คลังหวังธุรกิจประกันร่วมขับเคลื่อน และปฏิรูปเศรษฐกิจสู่ระบบดิจิทัล พร้อมยกระดับคุณภาพชีวิตเพิ่มความคุ้มครองแก่ประชาชน ประเดิมผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่รัฐ พร้อมประสานภาคธุรกิจดำเนินการ ด้านนายกสมาคมประกันชีวิตไทยเผยมีการนำเสนอแนวทางบ้างแล้ว เบื้องต้นคุ้มครองกรณีเสียชีวิตทุนประกัน 1 แสนบาท
นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า แนวโน้มของธุรกิจประกันภัยเป็นอีกประเภทที่ภาครัฐต้องให้มีส่วนในการขับเคลื่อนและปฏิรูปเศรษฐกิจไทยบนพื้นฐานของระบบดิจิทัล ซึ่งจะทำให้เข้าถึงประชาชนในทุกระดับมากขึ้น และส่วนที่สำคัญอีกด้านคือการที่คนไทยจะต้องได้รับความดูแลในเรื่องของสวัสดิการจำเป็นให้แก่ประชาชน
รัฐบาลกำลังศึกษาแนวทางการใช้ประกันสุขภาพดูแลผู้มีรายได้น้อยถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โดยเฉพาะผู้สูงอายุ ยอมรับว่าระบบประกันสุขภาพเป็นพื้นฐานสำคัญในการดูแลประชาชน เกษตรกรรายย่อย เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนทุกกลุ่มเข้าถึงประกันและดูแลครอบครัวให้มั่นคง
ทั้งนี้ กระทรวงการคลังกำลังหารือกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เร่งสรุปแนวทางเพื่อออกมาตรการดูแลผู้มีรายได้น้อย ทั้งประกันสุขภาพของเด็ก มารดา ผู้สูงอายุ ด้วยการพัฒนารูปแบบการประกันที่เหมาะสม ทั้งประกันอุบัติเหตุ ประกันชีวิต ประกันสุขภาพ หลังจากธุรกิจประกันเริ่มหันมาใช้เทคโนโลยีพัฒนาด้านประกันเพื่อให้เข้าถึงฐานรากมากขึ้น ประกันถือว่าเป็นเครื่องมือดูแลคุณภาพชีวิตที่สำคัญอีกด้านหนึ่ง
ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (เลขาธิการ คปภ.) เปิดเผยว่า ปัจจุบันเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันในทุกมิติ และหนึ่งในเทคโนโลยีที่มาแรงไม่แพ้เทคโนโลยีอื่นๆ คือ “Health Tech” ที่เข้ามาช่วยยกระดับคุณภาพของการให้บริการด้านการแพทย์และบริการสุขภาพต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบ Database ที่เป็นประโยชน์ต่อการวิเคราะห์ข้อมูลการรักษา ตลอดจน Wearable device ที่ช่วยบันทึกติดตามข้อมูลสุขภาพของผู้สวมใส่ จึงจำเป็นที่จะต้องลงทุนในเทคโนโลยี และขอย้ำว่าธุรกิจประกันภัยจำเป็นต้องลงทุนในเทคโนโลยี
“ท่ามกลางโอกาสยังมีความท้าทายสำหรับธุรกิจประกันภัย โดยเฉพาะการประกันสุขภาพ Data-driven คือหัวใจของการดำเนินธุรกิจในยุคนี้ การใช้เทคโนโลยีต่างๆ ในการขับเคลื่อนจะช่วยให้เข้าถึงข้อมูลด้านสุขภาพและไลฟ์สไตล์ของลูกค้าได้มากขึ้น สามารถคัดกรองแต่ข้อมูลที่จำเป็นและนำไปประมวลผลเพื่อได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการปรับปรุงกระบวนการพิจารณารับประกันและคำนวณเบี้ยประกัน และออกแบบผลิตภัณฑ์ได้ตรงตามความต้องการของลูกค้าสูงสุด โดยสามารถแปลง Big data ให้กลายเป็น Meaningful Small data… Small but meaningful ที่ทำให้บริษัทประกันภัยเข้าใจและเข้าถึงความต้องการและความจำเป็นของลูกค้าได้อย่างแท้จริง”
ด้านนางนุสรา (อัสสกุล) บัญญัติปิยพจน์ นายกสมาคมประกันชีวิตไทย กล่าวว่า แนวทางการเพิ่มความคุ้มครองให้แก่บุคคลที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐนั้น เบื้องต้นได้มีการเสนอแนวทางให้กระทรวงการคลังได้รับทราบแล้ว และจะเป็นความคุ้มครองที่เกี่ยวกับอุบัติเหตุและเสียชีวิต โดยมีทุนประกันอยู่ที่ประมาณ 100,000 บาทต่อคน ซึ่งก่อนหน้านี้เคยมีการนำเสนอไปแล้ว แต่กระทรวงการคลังยังอยู่ในระหว่างการพิจารณา และหลังจากนี้คงมีการศึกษาแนวทางมากขึ้นเพื่อให้ประชาชนบางส่วนเข้าถึงความคุ้มครอง
อย่างไรก็ตาม แนวทางการเพิ่มสิทธิประโยชน์ในครั้งนี้ยังไม่มีกรอบเวลาที่แน่ชัด คงจะต้องติดตามต่อไปว่าทางกระทรวงการคลังจะมีนโยบายอย่างไรต่อไป