xs
xsm
sm
md
lg

ตำนานมาเอง “ทอม วูลฟ์” ต้นตำรับ GS Trophy พาคลุกฝุ่นที่เอ็นดูโร่ พาร์ค

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

ทอม วูลฟ์ เจ้าของฉายา มิสเตอร์ จีเอส โทรฟี่
เอ็นดูโร่ พาร์ค ไทยแลนด์ เอาใจสาวกขาลุย ดึงดาวบิดสายแอดเวนเจอร์ระดับตำนาน “ทอม วูลฟ์” ผู้คิดค้น GS Trophy อีเว้นต์ใหญ่ยักษ์ชื่อก้องโลกของเหล่าแฟนคลับบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ร่วมเปิดประสบการณ์ถ่ายทอดเทคนิคการขับขี่ให้กับสิงห์นักบิดไทยแบบเอ็กซ์คลูซีฟ ในสนามฝึกทางฝุ่นที่ใครพลาดไปต้องอิจฉาอย่างแรง


ปลายเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ผมได้รับคำชวนให้ไปร่วมเก็บความทรงจำซึมซับประสบการณ์ดีๆ ที่น้อยคนนักจะมีโอกาสได้สัมผัส นั่นคือ การเข้าคอร์สเรียนรู้เทคนิคการขับขี่รถจักรยานยนต์ ในสไตล์แอดเวนเจอร์ที่สนามเอ็นดูโร่ พาร์ค ไทยแลนด์ (Enduro Park Thailand)


เดี๋ยวๆ คอร์สนี้มันแปลกพิศดารกว่าปกติตรงไหน ใครๆ เขาก็เรียนได้นี่นา


ความพิเศษมันอยู่ตรงนี้ครับ ในวันนั้นคุณครูผู้สอนไม่ใช่เจ้าของพื้นที่อย่าง ครูไก๋-ปฏิมา กองเพชร หัวหน้าครูฝึกที่ผ่านการรับรองจาก BMW Motorrad International Instructor Academy ประเทศเยอรมณี


แต่เป็นครูฝึกระดับตำนาน “ทอม วูลฟ์” (Tomm Wolf) เจ้าของฉายา มิสเตอร์ จีเอส โทรฟี่ (Mr.GS Trophy) ผู้เป็นอาจารย์ปู่ของครูไก๋อีกที


สำหรับโปรไฟล์คร่าวๆ ของลุงคนนี้ ปัจจุบันอายุ 60 ปี แกทำงานกับบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด เอจี มาตั้งแต่ปี 1990 และเป็นต้นตำรับผู้คิดค้นหลักสูตรการสอน การขับขี่สองล้อทางฝุ่นให้กับทางบีเอ็มฯ


รวมถึงเป็นผู้ให้กำเนิดกิจกรรมชื่อก้องโลก จีเอส โทรฟี่ (GS Trophy) ซึ่งเหล่าแฟนคลับค่ายใบพัดสีฟ้าทุกคนรู้จักกันเป็นอย่างดี


“ผมเชิญลุงทอมมาเพื่อให้นักขี่ในบ้านเราสัมผัสกับเขา ใกล้ชิดกับเขา เพราะขนาดคนเยอรมันยังไม่ได้ใกล้ชิดขนาดนี้ นี่เป็นโอกาสพิเศษจริงๆ ที่คุณจะได้เรียนรู้เทคนิคต่างๆ กับปรมาจารย์ของสายทางฝุ่น หลักสูตรทั้งหมดที่เราสอนหรือที่บีเอ็มฯ สอน ทั้งหมดก็มาจากชายคนนี้” เจ้าสำนัก เอ็นดูโร่ พาร์ค ไทยแลนด์ กล่าว


“ที่สำคัญเรื่องค่าใช้จ่าย ผมบวกเพิ่มจากราคาปกติเพียง 1,000 บาท เท่านั้น”


อาจฟังคล้ายเป็นพระเอกในโครงการจิตอาสา แต่นี่คือเรื่องจริง


ครูไก๋บอกว่าที่คิดเพิ่มเพื่อให้ลูกค้ารู้สึกว่าต่างจากเรตปกติ ถ้าจะคิดแพงกว่านี้ก็ทำได้ แต่ถูกหรือแพงไม่ใช่ประเด็น หากนับเฉพาะค่าตัวของมิสเตอร์ จีเอส โทรฟี่ ยังไงก็ไม่มีทางคุ้มทุนอยู่แล้ว เขาแค่ต้องการยกระดับการขับขี่ให้กับสาวกผู้หลงรักเส้นทางออฟโร้ดเพียงแค่นั้น


