xs
xsm
sm
md
lg

ลึกทันใจ : หนทางสู่สนามเลือกตั้ง....ช่างยาวไกลนัก!!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online



รายงานพิเศษ ลึกทันใจ ตอน หนทางสู่สนามเลือกตั้ง....ช่างยาวไกลนัก!! ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม NEWS1 วันจันทร์ที่ 19 มิถุนายน 2560




หากพูดถึงเรื่องการเลือกตั้งต้องถือว่าหนทางอีกยาวไกล แม้ว่ารัฐบาลจะพยายามบอกมาตลอดว่า ทุกอย่างยังเดินไปตามโรดแม๊ปที่วางไว้ก็ตาม ล่าสุด นักการเมืองก็พยายาม”ลองของ”ด้วยการจัดปาร์ตี้กันโรงแรม ก็ถูกคสช.สกัดจนงานต้องล่มไปอย่างไม่เป็นท่า ดังนั้น การที่นักการเมืองจะขยับอะไรในช่วงนี้ยังลำบาก จึงต้องนิ่งกันไว้ก่อน

นายไพจิต ศรีวรขาน อดีต ส.ส.นครพนม นักการเมืองรุ่นเก๋าจากพรรคเพื่อไทย บอกว่า การเตรียมตัวที่ดีที่สุดตอนนี้ก็คือให้อดีต ส.ส.เกาะติดพื้นที่ เมื่อถึงเวลาเลือกตั้งจะได้สามารถกำหนดนโยบายให้ตรงกับความต้องการของประชาชน เชื่อว่าไม่ว่าพรรคไหนก็ไม่อาจมาเจาะพื้นที่แย่งชิงคะแนนเสียงไปได้ ส่วนนายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา เห็นว่า ตอนนี้รัฐบาลพยายามกำลังทุกอย่าง เพื่อให้อยู่ในอำนาจได้นานที่สุด และจงใจยืดระยะเวลาการเลือกตั้งออกไป จึงเชื่อว่าปี 2561 ก็ยังไม่มีการเลือกตั้งแน่นอน เห็นได้จากการแก้ไขกฎหมายเรื่องนั้นเรื่องนี้เพื่อใช้เป็นเหตุผลว่ายังแก้กฎหมายไม่เสร็จจึงยังจัดการเลือกตั้งไม่ได้ อย่างการแก้กฎหมาย กกต.ให้มีการเซตซีโร กกต.ใหม่นั้น เห็นได้ชัดเลยว่ามีความขัดแย้งสูง นอกจากนั้นรัฐบาลยังห้ามพรรคการเมืองเคลื่อนไหว แต่ละพรรคก็ยังไม่สามารถเตรียมการเลือกตั้งได้ ทุกอย่างจึงหยุดชะงักหมด

แต่การที่ยังไม่รู้ว่าจะเลือกตั้งกันเมื่อใด ยังมีเรื่องที่นักการเมืองกลัวมากกว่านั้นก็คือ แนวคิดการให้อำนาจสมาชิกวุฒิสภาสามารถลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีคนนอกได้ ซึ่งทุกฝ่ายมองว่านี่คือการออกกฎหมายเพื่อเป็นช่องทางในการกลับเข้าสู่อำนาจของรัฐบาลชุดนี้ เพราะแน่นอนว่าเป็นเรื่องยากที่พรรคใดพรรคหนึ่งจะได้เสียงข้างมากในสภาจนสามารถจัดตั้งรัฐบาลพรรคเดียวได้เหมือนในอดีต รัฐบาลชุดนี้จึงจำเป็นต้องเข้ามาเป็นนายกฯ เอง โดยอาจใช้วิธีส่งตัวแทนเข้ามา หรือใช้บารมีล็อบบี้ ส.ว. ในการโหวตเลือกนายกฯ เพื่อให้นักการเมืองเข้ามาสวามิภักดิ์และสร้างอำนาจให้แก่ตัวเอง ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องยากเย็นอะไร เพราะการโหวตเลือกนายกฯ ต้องอาศัยเสียงเกินกึ่งหนึ่งของที่ประชุมรัฐสภา ซึ่งตามรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ กำหนดให้มี ส.ส. 500 คน มี ส.ว. 250 คน รวมเป็น 750 คน กึ่งหนึ่งของรัฐสภาก็เท่ากับ 375 คน ถ้ามีเสียง ส.ว.ในมืออยู่แล้ว 250 เสียง การจะหา ส.ส.เพิ่มอีก 125 เสียง จึงทำได้สบาย ๆ ส่วนที่มีข่าวว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ พี่ใหญ่คสช. จะตั้งพรรคการเมืองนั้น นายไพจิต มองว่ามีความเป็นไปได้ แต่ก็คงไม่มีผลกระทบต่อพรรคเพื่อไทยมากนัก และมั่นใจว่าคงไม่มีอดีต ส.ส.ของเพื่อไทยคนไหนกล้าเสี่ยงย้ายพรรคไปอยู่พรรคการเมืองใหม่ที่ยังไม่มีใครรู้จัก

ขณะที่นายสมศักดิ์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา กลับเห็นว่า การที่ทหารจะตั้งพรรคการเมืองนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะประชาชนส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยที่ทหารจะมาเล่นการเมือง โดยเฉพาะกระแสในภาคอีสานที่ทหารจะเจาะเข้าไปไม่ได้ง่าย ๆ ทีมข่าวลึกทันใจ เห็นว่า ตอนนี้ชาวบ้านเค้าไม่สนใจหรอกว่าจะมีเลือกตั้งหรือไม่มีเลือกตั้ง เค้าสนใจเรื่องของปากท้องกันมากกว่า เพราะทุกวันนี้ข้าวของราคาแพง แต่การทำมาหากินกลับฝืดเคืองเหลือเกิน หากรัฐบาลนี้ต้องการจะตีตั๋วอยู่ต่อ ก็ช่วยแก้ปัญหาปากท้องที่เป็นเรื่องสำคัญที่สุดให้ได้ก่อน หากทำสำเร็จจะอยู่นานก็ไม่มีใครว่า แต่ถ้าทำไม่ได้ อยู่ไปไม่เกิดประโยชน์ เมื่อนั้นเสียงเรียกร้องต้องการเปลี่ยนแปลงไปสู่สิ่งที่ดีกว่า ย่อมต้องดังขึ้นเรื่อยๆ แน่นอน หากเป็นเช่นนั้น ทางลงสวย ๆ ที่วางไว้ อาจไม่ใช่ก็ได้

ทีมข่าวลึกทันใจ รายงาน
กำลังโหลดความคิดเห็น