ศบค.ชุดใหญ่ มีมติเสนอต่ออายุพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ออกไปอีกหนึ่งเดือน สิ้นสุดวันที่ 31 สิงหาคม 2563 เตรียมเสนอคณะรัฐมนตรีเห็นชอบ สัปดาห์หน้า
นายแพทย์ ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันนี้ว่า พบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อรายใหม่ 6 ราย มีผู้ป่วยยืนยันสะสมอยู่ที่ 3,261 ราย ผู้ป่วยรักษาหายแล้วรวม 3,105 ราย และมีผู้ป่วยรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 98 ราย ขณะที่ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม โดยยอดผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 58 ราย สำหรับ ผู้ติดเชื้อรายใหม่ 6 รายที่พบในวันนี้ ทั้งหมดกลับจากต่างประเทศและพักใน State Quarantine
ขณะที่ศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข ได้รายงานความคืบหน้าสถานการณ์ที่ จ.ระยอง และ กทม.โดยผลตรวจกลุ่มเสี่ยงกรณีทหารอียิปต์และเด็กชาวซูดานทุกรายที่ไปตรวจ 7,207 ราย ไม่พบเชื้อ
นายแพทย์ทวีศิลป์ ยังกล่าวถึงการประชุมศบค.ชุดใหญ่ที่ นายกรัฐมนตรี เป็นประธานว่า ที่ประชุมได้พิจารณาขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร ออกไปอีกหนึ่งเดือน เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม -31 สิงหาคม 2563 โดยจะนำเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรีในสัปดาห์หน้า
นอกจากนี้ ที่ประชุม ศบค.ชุดใหญ่ อนุมัติในหลักการของกลุ่มต่างชาติที่เข้ามาด้วยการการจัดการทำข้อตกลงพิเศษ และมาตรการสำหรับบุคคลในคณะทูต คณะกงสุล องค์การระหว่างประเทศ ผู้แทนรัฐบาลหรือหน่วยงานของรัฐ เข้ามาแล้วต้องมีมาตรการอยู่ในสเตทควอรันทีน 14 วัน โดยกระทรวงการต่างประเทศจะไปลงในรายละเอียด
พร้อมกันนี้ ยังพิจารณาวิธีการปฏิบัติในการนำแรงงานต่างด้าว 3 สัญชาติ ได้แก่ พม่า ลาว และกัมพูชา เข้ามาในประเทศ เนื่องจากมีความต้องการใช้แรงงานไร้ฝีมือ โดยมี 2 กลุ่ม คือ 1. กลุ่มมีใบอนุญาตทำงานและมีวีซ่าอยู่แล้ว ต้องการกลับเข้ามทำงานใหม่ และ 2. ยังไม่มีใบอนุญาตทำงานและวีซ่า ต้องการนำเข้ามา ในกลุ่มก่อสร้างและอุตสาหกรรมอาหาร ซึ่งกระทรวงแรงงานจะลงในรายละเอียด
ส่วนการผ่อนคลายให้ต่างชาติ 4 กลุ่มเข้าประเทศ ศบค. อนุมัติหลักการ คือ 1.เข้ามาจัดแสดงสินค้า 2. การถ่ายทำภาพยนตร์ 3. เมดิคัลแอนด์เวลเนส ต้องกักตัวใน รพ.ครบ 14 วัน แม้รักษาเสร็จก่อนก็ตาม และ 4. คนถือบัตรสมาชิกพิเศษประเทศไทยหรืออีลิทการ์ด ก็ต้องอยู่ในสเตทควอรันทีนเช่นกัน
