“บิ๊กตู่”ระดมอาจารย์หมอพรึ่บ สร้างเชื่อมั่นแก้วิกฤตโรคระบาดโควิด-19 ย้ำผู้ว่าฯทุกจังหวัด ทำงานอย่างเด็ดขาด รายงานผลการปฎิบัติทุกมาตรการที่รัฐบาลออกไปแล้วให้ตนทราบทุกวัน
ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.)พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม (กห.) ในฐานะประธานศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ได้เดินทางมาตรวจเยี่ยมและมอบโนบาย พร้อมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทีมแพทย์ปฏิบัติการเฝ้าระวังควบคุมป้องกันโรคโควิด-19 โดยมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรี สธ. นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดสธ. รวมถึงผู้บริหารสธ. และบุคลากรทางการแพทย์ที่เกี่ยวข้อง ให้การต้อนรับ
นายกรัฐมนตรี แถลงผลภายหลังการประชุมฯ ว่า วันนี้ ได้หารือร่วมทุกภาคส่วน รวมทั้งบุคลากรทางการแพทย์ ทั้งปลัดสธ. อดีตอธิบดีกรมการแพทย์ต่างๆ รวมไปถึงแพทย์ที่ทำงานภาคเอกชนถือเป็นการทำงานทุกภาค โดยตนได้รับฟัง และมีความเชื่อมั่นจากทั้งสองฝ่ายถือว่ารับได้ ตนจะนำไปสู่การปฏิบัติที่ต้องทำได้จริงในระยะต่อไป ทั้งนี้ นายกฯได้กล่าวชื่นชมเจ้าหน้าที่ เพราะขณะนี้สามารถติดตามผู้ติดเชื้อโควิด-19 ได้มากขึ้น ซึ่งหลังจากนี้ต้องเร่งหาต้นตอการเกิดเชื้อ โดยขอความร่วมมือประชาชนที่เดินทางไปประเทศหรือสถานที่กลุ่มเสี่ยงต้องเข้ารับตรวจโรค
ส่วนกรณีที่รัฐบาล ได้ออกมาตรการปิดสถานบริการในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลเป็นการชั่วคราวแล้วนั้น ตนได้สั่งการ ไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดต่าง ๆ ให้นำมาตรการดังกล่าว ไปพิจารณาปิดสถานบริการในพื้นที่ที่กำกับดูแล และหากสถานการณ์ยังไม่คลี่คลายสามารถขยายเวลาการปิดสถานบริการออกไปได้
นายกฯย้ำว่า ตนอยากขอร้องไปยังข้าราชการระดับพื้นที่ โดยเฉพาะผู้ว่าฯ คณะกรรมการโรคติดต่อประจำจังหวัด ประจำพื้นที่ต้องทำงานอย่างเด็ดขาด และต้องรายงานผลการปฎิบัติทุกมาตรการที่รัฐบาลออกไปแล้วให้ตนทราบทุกวัน ผ่านช่องทางของกระทรวงมหาดไทย เข้ามาที่ศูนย์ฯโควิด-19 ซึ่งตนติดตามทุกวัน ตั้งแต่สนามบินต้นทาง สนามบินในประเทศมาสู่ในเรื่องของการคัดกรอง คัดแยก ซึ่งมีการรายงานมายังตนทุกวัน ทั้งนี้ เพื่อให้ทราบและติดตามสถานการณ์ และปรับมาตรการต่างๆ ให้เพิ่มขึ้น วันนี้เรากำลังสกัดกั้นการนำเชื้อเข้ามาในประเทศ ถึงบอกว่าการเข้ามาต้องมีใบรับรองแพทย์ ประกันสุขภาพ โดยทุกคนที่เข้าประเทศไทยต้องมี ซึ่งเดิมเฉพาะ 4 ประเทศบวก 2 เขตปกครองพิเศษ แต่ทุกวันนี้ทุกประเทศที่เข้ามา ทั้งนี้ เพื่อสกัดกั้นการเข้ามาให้เหลือน้อยที่สุด เพื่อจะควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดได้ และติดตามด้วยแอพพลิเคชั่น
ด้าน นายอนุทิน ชาญวิรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ระบุว่า นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้แต่งตั้ง ศาสตราจารย์คลินิก เกียรติคุณ นายแพทย์ ปิยะสกล สกลสัตยาทร นายกสภามหาวิทยาลัยมหิดลและศาสตราจารย์ นายแพทย์ อุดม คชินทร เป็นที่ปรึกษาคณะกรรมการโรคติดต่ออันตราย เพื่อให้การรับมือโควิด-19 มีประสิทธิภาพมากขึ้น จึงขอให้ประชาชนเชื่อมั่น โดยมั่นใจว่า การต่อสู้รับมือโควิด-19 จะผ่านได้ด้วยดี
ขณะที่ นายแพทย์ สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณาสุข เปิดเผยว่า ปัจจุบันได้รับการการสนับสนุนยาฟาวิพิราเวียร์ จากทางการจีน ที่สามารถรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ได้มากถึง 2,000 คน พร้อมยืนยัน ขณะนี้ยารักษามีเพียงพอ ส่วนหน้ากากอนามัย ก็ได้กระจายตามโรงพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขอย่างต่อเนื่อง ด้านหน้ากาก N 95 ก็ได้รับสนับสนุนเพิ่มเติม 20,000 ชิ้น และได้รับการบริจาคจากจีน 50,000 ซึ่งจะพยายามจัดสรรให้ครบ 2,000,000 ชิ้น สำหรับใช้งานอย่างเพียงพอ
นอกจากนี้ ได้มีการเตรียมพร้อมเตียงผู้ป่วยในกทม.ที่ขณะนี้มีอยู่ประมาณ 400 เตียง ขณะที่มีผู้ป่วยหนักเพียง 100 คน ซึ่งคาดว่าในอนาคตจะขยายเตียงผู้ป่วยไปยังทั่วประเทศ เพื่อรองรับผู้ป่วยหนักตลอดจนจัดหาสถานที่ที่เหมาะสมในการควบคุมดูแลรักษาผู้ป่วยติดเชื้อ
อย่างไรก็ตาม นายแพทย์ ปิยะสกล สกลสัตยาทร นายกสภามหาวิทยาลัยมหิดล ยืนยันว่า ขณะนี้การดำเนินการควบคุมโรค เดินมาถูกทางแล้ว แต่ก็ต้องมีมาตรการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดความชัดเจนมากขึ้น พร้อมขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วน มั่นใจในการทำงานของเจ้าหน้าที่และมีวินัยหมั่นดูแลตัวเองอย่างสม่ำเสมอ
