xs
xsm
sm
md
lg

สปอร์ตไบค์กระชากเรตติ้ง แห่อวดโฉมเขย่าตลาดนักบิด

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 40 ประจำปี 2019 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 27 มีนาคม ถึง 7 เมษายนนี้ ที่ชาเลนเจอร์ อิมแพ็ค เมืองทองธานี ยังคงอัดแน่นไปด้วยบรรดารถใหม่จากค่ายผู้ผลิต ซึ่งต่างยกทัพนำมาเปิดตัวให้ผู้บริโภคชาวไทยได้ยลโฉมกันอย่างมากมาย


สำหรับปีนี้ ในโซนของรถจักรยานยนต์ดูจะคึกคักเป็นพิเศษ โดยเฉพาะกลุ่มตัวเลือกสปอร์ตไบค์สายพันธุ์แข่ง ดูท่าจะมาแรงกระชากเรตติ้ง พร้อมเขย่าตลาดนักบิดได้เป็นจำนวนมาก


เอ็มจีอาร์ มอเตอริ่ง รวบรวมไฮไลต์ที่เหล่าไบค์เกอร์ไม่ควรพลาด มีทั้งนิวโมเดล โฉมเพิ่มออฟชั่น และปรับสีสันไมเนอร์เชนจ์
CBR250RR

เริ่มจากเจ้าตลาด “ฮอนด้า” ก่อนหน้าวันงานเพียงหนึ่งวัน ชิงอุ่นเครื่องเปิดตัวโมเดลใหม่ล่าสุด CBR150R ใหม่ ภายใต้คอนเซ็ปต์ “กำเนิดใหม่ เร้าใจที่หนึ่ง” สปอร์ตไบค์ขุมพลัง 150 ซีซี สูบเดียว DOHC 4 วาล์ว ชูสมรรถนะเด่นระบบกันสะเทือนหน้า-หลัง ปรับตั้งค่าได้ เคาะราคาเริ่มต้น 92,000 บาท ตั้งเป้าปีแรกกวาดยอดขาย 16,000 คัน


ขณะที่ในวันงานรอบสื่อมวลชน สร้างความฮือฮาด้วยการเปิดตัวรถสปอร์ตพันธุ์แท้นำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น CBR250RR สายตรงความแรงจากตัวแข่งโมโตจีพี ขุมพลัง 250 ซีซี 2 สูบเรียง DOHC 4 วาล์ว ระบายความร้อนด้วยน้ำ


โดดเด่นด้วยออฟชั่นติดรถแบบรถสนาม มาพร้อมคันเร่งไฟฟ้าและโหมดการขับขี่ โครงสร้างเฟรมถัก Truss Frame สวิงอาร์มอะลูมิเนียม โช้กหน้าหัวกลับ Upside-Down จาก Showa และโช้กหลังขนาดใหญ่แบบโปรลิงค์ สามารถปรับความแข็งได้ 5 ระดับ ดิสก์เบรกหน้าและหลัง มาพร้อมระบบเบรกป้องกันล้อล็อก ABS 2Channel ที่ทำงานแยกส่วน


CBR250RR เปิดตัวพร้อมทำตลาดทันที มีให้เลือก 2 สี คือ สีแดง และสีดำ ราคาแนะนำอยู่ที่ 249,000 บาท
YZF-R6 และ YZF-R1 สีใหม่ โฉมปี 2019

ฝั่งคู่แข่งแบรนด์ดังสัญชาติเดียวกันอย่าง “ยามาฮ่า” ปีนี้ไม่มีรถใหม่มาเผยโฉม แต่มีทีเด็ดอยู่ที่รถต้นแบบ TY-E สองล้อพลังไฟฟ้าแนวออฟโร้ดสมรรถนะสูง โผล่โชว์ตัวพร้อมมีนักแข่งระดับโลกมาสาธิตการขับขี่ให้คนไทยได้สัมผัสอย่างใกล้ชิด


ขณะเดียวกันในส่วนของรถสปอร์ตก็มีความเคลื่อนไหวด้วยเช่นกัน กับการเปิดตัวสีใหม่ โฉมปี 2019 ถึง 4 รุ่น คือ YZF-R1, YZF-R6, MT-10 และ MT-07


ยังไม่พอ ต่อเนื่องด้วยการเกาะกระแสมอเตอร์สปอร์ต จัดแสดง YZF-R1 สีกราฟฟิกฉลองครบรอบ 20 ปี แชมป์ Suzuka 8 hours และ YZF-R6 แชมป์ Suzuka 4 hours รวมถึง YZF-R6 คันที่คว้าตำแหน่งแชมป์ประจำปีในการแข่งขัน Asia Road Racing Championship 2018 รุ่น ST600 ปีที่ผ่านมา
Kanata

ขยับมาอีกยี่ห้อจากแดนปลาดิบ “ซูซูกิ” นำโมเดลใหม่ล่าสุด Kanata ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจในการออกแบบจากดาบญี่ปุ่นที่มีชื่อเสียง สะท้อนความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวในด้านเส้นสายที่เฉียบคม


ไฟหน้าโคมคู่ใหม่ ที่ได้ถูกออกแบบและติดตั้งไว้ตรงกลางด้านหน้าด้วยไฟหน้าทรงสี่เหลี่ยมแบบ LED และไฟหรี่แบบ LED คาดไว้ตรงกลางซ้ายและขวาของเลนส์ไฟ


