xs
xsm
sm
md
lg

KTAM ไอพีโอกองตราสารหนี้โลก ชูผลงานดีย้อนหลัง 1 ปี 9.25%

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


บลจ.กรุงไทยเพิ่มทางเลือกนักลงทุน เปิดกองทุนลุยตราสารหนี้ทั่วโลก ไอพีโอระหว่างวันที่ 18-25 มกราคมนี้ ชูเหมาะกับนักลงทุนระยะกลาง 1-3 ปี แถมผลงานกองแม่สุดปังย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 3.20% ส่วน 1 ปีอยู่ที่ 9.25%

นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทเพิ่มทางเลือกให้แก่นักลงทุน โดยการเปิดจำหน่ายกองทุนเปิด เคแทม โกลบอล เครดิต อินคัม ฟันด์ (KT-GCINCOME) เสนอขายครั้งแรกในวันที่ 18-25 มกราคม 2561 เน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมหลัก Schroder ISF Global Credit Income ไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน

กองทุนรวมหลักมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างรายได้ และการเติบโตของเงินทุน โดยมีนโยบายลงทุนในตราสารหนี้ทั่วโลกที่มีอันดับความน่าเชื่อถือในระดับ Investment Grade และ High Yield ที่ออกโดยรัฐบาล หน่วยงานภาครัฐ องค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศ และบริษัททั่วโลก รวมถึงประเทศในตลาดเกิดใหม่ และผู้จัดการกองทุนได้รับจัดอันดับ AAA จาก citywire (ข้อมูล ณ วันที่ 30 ธ.ค.60)

กองทุน KT-GCINCOME เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลงทุนในตราสารหนี้ที่มีการกระจายความเสี่ยงในการลงทุน และต้องการมีผู้ชำนาญการมาช่วยบริหารจัดการ โดยกองทุนนี้เหมาะสำหรับผู้ลงทุนในระยะกลาง 1-3 ปี และคาดหวังจะได้รับกระแสเงินสดการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติในทุกไตรมาส เงินลงทุนขั้นต่ำ 1,000 บาท

สำหรับผลการดำเนินงานย้อนหลังของกองทุนรวมหลัก Schroder ISF Global Credit Income USD ณ วันที่ 30 พ.ย. 60 ย้อนหลัง 3 เดือน อยู่ที่ 1.30% 6 เดือน อยู่ที่ 3.20% YTD (3 ม.ค.-30 พ.ย. 60) อยู่ที่ 8.00% ย้อนหลัง 1 ปี อยู่ที่ 9.25%

ภาพรวมเศรษฐกิจโลกในปี 2561 ยังมีอัตราการเติบโตแบบต่อเนื่อง ในขณะที่เงินเฟ้อมีแนวโน้มสูงขึ้นจากการที่ตลาดแรงงานทั่วโลกมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น และทำให้อัตราค่าจ้างเพิ่มขึ้นเช่นกัน ส่งผลให้ธนาคารกลางในหลายประเทศเริ่มดำเนินนโยบายการเงินที่เข้มงวดมากขึ้น โดยธนาคารกลางสหรัฐฯ มีแนวโน้มที่จะเพิ่มอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 3 ครั้งพร้อมกับการลดขนาดสินทรัพย์ลง ในขณะที่ธนาคารกลางในยุโรปและญี่ปุ่นอาจยังไม่มีแนวโน้มขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายแต่เริ่มจะลดการเข้าซื้อพันธบัตรตามนโยบายผ่อนคลายเชิงปริมาณ (Quantitative Easing) ลง ตลาดตราสารหนี้โดยภาพรวมอาจจะมีความผันผวนเพิ่มขึ้นบ้าง จากการเพิ่มอัตราดอกเบี้ยนโยบายในแต่ละช่วง แต่กลยุทธ์การลงทุนที่เหมาะสมก็จะช่วยลดความผันผวนของตลาดได้ โดยการลงทุนในพันธบัตรเอกชนที่มีแนวโน้มธุรกิจและฐานะทางการเงินที่ดีขึ้นจากเศรษฐกิจที่เติบโตขึ้น ทำให้ตราสารหนี้ที่ออกโดยบริษัทนั้นๆ มีมูลค่าที่เพิ่มขึ้นจากแนวโน้ม Credit Rating ที่เพิ่มขึ้น ในขณะที่การลงทุนในตราสารหนี้ที่มีอายุสั้นก็จะได้รับประโยชน์จากการลงทุนใหม่เมื่อตราสารครบกำหนด (Roll Over) เนื่องจากตราสารใหม่ที่ลงทุนก็จะมีอัตราผลตอบแทนที่เพิ่มมากขึ้นตามการปรับตัวของตลาด

ทั้งนี้ บริษัทอยู่ในระหว่างการเปิดจำหน่ายกองทุนเปิดกรุงไทยตราสารหนี้ เอฟไอเอฟ 180 (KTFF180) เสนอขายตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 23 มกราคม 2561 อายุโครงการ 6 เดือน เน้นลงทุนตราสารหนี้ต่างประเทศ ประเภทเงินฝากประจำ Bank of China, Agricultural Bank of China, China Construction Bank, Bank of Communications, Industrial and Commercial Bank of China Ltd. ในสัดส่วนสถาบันการเงินละ 19% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ส่วนที่เหลือลงทุนในธนาคารแห่งประเทศไทย ผลตอบแทนประมาณ 1.57% ต่อปี

ที่ประชุมคณะกรรมการจัดการลงทุนมีมติจ่ายเงินปันผลกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าเทสโก้ โลตัส รีเทล โกรท (TLGF) ครั้งที่ 23 นับจากการจัดตั้งกองทุน ในอัตรา 0.2145 บาทต่อหน่วย สำหรับรอบระยะเวลาบัญชีวันที่ 1 กันยายน-30 พฤศจิกายน 2560 โดยกองทุนจะขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันที่ 26 มกราคม 2561 ปิดสมุดทะเบียนในวันที่ 31 มกราคม 2561 และประกาศจ่ายเงินปันผลในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2561


กำลังโหลดความคิดเห็น