xs
xsm
sm
md
lg

ลึกทันใจ : อุต๊ะ!! ยุค คสช.3 ปี จ่ายใต้โต๊ะ 9 แสนล้าน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


รายงานพิเศษ ลึกทันใจ ตอน อุต๊ะ!! ยุค คสช.3 ปี จ่ายใต้โต๊ะ 9 แสนล้าน ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม NEWS1 วันศุกร์ที่ 23 กุมภาพันธ์ 2561



ผลสำรวจสถานการณ์คอร์รัปชันไทย โดยมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย สร้างความตื่นตะลึงให้กับสังคมไทยเพราะในรอบ 3 ปีสามารถทำสถิติสูงสุดด้วยการสร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจจากการจ่ายใต้โต๊ะเกือบ 900,000 ล้านบาท ภายใต้รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ทั้งที่มีเหตุผลสำคัญประการหนึ่งในการทำรัฐประหารล้มรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็เพื่อเข้ามาปราบทุจริตที่เกิดขึ้น

ดร.เสาวนีย์ ไทยรุ่งโรจน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ระบุว่า ดัชนีคอร์รัปชันไทย สำรวจเมื่อเดือนธันวาคม 2560 ในกลุ่มตัวอย่าง 3 กลุ่มคือ ประชาชน ผู้ประกอบการ ภาคเอกชนและข้าราชการ จำนวน 2,400 ตัวอย่าง พบว่าปัญหาความรุนแรงของการทุจริตคอร์รัปชัน สูงขึ้นถึง 37% และคาดว่าสถานการณ์การทุจริตคอร์รัปชันในปี 2561 จะสูงขึ้น 48%

ตัวเลข 37% หรือ 48% หากเทียบจากเม็ดเงินการลงทุนของรัฐแล้วสังคมไทยจะได้เห็นความเสียหายที่เกิดขึ้น ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเงินจำนวนมหาศาลนั้นไปเข้ากระเป๋าใครบ้าง

ส่วน ดร.ธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ บอกว่า ได้ทำการสำรวจ 15 ครั้งใน 7 ปี และครั้งนี้น่าห่วงตรงที่การคอร์รัปชันมีแนวโน้มจะกลับมาเพิ่มขึ้นและมีสัญญาณความรุนแรงมากขึ้นหลังจากลดลงมาตลอดตั้งแต่ปี 2558 เพราะหลังปี 2558 อัตราการจ่ายใต้โต๊ะ ปี 2560 อยู่ที่ร้อยละ 5-15 สร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจปีละ 100,000-200,000ล้านบาท ซึ่งงบประมาณรายจ่ายของรัฐบาลปี 2560 จำนวน 2.932 ล้านล้านบาท ถ้าโกงกัน 5-15% ก็คิดเป็นเงินปาไปถึง 146,600-439,800 ล้านบาทเข้าไปแล้ว

สำหรับงบประมาณรายจ่ายของรัฐบาลปี 2561 จำนวน 2.9 ล้านล้านบาท หากโกงกัน 5-15% เงินจะหายไปถึง 145,000-435,000 ล้านบาท และเมื่อรวม 2 ปี เงินภาษีของประชาชนจะสูญหายไปกับการโกงถึง 291,600-874,800 ล้านบาท

ด้าน ดร.มานะ นิมิตรมงคล เลขาธิการองค์การต่อต้านคอร์รัปชั่น (ACT) บอกว่า ได้รับข้อมูลจากนักธุรกิจที่เกี่ยวข้องจากหลาย ๆ กลุ่ม พบว่ามีแนวโน้มจะต้องจ่ายมากขึ้นตรงตามที่ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยทำการสำรวจ นับตั้งแต่มี คสช.ซึ่งปีแรกจะอยู่ในเกณฑ์ประมาณ 5% ก็มีการขยับขึ้นไป 7% จากนั้นก็ขยับไปเป็น 10% ต่อไป 15% และขยับขึ้นไปเรื่อย ๆ แต่ที่น่าแปลกใจก็คือส่วนราชการต่างจังหวัด ส่วนท้องถิ่น และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่ได้รับข้อมูลมา มีการจ่ายสูงมาก บางโครงการกินกันจนน่าใจหาย จ่ายกันถึง 60-70%

ดร.มานะ บอกอีกว่านักธุรกิจด้านก่อสร้าง และอสังหาริมทรัพย์ ที่มีอยู่ทั้งหมดจำนวนถึง 95% ต้องจ่ายใต้โต๊ะ แต่จะมีเพียง 5% เท่านั้นที่ไม่ยอมจ่าย ซึ่งคนพวกนี้ก็ต้องเหนื่อยและต่อสู้กับปัญหาต่าง ๆ ในการทำงาน ท่ามกลางการเกิดขึ้นของโครงการขนาดใหญ่ที่มีแนวโน้มต้องจ่ายใต้โต๊ะสูงตามไปด้วย ซึ่งตรงนี้หน่วยงานที่ที่รับไปเต็มๆก็คือกรมที่ดินนั่นเอง

ขณะที่ ดร.ต่อตระกูล ยมนาค ประธานอนุกรรมการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ ด้านการป้องกันการทุจริตในคณะกรรมการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ หรือ คตช. ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นประธาน บอกว่าหน่วยงานที่ต้องจับตาเป็นพิเศษในขณะนี้ คือหน่วยงานสังกัดกระทรวงคมนาคม โดยเฉพาะการท่าอากาศยานฯ ที่ผูกขาดกับกลุ่มบริษัทเดิม ๆ และกรุงเทพมหานคร ในโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ ซึ่งเวลานี้จากการพูดคุยกับผู้ประกอบการต่าง ๆ ก็รู้ว่ายุคนี้ถ้าจะทำให้ได้งานโครงการต่างๆ จะต้องวิ่งเข้าหาใครและต้องจ่ายที่ใคร เป็นผลให้เกิดการทุจริตและจ่ายใต้โต๊ะเป็นเงินมหาศาลและมีแนวโน้มสูงขึ้นจริงๆ

เรื่องของการจ่ายเงินใต้โต๊ะ รู้ๆกันอยู่ว่ามีมาทุกยุคทุกสมัย เพียงแต่จะมากจะน้อยต่างกันไปเท่านั้น ถ้านายกรัฐมนตรีจะปราบกันจริง ๆ ก็ลองตรวจสอบตามข้อมูลที่ว่ามานี้ดู รับรองแหย่มือไปตรงไหนก็เจอตรงนั้น อยู่ที่ว่าจะทำกันจริงจังแค่ไหนเท่านั้นเอง ลองจับตัวใหญ่ๆมาโชว์หน่อย จะเป็นไรไป...

ทีมข่าวลึกทันใจ รายงาน
กำลังโหลดความคิดเห็น