้าพบกับนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ว่า ขอยืนยันว่าที่ตนโพสต์ในเฟซบุ๊กส่วนตัว แค่คำว่า “สิระ” แต่ไม่ได้ระบุนามสกุล และการโพสต์นั้นก็ไม่ได้มุ่งหวังจะเอาชีวิต ที่นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ ไปแจ้งความตน 2 ข้อหานั้น ตนก็ได้ศึกษากฎหมายเพราะเคยโดนดำเนินคดีมาเยอะ จึงเข้าใจความผิดว่าจะมีความผิดมากน้อยแค่ไหน

อย่างก็ตาม ที่ตนเองโพสต์ในเฟซบุ๊กไปเมื่อวาน (20 ส.ค.) แค่บันดาลโทสะ โทษก็ลดลง 2 ใน 3 อยู่แล้ว ขนาดยิงคนตายยังได้ลดโทษติดคุกแค่ 2 ปี ใครโดนแบบตนก็ต้องรู้สึกก็ต้องรู้สึกเหมือนกัน คุมอารมณ์ไม่อยู่ ยอมรับว่าเมื่อวานโกรธมาก หลังนายสิระ แถลงข่าวที่มีถ้อยคำดูถูกตัวเอง เพื่อน ส.ส. ที่นั่งอยู่ก็เห็นหมด และขอให้ตนเอาผิดกับนายสิระ แต่พฤติกรรมของนายสิระ มันเกินไป ปกติตนเองจะเป็นคนที่ไม่ถือสาพวกเดียวกัน แต่ตนเป็นหัวหน้ากลุ่มพรรคเล็ก ทำแบบนี้เหมือนหยามศักดิ์ศรีและดูถูกทุกคนในพรรคเล็กไปด้วย ทุกคนจึงขอร้องให้โทรหานายสิระตั้งแต่เมื่อวาน ถ้านายสิระรับสายเคลียร์กัน ขอโทษที่แถลงข่าว ทุกอย่างก็จบ แต่นายสิระไม่ได้รับสาย ตนกับนายสิระ เรียนสถาบันพระปกเกล้าด้วยกัน จะทำอะไรต้องให้เกียรติกัน

นายมงคลกิตติ์ ยืนยันว่า เรื่องที่ตนเองแสดงความคิดเห็นทางการเมืองเกี่ยวกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ตนพูดในฐานะแกนนำพรรคเล็กที่ร่วมรัฐบาล เป็นห่วงบ้านเมืองกับเหตุการณ์ที่จะเกิดข้างหน้า แต่นายสิระ กลับมาพูดจาเหยียดหยาม โดยประโยคที่ตนโกรธเลือดขึ้นหน้าคือ “ตักน้ำใส่กระโหลก-บริจาคเงินจนหมดให้มาขอนายสิระได้-กล้วยหมด” ซึ่งไม่เกี่ยวกับเรื่องการแสดงความเห็นทางการเมือง พร้อมย้ำว่า ถ้าไม่จำเป็นตนก็ไม่แสดงความเห็นอะไรมาก สิ่งที่พูดไปคือความหวังดีกับรัฐบาลและประเทศ

ทั้งนี้ ที่นายสิระถามว่า เงินหมดหรือยัง ตนอยากฝากไปบอกว่า มีน้อยก็ใช้น้อย มีมากก็ใช้มาก แต่ปกติตนก็ไม่ได้ใช้อะไรมากอยู่แล้ว ส่วนที่นายสิระ บอกว่า ไม่ใช่บันดาลโทสะ แต่เป็นที่สันดาน นายมงคลกิตติ์ กล่าวว่า ปกติกมลสันดานในตัวเองเป็นคนดีก็ได้ เป็นคนเลวก็ได้ เป็นโจรก็ได้ เป็นใครก็ได้ ขึ้นอยู่กับอารมณ์ เพราะแต่ละคนมีอารมณ์ที่แตกต่างกันไป ช่วงที่โพสต์เฟซบุ๊กอาจย้อนไปเหมือนช่วงที่อายุ 17-18 ปี


