xs
xsm
sm
md
lg

ตั้งเป้า AUM แตะ 8.4 หมื่นล้าน LHFUND ชี้หุ้นไทยมีลุ้นถึง 2,000

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


LHFUND ตั้งเป้าสินทรัพย์รวมปีนี้แตะ 8.4 หมื่นล้านบาท เน้นกองุทนรวมและตั้งเป้าขยายฐานลูกค้าผ่านออนไลน์ พร้อมชูช่วยจัดพอร์ตกระจายความเสี่ยงเป็นกลยุทธ์ดึงนักลงทุนมากขึ้น คาด หุ้นไทยปีนี้อาจแตะ 2,000 จุด แนะจับตานโยบายเฟด และการเปลี่ยนประธาน ก่อนเข้าลงทุนรอบใหม่ ระบุแนวรับ 1,730 - 1,750 จุด จังหวะดีเหมาะลงทุน

นางจันทนา กาญจนาคม กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด หรือ LHFUND เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้าหมายผลักดันสินทรัพย์ภายใต้การบริหาร (AUM) ปีนี้เติบโตไม่ต่ำกว่า 40% จากสิ้นปีที่ผ่านมา คาดว่า สิ้นปี 2561 แตะที่ระดับ 84,000 ล้านบาท โดยแผนงานปีนี้บริษัทจะเน้นกองทุนรวมมากขึ้น สำหรับสัดส่วนการลงทุนแบ่งเป็นกองทุนรวม 47% กองทุนอสังหาริมทรัพย์และรีท 41% กองทุนส่วนบุคคล 9% กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ 3% ส่วนภาพรวมผลการดำเนินงานช่วงปี 2560 มี AUM ทั้งสิ้น 59,778 ล้านบาท แบ่งเป็นกองทุนรวม 51,449 ล้านบาท กองทุนส่วนบุคคล 5,683 ล้านบาท และกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ 2,645 ล้านบาทที่มีอัตราการเติบโต 15%

“ปัจจุบันเรามีลูกค้ามากขึ้นจากกองทุนรวม และบางรายไว้ใจให้เราดูแลกองทุนส่วนบุคคลให้ทั้งพอร์ต ซึ่งหลังจากนี้ประมาณปีหน้าหากระบบของบริษัทเสร็จสิ้น น่าจะมีลูกค้าเข้ามาจัดสรรการลงทุนและทำธุรกรรมผ่านเว็บไซด์ที่เราพัฒนามากขึ้น” นางจันทนา กล่าว

อย่างไรก็ตาม แผนงานปีนี้ยังมีการเพิ่มส่วนแบ่งทางตลาดในอุตสาหกรรมให้มากขึ้น โดยอาศัยความเชี่ยวชาญการบริหารจัดการภายใต้กลยุทธ์ Asset Allocation ที่กระจายการลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆ เพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีแก่นักลงทุน พร้อมมีแผนงานเปิดกองทุนใหม่อีกหลายกองทุน เพื่อผลักดันการเติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้

หลังจากเดือน ม.ค. 2561 ได้เปิดตัวกองทุน “แอล เอช โรโบติกส์-E” ที่มีนโยบายลงทุนในหุ้นของบริษัทที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ ผ่านกองทุนรวมชั้นนำในต่างประเทศ และได้รับการตอบรับเกินความคาดหมายจนยื่นขอเพิ่มทุนจดทะเบียนถึง 2 ครั้ง ล่าสุด เตรียมเปิดตัวกองทุนแอล เอช อีเมอร์จิ้ง มาร์เก็ต-E (LHEM-E) ซึ่งเป็นกองที่2 ของปีนี้ เตรียมเสนอขายหน่วยลงทุนครั้งแรกในเร็วๆ นี้

นายมนรัฐ ผดุงสิทธิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (LH Fund) กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับแนวโน้มการลงทุนในตลาดหุ้นไทยปีนี้ มองว่า โอกาสที่ดัชนีจะขยับขึ้นแตะระดับ 2,000 จุด แต่อาจมีความผันผวนเกิดขึ้นระหว่างทาง และราคาหุ้นไทยหลายตัวพี/อี ยังอยู่ในระดับสูง ดังนั้น ควรเน้นเลือกลงทุนเป็นรายตัวเป็นหลัก ส่วนทิศทางเศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง ซึ่งส่งผลดีต่อโอกาสการลงทุนในตลาดเงินและตลาดทุนทั่งในฝั่งประเทศพัฒนาแล้ว และกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ที่มีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่ดี

“หุ้นไทยมีแนวรับอยู่ที่ประมาณ 1,730 - 1,750 จุด ซึ่งเป็นช่วงที่เหมาะกับการลงทุน โดยปัจจุบันราคาหุ้นไทยปรับตัวลงมาแล้ว แต่ควรรอจังหวะลงทุนอีกครั้งในช่วงต้นเดือนมีนาคม หลังจากเฟดมีการเปลี่ยนประธานคนใหม่ และต้องติดตามว่านโยบายการปรับดอกเบี้ยจะออกมาเป็นอย่างไร ซึ่งหุ้นไทยบางตัวค่อนข้างแพง ทำให้การลงทุนในหุ้นไทยปีนี้จะต้องเลือกหุ้นที่มีการเติบโตสม่ำเสมอ ไม่ใช่โตแค่ปีเดียวแล้วหยุดไป” นายมนรัฐ กล่าว

สำหรับในปี 2561 บริษัทจึงมีแผนงานเปิดตัวกองทุนใหม่อย่างต่อเนื่องประมาณ 10 กองทุนตลอดทั้งปี เน้นกองทุนรวมที่มีนโยบายลงทุนในต่างประเทศที่มีศักยภาพ หรือผ่านการลงทุนในกองทุน ETF ที่จดทะเบีบนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์และมีนโยบายจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนสม่ำเสมอ โดยคัดเลือกอุตสาหกรรมหรือประเทศที่เข้าลงทุนนั้น จะพิจารณาจากแนวโน้มระยะยาว หรือ เมกะเทรนด์ ที่จะเป็นทิศทางขาขึ้นต่อไปได้อีก 3 - 5 ปีข้างหน้า เพื่อสอดคล้องรับกับแนวทางการลงทุนระยะยาว


กำลังโหลดความคิดเห็น