xs
xsm
sm
md
lg

ศบค.เผยข่าวดีวัคซินป้องกันโควิด-19 ใช้ได้ปีหน้า

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ศบค.เผยวันนี้พบผู้ป่วยใหม่ 1 ราย ไม่มีเสียชีวิตเพิ่ม ขณะที่ผู้รักษาหายได้กลับบ้านอีก 31 ราย แย้มข่าวดี ปีหน้าจะได้ใช้วัคซีนป้องกันโควิด-19 ฝีมือไทยทำเอง

นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) แถลงข่าวประจำวัน ว่า วันนี้มีผู้ป่วยโควิด-19 เพิ่มขึ้น 1 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม หายกลับบ้าน 31 ราย โดยผู้ป่วยสะสมรวมเป็น 3,034 ราย กลับบ้านรวม 2,888 ราย เสียชีวิตรวม 56 รายเท่าเดิม ยังรักษาใน รพ. 90 ราย ถือว่าต่ำกว่าร้อยแล้ว โดยผู้ป่วยรายใหม่เป็นผู้เดินทางกลับมาจากต่างประเทศและกักตัวอยู่ในสถานกักกันที่รัฐจัดให้ ในโรงแรมแห่งหนึ่งใน กทม. โดยเป็นผู้ชายอายุ 45 ปี เป็นเชฟร้านอาหารไทย เดินทางกลับมาจากประเทศบาห์เรน ถึงไทยวันที่ 15 พ.ค. 2563 ตรวจหาเชื้อวันที่ 18 พ.ค. 2563 แต่ผู้ป่วยไม่มีอาการ แต่เกิดจากการตรวจสอบการติดเชื้อเป็นระยะของผู้ที่เดินทางกลับมาตามปกติ


นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า มีข่าวดีสำหรับวัคซีนป้องกันโควิด-19 ชนิด mRNA โดยศูนย์วัคซีน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมกับสถาบันวัคซีนแห่งชาติ และกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ประสบความสำเร็จในการทดลองในหนูแล้ว และกำลังเตรียมทดสอบในลิงสัปดาห์หน้า คาดว่าจะได้ใช้ในปีหน้า นอกจากนี้ ยังพบว่าคนไทยเป็นแชมป์ใส่หน้ากากและล้างมือในอาเซียน ซึ่งจากการสำรวจของบริษัท YouGov ประเทศอังกฤษ ที่สำรวจพฤติกรรมการป้องกันโควิด-19 ใน 6 ประเทศ คือ สิงคโปร์ เวียดนาม อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย และ ไทย จำนวน 12,999 ราย โดยคนไทย 95% บอกว่าใส่หน้ากากอนามัยในรอบ 7 วัน ล้างมือ 89% ถือว่าสูงสุดในอาเซียน


นอกจากนี้ โฆษกศบค.ยังกล่าวถึงผลการดำเนินงานแอปฯ”ไทยชนะ” ว่า ขณะนี้ มีร้านค้าลงทะเบียน 67,904 ร้าน และผู้ใช้งานลงทะเบียน 5,077,978 คน เช็กอิน 8,584,803 ครั้ง เช็กเอาท์ 6,359,921 ครั้ง ประเมินร้าน 3,984,691 ครั้ง ความร่วมมือตรงนี้มีส่วนสำคัญคือช่วยลดค่าใช้จ่ายในการตรวจสอบดำเนินงานการสอบสวนโรคได้ง่ายขึ้น ส่วนกรณียังมีปัญหาส่วนต่างระหว่างการเช็กอิน และเช็กเอาท์ นั้นต้องขอความร่วมมือว่า เมื่อเข้าแล้วพอออกจากห้างหรือร้านให้สแกนด้วย เพื่อให้ทุกคนได้ประโยชน์เข้าไปใช้บริการ ที่สำคัญคือ การเช็คอิน-เช็กเอาท์ ยังช่วยให้เช็คได้ว่าผู้ใช้บริการไปอยู่ในร้านย่อยร้านเล็ก การสืบสวนโรคก็จะง่ายขึ้น เป็นต้น


เมื่อถามว่า ผู้ประกอบการหลายกลุ่มเริ่มออกมาเคลื่อนไหว เพราะยังไม่ได้รับผ่อนปรน นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า ศบค.มีความเข้าใจดี แต่การพิจารณาผ่อนปรนอยู่บนพื้นฐานข้อมูลในการตัดสินใจ ดังนั้นหากไม่ได้อยู่ในระยะ 2 ก็ขอให้ปฏิบัติตัวอย่างดีตาม 5 มาตรการ จะได้ปลอดภัยและไปต่อในระยะที่ 3 โดยเฉพาะหากผู้ป่วยใหม่เรายังเป็นหลักเดียวไปนานๆ ก็มีโอกาสรับการผ่อนคลายเช่นกัน


กำลังโหลดความคิดเห็น