อีอีซี เตรียมพร้อมรับนักลงทุน หลังคลายล็อค

คณะอนุกรรมการบริหาร อีอีซี เตรียมพร้อมรองรับภาคธุรกิจในพื้นที่อีอีซี หลังสถานการณ์โควิดคลี่คลาย และรับทราบแผนพัฒนาการเกษตรในพื้นที่ เพื่อยกระดับรายได้เกษตรกร ให้เทียบเท่ากลุ่มอุตสาหกรรมและบริการ

นายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก เปิดเผยหลังการประชุมคณะอนุกรรมการบริหารการพัฒนาเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กบอ.) ครั้งที่ 3/2563 ที่มี นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธาน ว่า กบอ. รับทราบการจัดทำแผนพัฒนาการเกษตรในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ อีอีซี คือ ระยอง, ฉะเชิงเทรา, ชลบุรี โดยแต่งตั้งคณะทำงานที่มีปลัดกระทรวงเกษตร เป็นประธาน และมีผู้แทนจากอีอีซี เป็นเลขานุการร่วมเพื่อขับเคลื่อนแผนงาน มุ่งเน้น 5 คลัสเตอร์พื้นฐานที่สามารถทำได้ทันที คือ 1.ผลไม้ 2. พืชชีวภาพหรือ Bio-Based 3. ประมง 4. สมุนไพร และ 5. พืชมูลค่าสูง เช่น ไม้ประดับ ,ผักปลอดสารพิษ โดยมีเป้าหมาย ยกระดับรายได้เกษตรกร ให้เทียบเท่ากลุ่มอุตสาหกรรมและบริการ

ที่ประชุม ยังรับทราบแนวทางผ่อนปรนการเดินทางเข้าประเทศที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมในพื้นที่อีอีซี ตามที่กลุ่มธุรกิจในพื้นที่อีอีซี ได้ยื่นหนังสือขอจากภาครัฐ ทั้งจากญี่ปุ่น เกาหลี และอื่นๆหลังจาก สถานการณ์โควิด-19ในไทยและต่างประเทศมีแนวโน้มดีขึ้นต่อเนื่อง

ดังนั้น เพื่อรองรับบุคลากรภาคธุรกิจในพื้นที่ อีอีซี ในช่วงระยะการฟื้นตัวของประเทศ คณะกรรมการอีอีซี จึงอยู่ระหว่างหารือกับกระทรวงการต่างประเทศ สร้างภาคีเครือข่ายระหว่างองค์การทางการแพทย์ในประเทศต้นทางกับสถานเอกอัครราชทูตไทย หรือสถานกงสุลใหญ่ จัดให้มีการตรวจและออกใบรับรองแพทย์ ที่ยืนยันว่าผู้เดินทาง มีสุขภาพเหมาะสมกับการเดินทางทางอากาศ (Fit to Fly) และกำหนดประเทศต้นทาง,จำนวนบุคลากรที่จะอนุญาตเดินทางมาแต่ละช่วงเวลา

เลขาธิการ อีอีซี บอกด้วยว่า ที่ประชุมยังมอบหมายให้สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ(สทนช. )เร่งรัดการพัฒนาแหล่งน้ำให้เพียงพอต่อความต้องการใช้น้ำทุกภาคส่วน เพื่อทำให้พื้นที่อีอีซี เกิดความมั่นคงด้านน้ำ ทั้งในภาคอุตสาหกรรมและการบริโภคอย่างยั่งยืน ปี 2563/2564 และวางแผนบริหารจัดการน้ำ เพื่อรับมือภัยแล้งในปีถัดๆไป

นอกจากนี้ ที่ประชุมรับทราบการพัฒนาโครงการจัดหาพลังงานสะอาด (พลังงานแสงอาทิตย์) ในพื้นที่อีอีซีโดยมอบให้ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค หรือ กฟภ. เสนอโครงการพลังงานที่ใช้ในเมืองใหม่ รูปแบบพลังงานอัจฉริยะ (Smart Power Supply : SPS) ในลักษณะการผลิตไฟฟ้าเพื่อใช้เอง( Independent Power Supply :IPS) Ffpมอบหมายให้ บริษัท พีอีเอ เอ็นคอม อินเตอร์เนชั่นแนล ผลิตไฟฟ้าเพื่อส่งให้ กฟภ. รับซื้อ และส่งจำหน่ายสำหรับใช้ในเมืองใหม่น่าอยู่อัจฉริยะ โดยต้องกำหนดอัตราค่าไฟฟ้า ไม่สูงกว่าราคาไฟฟ้าทั่วไปที่ กฟภ. ขายให้กับผู้ใช้ไฟฟ้ารายอื่นๆ