ในด้านสมรรถนะของการขับขี่ มาพร้อมขุมพลังเครื่องยนต์แบบ DOHC 4 จังหวะ 4 สูบเรียง ขนาด 999 ซีซี ระบายความร้อนด้วยน้ำ บล็อกเดียวกับ GSX-R1000 โครงสร้างตัวถังได้รับการออกแบบใหม่หมด มีขนาดเล็กกะทัดรัด น้ำหนักเบา


อย่างไรก็ตาม น่าเสียดายที่การเปิดตัว Katana ในครั้งนี้ยังไม่พร้อมขาย สาวกค่ายซูซูกิยังต้องรอข่าวดีต่อไป คาดว่าอย่างเร็วไม่เกินไตรมาส 3 ของปีนี้น่าจะมีคำตอบ
Panigale V4R

ข้ามฝั่งไปที่แบรนด์ยุโรป “ดูคาติ” ย้ำภาพผู้นำบิ๊กไบค์พรีเมียม เปิดตัวโมเดลใหม่ล่าสุด Panigale V4R โปรดักต์ชั่นไบค์ที่พัฒนาเทคโนโลยีมาจากสนามแข่งขัน พร้อมทำตลาดทันที เคาะราคา 2,990,000 บาท เริ่มส่งมอบล็อตแรกภายในเดือนมิถุนายนนี้


Panigale V4R มีต้นกำเนิดมาจากศึกดวลความเร็วโมโตจีพี ด้วยเครื่องยนต์ใหม่ขนาด 998 ซีซี ตามข้อกำหนดของการแข่งขัน World Superbike ที่มีแรงม้าสูงขึ้นถึง 221 แรงม้า ที่รอบเครื่องยนต์ 15,250 รอบต่อนาที สูงกว่า V4 ตัวปกติ 2,250 รอบต่อนาที มาพร้อมระบบอิเล็กทรอนิกส์ชั้นสูงรอบคัน


สำหรับความโดดเด่น ยังคงเอกลักษณ์ของดูคาติด้วยการใช้คลัทช์แห้ง ที่สามารถถ่ายทอดกำลังแรงม้าสู่ท้องถนนได้เต็มประสิทธิภาพ มาพร้อมชุดแอโรไดนามิคหรือวิงเล็ต (winglet) ที่คุ้นตาจากที่ติดตั้งเฉพาะในรถแข่งเท่านั้น


นอกจากนี้ ยังมีการเปิดตัวรถสปอร์ตในประเภทครุยเซอร์และทัวริ่งด้วย นั่นคือ Daivel 1260 ราคาเริ่มต้น 882,000 บาท และ Multistrada 950 โฉมปี 2019 ค่าตัวเริ่มที่ 657,000 บาท


ตามด้วยสปอร์ตไบค์สัญชาติอิตาเลียน ภายใต้แบรนด์ “อาพริเลีย” ที่ให้คำนิยามสั้นๆ ว่า “เร็วสุด แรงสุด เบาสุด” ของตัวเองให้กับเจ้า RSV4 1100 Factory ชูเทคโนโลยีถอดแบบมาจากโมเดลในสนามแข่งโมโตจีพีเช่นกัน เปิดราคาจำหน่าย 1,449,000 บาท


สเป็กเครื่องยนต์แบบ V4 ความจุ 1,078 ซีซี 4 จังหวะ 4 วาล์ว/กระบอกสูบ ระบายความร้อนด้วยน้ำ ให้กำลังสูดสุด 217 แรงม้า ที่ 13,200 รอบ และแรงบิดสูงสุด 122 นิวตันเมตรที่ 11,000 รอบ เกียร์ 6 สปีด


โครงสร้างแชสซีส์ได้รับการพัฒนาให้มีน้ำหนักเบาและแข็งแกร่ง น้ำหนักตัวรถเพียง 199 กิโลกรัม ช่วงล่างด้านหน้า Öhlins NIX ขนาดแกน 43 มม. ระยะยุบตัว 125 มม. โช้กอัพหลัง Öhlins TTX ยึดกับสวิงอาร์มคู่อะลูมิเนียม ระยะยุบตัว 120 มม.


ด้านระบบความปลอดภัยและการช่วยเหลือการขับขี่ต่างๆ จัดเต็มครบครัน นำโดย Traction Control, Wheelie Control, Launch Control, Cruise Control, Quick Shift และ Pit Limiter



ปิดท้ายเมื่อเน้นถึงเทคโนโลยีจากสนามแข่งขันกันเยอะ ฟากยี่ห้อคลาสสิกจากอังกฤษ “ไทรอัมพ์” แม้งานนี้ไม่มีรถปสอร์ตรุ่นใหม่ปรากฏกาย แต่ก็ขอเกาะกระแสมอเตอร์สปอร์ตกับเขาด้วย กับการนำขุมพลังเครื่องยนต์ 3 สูบเรียง ขนาด 765 ซีซี ที่ติดตั้งอยู่ในโมเดล Street Triple รุ่นล่าสุด ซึ่งใช้ในการแข่งขันโมโตจีพี รุ่นโมโตทู มาให้แฟนกีฬาความเร็วชาวไทยได้ยลโฉมกันด้วย


ทั้งหมดเป็นสปอร์ตไบค์ดาวเด่นของงานมอเตอร์โชว์ประจำปีนี้ เชื่อเถอะว่าแค่ดูจากรูปหรืออ่านรายละเอียดจากตัวอักษรคงยังไม่หนำใจ แนะนำให้รีบไปยลโฉมตัวเป็นๆ ที่ชาเลนเจอร์ อิมแพ็ค เมืองทองธานี


ย้ำอีกที จัดแสดงถึงวันที่ 7 เมษายนนี้ เท่านั้น.


กำลังโหลดความคิดเห็น