กทพ.ออกมาตรการคุมเข้ม เพื่อสกัดการระบาดของ “โควิด-19” กำหนดให้ผู้โดยสารทุกคนต้องโชว์ใบรับรองแพทย์ก่อนเข้าไทย ส่วนต่างชาติ ต้องแสดงประกันภัย ครอบคลุมโรคติดเชื้อโควิด ไม่น้อยกว่า 1แสนดอลลาร์สหรัฐ มีผล 22มีนาคมนี้
นายจุฬา สุขมานพ ผู้อำนวยการ สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย หรือ กพท. บอกว่า ได้ลงนามในประกาศ กพท. เรื่อง “แนวปฏิบัติสำหรับผู้ดำเนินการเดินอากาศ ที่ทำการบินมายังประเทศไทย” โดยจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 22 มีนาคม2563 เป็นต้นไป
ประกาศนี้ ระบุว่า ตามที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข โดยคำแนะนำของคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ ได้ประกาศให้โรคติดเชื้อไวรัสCOVID-19 เป็นโรคติดต่ออันตราย ตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ. 2558 และประเทศไทย ได้ดำเนินมาตรการอย่างต่อเนื่อง เพื่อเฝ้าระวังและควบคุมโรคนั้น
ปัจจุบัน ปรากฏว่าองค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ประกาศยกระดับสถานการณ์แพร่ระบาดนี้ เป็นโรคระบาดทั่วโลก (Pandemic) ดังนั้น เพื่อประโยชน์สาธารณะในการป้องกัน และลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นแก่ประชาชนภายในประเทศในวงกว้าง และเพื่อกำกับดูแลการบินพลเรือนในภาวะจำเป็น อย่างทันท่วงที่
กพท. จึงออกประกาศแนวทางปฏิบัติสำหรับผู้ดำเนินการเดินอากาศที่ทำการบินมายังประเทศไทย
โดยผู้โดยสาร ที่จะเดินทางมายังประเทศไทย ต้องได้รับการแยก กักกัน ควบคุมไว้สังเกต หรืออยู่ภายใต้มาตรการป้องกันและควบคุมโรคติดต่อ ตามที่พนักงานควบคุมโรคติดต่อประจำด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศกำหนด
ให้ผู้ดำเนินการเดินอากาศที่ให้บริการผู้โดยสาร ที่จะเดินทางมายังประเทศไทย ดำเนินการคัดกรอง โดยเวลาที่ผู้โดยสารแสดงตัว เพื่อออกบัตรขึ้นเครื่อง (Check in) จะตรวจสอบใบรับรองแพทย์ (Health Certificate) ที่ออกให้โดยมีระยะเวลาไม่เกิน 72 ชั่วโมงก่อนการเดินทาง เพื่อยืนยันว่ามีการตรวจผู้โดยสารแล้วไม่พบเชื้อไวรัส COVID-19 ,ตรวจสอบกรมธรรม์ประกันภัย ที่แสดงการคุ้มครองการรักษาพยาบาลในประเทศไทย ซึ่งครอบคลุมถึงโรคติดเชื้อไวรัส COVID-19 เป็นจำนวนไม่น้อยกว่า 100,000 ดอลลาร์สหรัฐ
กรณีที่ผู้โดยสารที่จะเดินทางมายังประเทศไทย เป็นผู้มีสัญชาติไทย ให้ตรวจสอบใบรับรองแพทย์ ที่ยืนยันว่า มีสุขภาพเหมาะสม ต่อการเดินทางทางอากาศ (Fit to Fly) รวมถึงตรวจสอบหนังสือรับรองการเดินทางกลับประเทศไทย ที่สถานเอกอัครราชทูตไทย,สถานกงสุลใหญ่ หรือกระทรวงการต่างประเทศออกให้
หากพบว่าผู้โดยสารไม่สามารถแสดงเอกสารหลักฐานได้ครบถ้วนสมบูรณ์ ให้ผู้ดำเนินการเดินอากาศปฏิเสธการขึ้นเครื่องและงดการออกบัตรขึ้นเครื่อง (Boarding Pass)
ขณะเดียวกัน เมื่อได้คัดกรองผู้โดยสาร และออกบัตรขึ้นเครื่องให้ผู้โดยสารแล้ว ให้ผู้ดำเนินการเดินอากาศ จัดให้ผู้โดยสารกรอกข้อมูลแสดงที่พัก ที่สามารถติดต่อได้ในประเทศไทย และยื่นต่อเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อประจำด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ ที่สนามบินปลายทาง หรือกรอกข้อมูลใน Application "AOT Airport of Thailand"
นอกจากนี้ ผู้ดำเนินการเดินอากาศ ใช้มาตรการในการป้องกันโรคติดต่อบนอากาศยานด้วย เช่น จัดที่นั่งผู้โดยสารให้มีระยะห่างจากกันมากที่สุดเท่าที่ทำได้ ,จัดพื้นที่ในห้องโดยสารไว้สำหรับเฝ้าระวังผู้โดยสารที่มีอาการไข้ ไอ หรือเจ็บป่วย รวมทั้งให้พิจารณาจำกัดการให้บริการในห้องโดยสาร เพื่อลดความจำเป็นในการเข้าใกล้ชิดระหว่างเจ้าหน้าที่ประจำอากาศยานกับผู้โดยสาร