ตั้งแต่ 1 กรกฎาคม 2563 เป็นต้นไป ผู้ที่ยื่นแบบแสดงรายการทุกประเภทภาษีทางอินเทอร์เน็ต ใช้ช่องทางชำระภาษีผ่านทางอิเล็กทรอนิกส์ กรมสรรพากรจึงร่วมกับ 20 ธนาคารชั้นนำ ยกเว้นค่าธรรมเนียมการโอนเงินจ่ายภาษีผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2563 จะช่วยเพิ่มความสะดวก ปลอดภัย ลดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง และลดความเสี่ยงจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสCOVID-19
นางสมหมาย ศิริอุดมเศรษฐ ที่ปรึกษาด้านยุทธศาสตร์การจัดเก็บภาษี (กลุ่มธุรกิจพลังงาน) ในฐานะโฆษกกรมสรรพากร เปิดเผยว่า เพื่อเป็นการช่วยเหลือผู้ประกอบการในการลดค่าใช้จ่าย และสนับสนุนให้ผู้ประกอบการยื่นแบบแสดงรายการและชำระภาษีผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์
กรมสรรพากรได้ร่วมมือกับ 20 ธนาคารชั้นนำ ยกเว้นการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการโอนเงินเมื่อชำระภาษีอากรทุกประเภทผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ของธนาคารที่เข้าร่วมโครงการ เริ่มตั้งแต่บัดนี้จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2563
โฆษกกรมสรรพากร กล่าวเพิ่มเติมว่า การยกเว้นการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมในการโอนเงินภาษี ผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ของธนาคารในครั้งนี้ เพื่อส่งเสริมให้ผู้ประกอบการทำธุรกรรมทางการเงินผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์มากขึ้น โดยไม่ต้องเดินทาง และเป็นการเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) ช่วยลดความเสี่ยง ในการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสCOVID-19 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความตั้งใจที่จะยกระดับ การให้บริการของกรมสรรพากร ในการส่งเสริมให้ผู้ประกอบการและคนไทยทำธุรกรรมภาษีที่บ้าน หรือ TAX from Home”
หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานสรรพากรทุกแห่งทั่วประเทศ หรือที่ศูนย์สารนิเทศสรรพากร (RD Intelligence Center) โทร. 1161 หรือที่สาขาของธนาคารทั้ง 20 แห่ง ที่เข้าร่วมโครงการ ประกอบด้วย
ธนาคารกรุงเทพ ,ธนาคารกรุงไทย , ธนาคารกรุงศรีอยุธยา , ธนาคารกสิกรไทย
ธนาคารทหารไทย, ธนาคารทิสโก้ , ธนาคารไทยพาณิชย์, ธนาคารธนชาต , ธนาคารยูโอบี
ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮาส์ , ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย), ธนาคารมิซูโฮ
ธนาคารซูมิโตโม มิตซุย แบงกิ้ง คอร์ปอเรชั่น , ธนาคารออมสิน, ธนาคารซิตี้แบงก์ เอ็น.เอ. , ธนาคารฮ่องกงและเซี่ยงไฮ้แบงกิ้ง คอร์ปอเรชั่น , ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย
ธนาคารบีเอ็นพี พารีบาส์ สาขากรุงเทพ , ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร , และธนาคารเจพีมอร์แกน เชส