“ศรีสุวรรณ” ยื่นคำร้องผู้ตรวจการแผ่นดิน 3 เรื่องรวด เฉพาะกรณีกล่าวหักหัวคิวState Quarantine นั้นนายกฯ ต้องตั้งกรรมการตรวจสอบเป็นกรณีพิเศษ
เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 25 พ.ค.63 ที่สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ห้อง 903 อาคารบี ศูนย์ราชการฯ แจ้งวัฒนะ นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เดินทางเข้ายื่นเรื่องร้องผู้ตรวจการแผ่นดิน 3 เรื่อง ได้แก่ขอให้ส่งศาล รธน.ชี้กรณีต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉินขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ 2.ร้องผู้ตรวจฯ ชี้ พ.ร.ก.ให้ ธปท.กู้เงิน 4 แสนล้านอุ้มคนรวยขัด รธน.หรือไม่ และ 3. ขอให้นายกฯตั้งกรรมการพิเศษสอบส่วยยุคโควิด หากินกับโรงแรมหักหัวคิว "ค่ากักตัว"
นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า ในกรณีที่ 3ตามที่กลุ่มผู้ประกอบการท่องเที่ยวในจังหวัดชลบุรี ออกมาเปิดเผยว่า มีกลุ่มบุคคลไม่ทราบหน่วยงาน ติดต่อโรงแรมขนาดใหญ่หลายแห่งในเมืองพัทยา จ.ชลบุรี โดยอ้างว่าจะพิจารณาคัดเลือกโรงแรมให้เป็นสถานที่กักตัวของคนไทยที่กลับจากต่างแดน หรือ State Quarantine แลกกับการหักหัวคิว 30-40% จากเงินที่รัฐบาลจ่ายให้ 1,000 บาท/ราย/วันนั้น
กรณีดังกล่าวเป็นเรื่องใหญ่ และน่าจะทำกันอย่างเป็นกระบวนการ เป็นเรื่องที่น่าละอาย ซึ่งนายกรัฐมนตรีในฐานะหัวหน้า ศบค. จะต้องรับผิดชอบ หาตัวผู้กระทำการดังกล่าวมาเปิดเผย และดำเนินการตามกฎหมายอย่างรวดเร็ว ไม่ใช่แค่สั่งการไปแล้วเรื่องก็จบ การหาข้อเท็จจริง หาผู้กระทำผิดนั้น จะต้องตั้งคณะกรรมการพิเศษที่มีอำนาจเต็มจากบุคคลภายนอกมาทำการไต่สวน สอบสวน แต่จะตั้งคนใน ศบค. ในจังหวัดชลบุรี ในกระทรวงสาธารณสุข ตำรวจ ทหาร มาสอบกันเองไม่ได้โดยเด็ดขาด เพราะเชื่อว่าคนที่กระทำการหรือเครือข่ายดังกล่าวคงไม่ใช่ตัวเล็กๆ และอาจมีสัมพันธ์ที่ดีกับคนที่มีอำนาจในปัจจุบันก็ได้ เพราะแค่มีข่าวยังไม่ทันที่จะมีการตรวจสอบแสวงหาข้อเท็จจริงเลย โฆษก ศบค.ก็รีบออกมาปฏิเสธทันควันเลยว่าไม่มีการหัวหัวคิว State Quarantine ซึ่งถือเป็นข้อพิรุธอย่างยิ่ง และโฆษก ศบค. รวมทั้งกรรมการที่ถูกตั้งโดย ศบค.ทุกคนต้องถูกสอบด้วย
ทั้งนี้ คณะกรรมการพิเศษดังกล่าวอาจจะต้องไต่สวน สอบสวนเชื่อมโยงต่อไปด้วยว่า การที่รัฐบาลไม่ยอมที่จะยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน โดยมีการต่ออายุครั้งแล้วครั้งเล่านั้น มีผลต่อการเอื้อประโยชน์ต่อกรณีดังกล่าวด้วยหรือไม่ เพราะคาดว่าจะมีคนไทยเดินทางกลับมาจากต่างประเทศอีกจำนวนมากกว่า 7 - 8 หมื่นคน ซึ่งถือว่าเป็นผลประโยชน์อย่างมหาศาลเลยทีเดียวถ้าเรื่องนี้ไม่แดงขึ้นมาเสียก่อน สมาคมฯจำเป็นที่จะต้องร้องเรียนให้องค์กรอิสระอย่างผู้ตรวจการแผ่นดิน เข้ามาทำหน้าที่อีกทางหนึ่งด้วย เพื่อใช้อำนาจตามกฎหมายในการตรวจสอบและถ่วงดุล การตรวจสอบตามคำสั่งของนายกรัฐมนตรี
