“ทีมชวน”ไล่”สิระ”ศึกษาพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ก่อนทำชาวบ้านโกลาหล

"ทีมชวน”ไล่ "สิระ" ศึกษากลไกการทำงานของสภาฯ ก่อนเสนอปิดอาคารรัฐสภาชั่วคราว พร้อมแนะไปศึกษาการปฏิบัติตัวภายใต้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน หวั่นให้ข้อมูลผิดทำชาวบ้านโกลาหล

ที่รัฐสภา นายสมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล เลขานุการประธานสภาผู้แทนราษฎร แถลงข่าวถึงกรณีที่นายสิระ เจนจาคะ ส.ส. กทม.พรรคพลังประชารัฐ เรียกร้องให้มีการสั่งงดประชุมของคณะกรรมาธิการและปิดอาคารรัฐสภาเป็นการชั่วคราว ว่า มองว่านายสิระ คงยังไม่เข้าใจการทำงานของสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งแม้ทางสภาจะมีมาตรการให้ ราชการบางส่วนทำงานที่บ้านได้ แต่ก็มีบางหน่วยงานยังจำเป็นต้องเดินทางมาทำงาน อาทิ สำนักรักษาความปลอดภัย ซึ่งจำเป็นต้องมาประจำที่รัฐสภา และสถานีโทรทัศน์รัฐสภา แต่ประธานสภาผู้แทนราษฎรก็ได้ให้นโยบายในการสลับสับเปลี่ยนบุคลากรในการทำงานที่บ้านกับที่อาคารรัฐสภา


ขณะเดียวกัน ในส่วนของการปิดสมัยประชุมสภาผู้แทนราษฎรนั้น มองว่านายสิระก็ยังไม่เข้าใจ ทั้งที่เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งสมัยประชุมสภาได้ปิดมาตั้งแต่วันที่ 28 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ขณะนี้ไม่มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร แต่มีการประชุมของคณะกรรมาธิการและอนุกรรมาธิการ เนื่องจากสภาผู้แทนราษฎรเป็นฝ่ายนิติบัญญัติ มีหน้าที่ออกกฎหมาย มีหน้าที่ตรวจสอบควบคุมการทำงานของรัฐบาล การทำงานของคณะกรรมาธิการ จึงยังต้องมีบทบาทอยู่ ซึ่งประธานสภาผู้แทนราษฎรได้ให้อำนาจประธานคณะกรรมาธิการ ในการใช้ดุลพินิจที่จะสั่งให้มีการประชุมหรืองดเว้นการประชุม ซึ่งในสัปดาห์ที่ผ่านมามีคณะกรรมาธิการประชุมเพียงคณะเดียวคือ คณะกรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ หรือ กมธ.ป.ป.ช. ซึ่งนายสิระก็อยู่ในคณะกรรมาธิการนี้ด้วย จึงสามารถนำเสนอในที่ประชุมกรรมาธิการได้เพื่อขอให้งดเว้นการประชุม

นอกจากนี้ อยากให้นายสิระ ศึกษาพ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ซึ่งมีข้อกำหนดต่างๆ เช่น การห้ามเข้าพื้นที่เสี่ยง การปิดสถานที่เสี่ยง การปิดช่องทางเข้าราชอาณาจักร ห้ามกักตุนสินค้า ห้ามการชุมนุม การให้สถานที่ราชการยังเปิดทำการ เป็นต้น ซึ่งมองว่านายสิระไม่เข้าใจ โดยเฉพาะในประเด็นการเดินทางข้ามเขตจังหวัดที่ยังสามารถเดินทางได้ภายใต้ข้อปฏิบัติที่กำหนดไว้เช่น ต้องรายงานตัวต่อท้องที่ เป็นต้น ดังนั้น การที่นายสิระซึ่งเป็นตัวแทนของประชาชนและให้ข้อมูลที่ผิดพลาดอาจทำให้เกิดความโกลาหลได้