xs
xsm
sm
md
lg

ONE's View‏: ความหวังของหุ้นไทยในช่วงครึ่งแรกของปี 58

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


คอลัมน์ ONE's View
ดร.วิน อุดมรัชตวนิชย์
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.วรรณ
Dr.win@one-asset.com

สวัสดีครับ ในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา ตลาดหุ้นไทยเริ่มปรับตัวลดลงอีกครั้ง จากแรงขายทำกำไรของนักลงทุนหลังดัชนีฯ ยืนเหนือระดับ 1,600 จุด รวมทั้งแรงกดดันจากกระแสข่าวที่ระบุว่าจะมีการเลื่อนการประมูล 4G ซึ่งส่งผลให้หุ้นกลุ่มสื่อสารปรับตัวลดลงค่อนข้างมาก ประกอบกับสถาบันการเงินระดับโลกบางแห่งปรับลดการคาดการณ์เศรษฐกิจไทยลง รวมทั้งตัวเลขการส่งออกล่าสุดเดือน ม.ค. 58 ยังคงหดตัวซึ่งต่ำกว่าตลาดคาดการณ์ ทำให้นักลงทุนบางกลุ่มลดพอร์ตการลงทุนในหุ้นไทยเพื่อรอดูจังหวะการลงทุนอีกครั้ง

ทั้งนี้ สำหรับมุมมองตลาดหุ้นไทย ผมยังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อตลาดหุ้นไทยอยู่ แม้ว่าจะย่อตัวลงมาในช่วงนี้ เนื่องจากผมมองว่าการปรับตัวลดลงดังกล่าวเป็นเพียงการปรับย่อฐานและน่าจะเป็นเพียงช่วงสั้นๆ เนื่องจากในด้านปัจจัยพื้นฐานของหุ้นยังไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปอย่างมีนัยสำคัญ ขณะที่ปัจจัยสนับสนุนหลักๆ ที่ผมมองว่าจะยังช่วยให้หุ้นไทยสามารถปรับตัวอยู่ในระดับ SET Index Target ประมาณ 1,700 จุด อาทิเช่น

เศรษฐกิจโลกที่คาดว่าจะทยอยฟื้นตัว นำโดยสหรัฐอเมริกาที่ตัวเลขเศรษฐกิจออกมาเติบโตอย่างมีเสถียรภาพต่อเนื่อง ส่งผลให้นักลงทุนเริ่มมีความเชื่อมั่นในการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น ขณะที่ความกังวลเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ แม้ว่าตลาดจะมีความกังวลอยู่บ้าง แต่ด้วยถ้อยแถลงของนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐต่อสภาครองเกรสที่ระบุว่าจะยังไม่มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างน้อยในการประชุมเฟดอีกในช่วง 2-3 ครั้งถัดจากนี้นั้นก็ช่วยลดทอนความกังวลของนักลงทุนได้บางส่วน

 ปัญหาหนี้กรีซก็ได้รับการขยายระยะเวลาการชำระหนี้ต่อยูโรโซนออกไปอีก 4 เดือน ทำให้แรงกดดันดังกล่าวเริ่มเบาบางลงแม้อาจจะกลับมาอีกครั้งหากถึงช่วงเวลาดังกล่าว แต่ด้วยท่าทีของผู้นำกรีซเองที่เริ่มประนีประนอมมากขึ้น ทำให้มองว่าเรื่องปัญหาหนี้กรีซจะได้รับการแก้ไขและได้รับข้อสรุปที่ลงตัวสำหรับทุกฝ่ายได้ แต่ก็ยังคงต้องติดตามประเด็นนี้อย่างต่อเนื่อง ในแง่ของข่าวคราวที่อาจกระทบต่อ Sentiment ตลาด
    
ขณะที่ปัจจัยสนับสนุนในประเทศ ได้แก่ แนวโน้มเศรษฐกิจไทยที่น่าจะกลับมาขยายตัวได้ดีขึ้นเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ถึงแม้ว่าตัวเลขส่งออกเดือน ม.ค. 58 จะออกมาหดตัวก็ตาม แต่ด้วยราคาน้ำมันที่ยังอยู่ในระดับต่ำ มาตรการการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐที่ทยอยออกมาต่อเนื่อง