นั่นจึงทำให้ไม่แปลกใจเลย เมื่อหลังประกาศเปิดรับสมัครอย่างเป็นทางการ ผ่านสื่อโซเชียลมีเดีย คอร์สที่จัดเลเวล 1-2 ทั้งหมด 3 ครั้ง ครั้งละ 2 วัน ต่างมีผู้สนใจจองแน่นเอี๊ยดเต็มทุกคอร์ส โดยมีสัดส่วนนักเรียนชาวไทย 20 เปอร์เซ็นต์ และชาวต่างชาติ 80 เปอร์เซ็นต์


นับหัวเบ็ดเสร็จ มีลูกศิษย์เข้ารับการถ่ายทอดเคล็ดวิชาโดยตรงจากลุงทอมประมาณ 70 คน และผมเป็นหนึ่งในนั้น


อยากรู้มั้ยครับ ว่าบรรยากาศการเรียนการสอนเป็นอย่างไรบ้าง


หลายคนที่เคยผ่านหลักสูตรนี้จะรู้ว่า ช่วงเช้าจะเริ่มต้นด้วยการวอร์มอัพ สร้างความคุ้นเคยกับตัวรถ ขับขี่สลาลอมผ่านกรวยที่ตั้งวางไว้ ต่อด้วยบิดวนรอบใหญ่ทั่วสนาม ผ่านอุปสรรคไล่เรียงจากยากน้อยไปยากมาก ก่อนจะหนักข้อขึ้นตามลำดับในช่วงบ่าย


โดยในระหว่างนั้นจะมีรายละเอียดยิบย่อยต่างๆ มากมาย ตั้งแต่ท่าทางการควบคุม ตำแหน่งท่านั่ง สายตาการมอง การรักษาบาล้านซ์สมดุลในการขับขี่ การใช้เบรกฉุกเฉิน ABS ในแบบบีเอ็มดับเบิลยู และอะไรๆ อีกหลายอย่างให้พวกเราได้เรียนรู้


เกือบลืมบอก คอร์สที่ผมเรียนเป็นเลเวลที่ 1 แต่ลุงทอมแกแอบยัดไส้ หยิบโจทย์ในเลเวลที่ 2 อย่างการกลับรถในพื้นที่แคบๆ ให้ลองทำด้วย ซึ่งก่อนให้ทำก็มีการสาธิตให้ดูเป็นตัวอย่าง


“ทำไมมันดูง่ายจัง” ใครคนหนึ่งอุทานขึ้น


นักเรียนผู้เข้าคอร์สอบรมในวันนั้นหลายเชื้อชาติ ได้แก่ ชาวอินเดีย สิงคโปร์ เยอรมัน แคนาดา และไทย ต่างยืนมองด้วยความทึ่ง เมื่อเห็นอาจารย์ปู่โดดขึ้น BMW R1200 GS โชว์เทคนิคการควบคุมอสูรกายคันโตได้อย่างเชื่องมือ


ซึ่งมันแลดูง่ายราวกับว่าบิ๊กไบค์ใหญ่ยักษ์ตรงหน้าเป็นส่วนหนึ่งของร่างกายของแก


และไม่ใช่แค่สถานีความยากระดับที่ 2 เท่านั้น ทั้งวันตลอดการสอน หากมองข้ามรูปลักษณ์ภายนอกหรือลืมข้อมูลเรื่องอายุไปก่อน


ทุกครั้งที่เด็กชายทอมนั่งคร่อมอยู่บนมอเตอร์ไซค์ เราจะเห็นเด็กผู้ชายคนหนึ่งสนุกกับของเล่นของเขา ในสนามเด็กเล่นของเขา และมีความสุขอยู่ในโลกของเขา


“ทุกลมหายใจของแกคือการขี่มอเตอร์ไซค์” ครูไก๋บอก หลังจบกิจกรรมการสอน


“ผมขี่มอเตอร์ไซค์ตั้งแต่อายุ 12 ปี”


