xs
xsm
sm
md
lg

ลึกทันใจ : ปฏิบัติการชำระล้างวงการสงฆ์ คสช.กินรวบหลายเด้ง!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


รายงานพิเศษ ลึกทันใจ ตอน ปฏิบัติการชำระล้างวงการสงฆ์ คสช.กินรวบหลายเด้ง! ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม NEWS1 วันศุกร์ที่ 25 พฤษภาคม 2561



ข่าวครึกโครมตั้งแต่เช้าวันที่ 24 พฤษภาคมคือเรื่องตำรวจกองปราบบุกเข้าจับกุมพระชั้นผู้ใหญ่ระดับกรรมการมหาเถรสมาคมถึง 3 วัดคือพระพรหมสิทธิ หรือเจ้าคุณธงชัย สุขญาโณ เจ้าอาวาสวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร เจ้าคณะภาค 10 พระพรหมดิลก เจ้าอาวาสวัดสามพระยา กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าคณะกรุงเทพมหานคร และพระพรหมเมธี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศาราม กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าคณะภาค 4 – 7 แต่ตำรวจสามารถจับกุมได้แค่ 1 รูป คือ พระพรหมดิลก เจ้าอาวาสวัดสามพระยา ส่วนอีก 2 รูปเป็นนกรู้ สามารถหลบหนีไปได้ก่อน ซึ่งทั้ง 3 รูปนี้ถูกกล่าวหาว่าเกี่ยวข้องกับคดีทุจริตเงินทอนวัด และคดีความผิดเกี่ยวกับการฟอกเงิน และในวันเดียวกันยังมีชุดคอมมานโดพร้อมอาวุธครบมือที่ออกปฏิบัติการเหมือนกับจะไปทำสงครามใหญ่คือ การบุกเข้าไปในวัดอ้อน้อยจับกุม พระสุวิทย์ ธีรธมโม หรือ “พระพุทธะอิสระ” ในข้อหาสนับสนุนให้มีการปล้นทรัพย์ที่ต่อเนื่องจากการชุมนุมของ กปปส. เมื่อปี 2556 ซึ่งมีเหตุการณ์ชิงอาวุธปืนของสันติบาลไปในครั้งนั้นด้วย

ซึ่งการปฏิบัติการของตำรวจครั้งนี้ถือเป็นเหตุการณ์สำคัญเขย่าวงการพระสงฆ์ที่เกิดขึ้นในวันเดียวกัน ทีนี้ต้องมาแยกกันทีละเรื่องคือ กลุ่มแรกเป็นพระสงฆ์ชั้นผู้ใหญ่ที่ถูกดำเนินคดีทุจริตที่เรียกง่ายๆว่า “ทุจริตเงินทอนวัด” ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่า พระกลุ่มนี้ล้วนอยู่ฝ่ายตรงข้ามที่ค่อนไปทาง “กลุ่มอำนาจเก่า” ยิ่งเมื่อพิจารณาจาก “วัดสระเกศ” ก็ย่อมมองได้อย่างทะลุปรุโปร่งว่าเป็นฐานสนับสนุนการเมืองกลุ่มใดในอดีต แล้วก็ยังโยงไปถึงกลุ่ม “ธรรมกาย” ที่จนถึงทุกวันนี้ยังพอมีฤทธิ์อยู่บ้าง เพราะยังได้เห็นการเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา

และเมื่อมองเข้าไปในที่ประชุมมหาเถรสมาคมที่ผ่านมา ก็ต้องบอกว่ามีสายที่ได้รับแต่งมาในยุค “สมเด็จช่วง” จากวัดปากน้ำภาษีเจริญ หรือก่อนหน้านั้นเสียเป็นส่วนใหญ่ กลายเป็นฝ่ายเสียงข้างมากแบบเด็ดขาดมานานแล้ว คราวนี้จึงเป็นโอกาสเหมาะในการล้างบางวงการสงฆ์ที่มีมลทิน เมื่อผลการสอบสวนมีหลักฐานพาดพิงมาถึง โดยเฉพาะจาก “เส้นทางการเงิน” ที่สืบสาวจนมัดตัวไว้แน่น นำไปสู่การจับกุมและการตรวจค้นขนานใหญ่

ทีนี้มาพูดถึงกรณีของพุทธอิสระแห่งวัดอ้อน้อยกันบ้าง ต้องถือเป็นเรื่องน่าแปลกใจไม่น้อยที่จู่ ๆ ก็มาถูกจับในข้อหา “ปล้นปืน” หรืออั้งยี่ ซ่องโจร ที่เป็นคดีค้างเก่าตั้งแต่การชุมนุมเมื่อ 2556 และที่ผ่านมาพุทธะอิสระ ก็ไม่ได้หนีไปไหน ทำไมเจ้าหน้าที่ถึงยังเฉยปล่อยเอาไว้ไม่จับกุม หรือว่าเป็นเพราะที่ผ่านมาได้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์พุ่งไปที่ “พี่ใหญ่” มากเกินไปหรือเปล่าโดยเฉพาะกรณี “นาฬิกาหรู” นี่เห็นได้ชัด

ดังนั้น หากจะให้สรุปจากแผนปฏิบัติการตั้งแต่รุ่งฟ้าสางของตำรวจในครั้งนี้ ก็ต้องบอกว่า รัฐบาลและคสช.ยิงนกทีเดียวได้หลายตัว เพราะได้ทั้งการลดอิทธิพลของสงฆ์อีกฝ่ายที่ครองเสียงข้างมากในมหาเถรสมาคมมานาน และการจับกุมพุทธะอิสระ ก็ทำให้มองว่าไม่ได้เลือกฝ่ายแล้วยังเป็นการปรามไม่ให้เคลื่อนไหวกดดันอีก ซึ่งคราวนี้ต้องเรียกว่า “เล่นแรง” เพราะถูกดำเนินคดีในข้อหาหนักคือคดีอั้งยี่ซ่องโจร แอบอ้างเบื้องสูง ต้องเข้าคุกทันที และที่สำคัญ พุทธะอิสระ ต้องกลายเป็นตำนานทันที เมื่อถูกจับสึก แบบไม่ทันตั้งตัว กลายเป็น นายสุวิทย์ ทองประเสริฐ เพียงชั่วข้ามคืน

ทีมข่าว ลึกทันใจ รายงาน
กำลังโหลดความคิดเห็น