ผู้สื่อข่าวถามว่า ทำไมถึงลบโพสต์ที่ขู่นายสิระ นายมงคลกิตติ์ ชี้แจงว่า ไม่ได้ลบ แต่เมื่อวานมีผู้สื่อข่าวโทรหาเยอะ แล้วลิ้งค์โพสต์นั้นของตนมันขึ้นมา แล้วบังเอิญว่านิ้วก้อยไปกดโดนลบ เล็บนิ้วก้อยมันยาว ตนไม่รู้ ลบไปแล้วก็เสียดายอยู่ เพราะกดไลค์เยอะ ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า ทำไมไม่โพสต์ใหม่ นายมงคลกิตติ์ ตอบว่า ก็มีคนแคปไว้หมดแล้ว จะโพสต์อีกทำไม ส่วนที่ตนเองโพสต์เรื่องบัญชีทรัพย์สิน นายมงคลกิตติ์ ยืนยันว่าไม่ได้สื่อถึงใคร ใครมีก็ไปชี้แจงเพิ่ม

ส่วนที่ถามว่า คิดเห็นอย่างไรที่ นายสิระ กล่าวหาว่าตนเป็น ส.ส. พฤติกรรมถ่อย นายมงคลกิตติ์ กล่าวว่า ส.ส. พฤติกรรมถ่อย ให้ย้อนดูว่าระหว่างเหตุการณ์ที่ภูเก็ตกับของตนใครถ่อยกว่ากัน เมื่อวานที่ทำไปไม่ใช่อารมณ์ ส.ส. แต่เป็นอารมณ์เด็กช่าง ส่วนที่นายสิระ และนางสาวปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส. ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ จะร้องเรียนต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร นั้น ตนก็ไม่ขัดข้อง พร้อมย้อนถามว่าถ้านายชวนโดนแบบที่ตนเองโดนจะยิ้มออกเหรอ

เมื่อถามว่า ส่วนหลังจากนี้จะมองหน้ากันติดหรือไม่ หรือจะมีคนกลางมาไกล่เกลี่ย เช่น พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ นายมงคลกิตติ์กล่าวว่า ฝากไปบอก พล.อ.ประวิตร ว่า “ให้คุมลูกพรรคหน่อย อย่าให้ไปเที่ยวไล่กัดชาวบ้านแบบนี้” พร้อมย้ำว่าไม่เคลียร์ ถ้าจะเคลียร์ก็ต้องมาขอโทษต่อหน้าสื่อมวลชน แล้วตนจะต้องไปถามแฟนคลับของตนก่อน ตนเองมีแฟนคลับทั่วประเทศ ทั้งนักเรียน นักศึกษา เด็กอาชีวะ พวกสิบล้อ วินมอร์เตอร์ไซค์ ตุ๊กๆ ทุกคนเป็นแฟนคลับมงคลกิตติ์และฝากบวกมาเยอะ กลุ่มนี้เป็นฐานเสียงพรรคไทยศรีวิไลย์ จึงถือว่าเป็นตุ๊กตาของประชาชน ประชาชนต้องการให้ทำยังไงก็ต้องทำตาม และถ้ามีค่าปรับก็คงต้องแชร์กัน ไม่กลัวจะมีใครมาดักท้าต่อยท้าตี ยืนยันว่า รอยร้าวนี้ไม่เกี่ยวกับพรรคร่วม แยกออกระหว่างเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัว

นอกจากนี้ นายมงคลกิตติ์ ยังฝากบอกนายสิระด้วยว่า “ผมไม่ได้เป็นเริ่มก่อน พี่เป็นคนเริ่มก่อน เพราะฉะนั้นพี่ก็รู้ว่าใครถูกใครผิด ในภาษาวัยรุ่นหรือนักเลงใครเริ่มก่อน” นายมงคลกิตติ์ พูดด้วยสีหน้าเอาเรื่อง พร้อมชี้นิ้วแล้วพูดว่า “ใครเริ่มก่อน ผมไม่ได้เริ่มก่อน” ผู้สื่อข่าวถามทิ้งท้ายว่า นักเลงกับเจ้าของค่ายมวยมาเจอกันจะเกิดอะไรขึ้น นายมงคลกิตติ์ ตอบว่า ก็ลองกันหน่อย


กำลังโหลดความคิดเห็น