ไอดอลนักบิดวัยแซยิด ตอบพร้อมรอยยิ้ม เมื่อผมถามว่าเริ่มหัดขี่รถครั้งแรกตอนไหน


“เท่าที่จำได้ มอเตอร์ไซค์คือของเล่นของผมตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา” ลุงทอม กล่าว


คอร์สกระทบไหล่ตำนาน GS Trophy พาคลุกฝุ่นที่เอ็นดูโร่ พาร์ค หากให้สรุปอย่างรวบรัด ขั้นตอนการสอนไม่ได้แตกต่างกับครั้งที่ผมเคยผ่านการขัดเกลาทักษะจากครูไก๋ ทุกอย่างเหมือนกันเป๊ะเลยครับ(จะต่างได้ยังไง ในเมื่อนี่คือมาตรฐานที่ลุงทอมเป็นผู้กำหนดหลักสูตรเองตั้งแต่แรกเริ่ม)


แล้วความพิเศษคืออะไร?


อธิบายให้เห็นภาพ ใครก็ตามที่หลงรักการเตะฟุตบอล เดิมพันสิบเอาหนึ่ง มั่นใจได้เลยว่าครั้งหนึ่งในชีวิตถ้าเลือกได้ อยากเรียนการเตะลูกกลมๆ กับซูเปอร์สตาร์คนไหน


คำตอบยุคนี้คงไม่พ้น โรนัลโด้ หรือไม่ก็ เมสซี่ หรืออาจจะเป็นเจ้าของรางวัล บัลลง ดอร์ ปีล่าสุด อย่าง ลูกา โมดริช ก็เป็นได้


เช่นกันครับ สำหรับสาวกนักบิดสายแอดเวนเจอร์ นี่คือ ไอดอลนักบิดที่แฟนคลับค่ายใบพัดสีฟ้าทั่วโลกต้องรู้จัก และอยากร่วมฝากตัวเป็นลูกศิษย์ด้วยมากที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย


ขณะเดียวกันยิ่งถ้าเป็นแฟนตัวยงของกิจกรรม GS Trophy การได้รับถ่ายทอดเทคนิคการขับขี่แบบเอ็กซ์คลูซีฟจากต้นตำรับ น่าจะเป็นประสบการณ์ที่ล้ำค่าและชวนให้จดจำได้ไม่น้อยทีเดียว


เอ๊ะ นี่ผมกำลังทำให้ใครหลายคนอิจฉาหรือเปล่า!


เกี่ยวกับสนามเอ็นดูโร่ พาร์ค ไทยแลนด์ คือ สนามฝึกทางฝุ่นแบบครบวงจรแห่งแรกและแห่งเดียวในเอเชีย ที่มีทั้งตัวสนามขับขี่ อาคารสำนักงานอเนกประสงค์ ซึ่งได้รับการออกแบบถูกต้องตามมาตรฐานสากลของบีเอ็มดับเบิลยูที่ประเทศเยอรมนี


โดยหลักสูตรที่เปิดสอนมี 3 เลเวล ไล่ตั้งแต่การปรับพื้นฐานจนถึงระดับขับขี่ท่องเที่ยวเดินทางไกลคนเดียวได้แบบหายห่วง รวมถึงเป็นศูนย์เทรนนิ่งให้กับผู้สนใจเข้าร่วมกิจกรรม GS Trophy การแข่งขันมอเตอร์ไซค์วิบากระดับโลกของ บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ด้วย


ด้านค่าใช้จ่ายสำหรับผู้ที่ใช้รถตัวเองเรียน จ่ายคนละ 7,500 บาท ส่วนลูกค้าที่กังวลกลัวพลาดแล้วรถจะเป็นรอย ที่นี่ก็มีให้บริการรถเช่าด้วย สำหรับรุ่น F 700 GS หรือ F 800 GS คันละ 4,000 บาท และรุ่น R1200 GS หรือ R1200 GS Adventure ค่าตัวเหยียบล้าน ให้เช่าเรียนเพียงคันละ 5,500 บาท และไม่ต้องจ่ายเพิ่มใดๆ ทั้งสิ้น หากตัวรถมีความเสียหายในพื้นที่เรียน


สำหรับผู้สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 082-441-0777 หรือแฟนเพจเฟซบุ๊ก facebook.com/enduropark.thailand



กำลังโหลดความคิดเห็น