 โดยเฉพาะความคืบหน้าในการประมูลโครงสร้างพื้นฐาน เช่น รถไฟฟ้า ถนน มอเตอร์เวย์ต่างๆ  ประกอบกับการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณประจำปีและงบลงทุนของภาครัฐ นอกเหนือจากโอกาสที่ กนง. จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีก 1 ครั้งในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้หลังอัตราเงินเฟ้อที่ยังอยู่ในระดับต่ำ ก็คาดว่าน่าจะช่วยสนับสนุนด้านการลงทุน การบริโภคได้ในระยะถัดไป

ในด้านของมูลค่าหุ้นไทย แม้ว่าราคาหุ้นต่อกำไร (PE) ไทยจะปรับตัวสูงขึ้นเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยภูมิภาคเอเชีย แต่ถ้าพิจารณาในกลุ่มของ TIP Market ด้วยกัน ก็จะเห็นว่า PE หุ้นไทยก็ยังคงต่ำกว่า ขณะที่อัตราการจ่ายปันผลสูงกว่า ประกอบกับนักลงทุนต่างชาติได้ทยอยขายหุ้นไทยออกไปค่อนข้างมากในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาแล้ว ทำให้ Downside Risk ของแรงขายของนักลงทุนต่างชาติน่าจะจำกัดมากขึ้นและมีความเป็นไปได้ที่จะมีสถานะพลิกกลับมาเป็นผู้ซื้อสุทธิในหุ้นไทยปีนี้ ทำให้ประเมินว่าหุ้นไทยยังคงมีความน่าสนใจ

ในแง่ของการลงทุน การปรับฐานของหุ้นในระดับที่ต่ำกว่า 1,580 จุด เป็นระดับที่นักลงทุนสามารถทยอยสะสมหุ้นไทยได้ โดยคาดว่าทั้งปีดัชนีฯ น่าจะมีโอกาสเคลื่อนไหวในกรอบ 1,500-1,730 จุด และมีโอกาสปรับตัวขึ้นทดสอบที่ระดับ 1,700 จุดได้ในช่วงครึ่งแรกของปี 58 แต่อาจมีความผันผวนระหว่างทางบ้างจากแรงขายทำกำไร
    
 สำหรับ บลจ.วรรณ ระดับการย่อตัวลงของตลาดถือเป็นกลยุทธ์ที่จะลงทุนในหุ้นสำหรับกองทุนรวมประเภท Target Fund อีกครั้ง จึงเสนอขายกองทุนเปิด วรรณ สปอท 5/4 ฟันด์ ในช่วงระหว่างวันที่ 27 ก.พ. - 17 มี.ค. 58 โดยมีเป้าหมายในการสร้างโอกาสผลตอบแทน 5% ภายในระยะเวลา 5 เดือน โดยมุ่งเน้นการลงทุนในหุ้นกลุ่มที่ได้รับอานิสงส์จากเศรษฐกิจไทยและโลกที่ฟื้นตัว มีแนวโน้มการเติบโตของกำไรที่โดดเด่น และมีมูลค่าหุ้นต่ำกว่าระดับที่เหมาะสม เช่น กลุ่มวัสดุก่อสร้าง รับเหมาก่อสร้าง สื่อสิ่งพิมพ์และขนส่ง โลจิสติกส์ เป็นต้น

โดยเน้นการจัดพอร์ตการลงทุนที่ผสมผสานระหว่างหุ้นขนาดใหญ่ประมาณ 40-60% ของพอร์ตเพื่อสร้างผลตอบแทนให้ใกล้เคียงกับตลาดและลงทุนในหุ้นขนาดกลางและเล็กเพิ่มเติมเพื่อสร้างผลตอบแทนส่วนเพิ่มให้กับกองทุนฯ ซึ่งหากนักลงทุนสนใจกองทุนเปิด ONE-SPOT5/4 สามารถติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ฝ่ายบริการลูกค้าและสนับสนุนธุรกิจที่หมายเลข 02-659-8888 ต่อ 1 ครับ

    
• ทั้งนี้ การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
    
• การกำหนดเป้าหมายอัตราการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติเป็นเพียงเป้าหมายที่เป็นเหตุให้มีการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติเท่านั้น ไม่ใช่การประมาณการหรือการรับประกันว่าผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนจากการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติ ทั้งนี้ หากภาวะตลาดหรือภาวะการลงทุนเปลี่ยนแปลงไปจากการคาดการณ์ กองทุนรวม อาจไม่ดำเนินการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติก็ได้


กำลังโหลดความคิดเห็น