xs
xsm
sm
md
lg

บทพิสูจน์...พลังแกร่ง “เรนเจอร์ แร็พเตอร์”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์




จากบทพิสูจน์สมรรถนะของ ฟอร์ด เรนเจอร์ แรพเตอร์ บนเส้นทางสุดโหด กลางทะเลทรายกว่า 1,600 กม.กับความแกร่งของเครื่องยนต์ดีเซล ไบเทอร์โบ ขนาด 2.0 ลิตร และเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด พร้อมช่วงล่างที่สมบุกสมบัน ในสไตล์ออฟโรด ผลเป็นอย่างไร..ตามมาดูกัน


ไซมอน จอห์นสัน หัวหน้าทีมพลศาสตร์ยานยนต์ของฟอร์ด ก้าวออกมาจากเรนเจอร์ แร็พเตอร์ ที่อำพรางตัวกลมกลืนกับฝุ่นสีแดงของเมืองทะเลทรายอย่างอลิซ สปริงส์ ที่กำลังหมุนวนรายรอบเป็นฉากหลัง เขายิ้มกว้างขณะถอดหมวกกันน็อคแล้วพูดว่า “ผู้คนจะได้ซื้อรถคันนี้กันจริงๆ ใช่ไหม?”





จอห์นสันและทีมงานของเขา เพิ่งกลับมาจากการทดสอบความทรหดกลางทะเลทรายบนเส้นทางกว่า 1,600 กิโลเมตร โดยใช้ความเร็วสูงสุดของการแข่งรถ ขณะที่ทีมวิศวกรของฟอร์ด มองหาอุปสรรคสุดโหดตลอดเส้นทาง เพื่อกระตุ้นให้สมรรถนะของเรนเจอร์ แร็พเตอร์ ทะยานขึ้นไปถึงจุดสูงสุด และถึงแม้จะเป็นประสบการณ์ครั้งแรกๆ ที่ได้ลองขับ จอห์นสัน ก็รู้ทันทีว่า ฟอร์ด ได้ให้กำเนิดนิยามใหม่ของยานพาหนะเพื่อการขับขี่แบบออฟโรดอย่างเต็มขั้นแล้ว


“ผมพาเรนเจอร์ แร็พเตอร์ ไปตะลุยท่ามกลางสภาพสุดทรหดเกินกว่าที่ลูกค้าคนใดๆ จะพามันไป และผมก็ทึ่งในสมรรถนะของมันเป็นอย่างมาก รถคันนี้ให้ประสบการณ์การขับขี่ที่ดี ศักยภาพของมันทำเรื่องยากให้เป็นเรื่องง่าย และยังมีเทคโนโลยีที่บรรจุอยู่ในรถคันนี้ด้วยเช่นกัน"





เรนเจอร์ แร็พเตอร์ คือ การผสมผสานระหว่างเทคโนโลยีและดีไซน์ เพื่อการขับขี่แบบออฟโรด ด้วยสมรรถนะของเครื่องยนต์ดีเซลไบเทอร์โบขนาด 2.0 ลิตรและเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด คือ หัวใจสำคัญและจิตวิญญาณ ที่มอบประสบการณ์การณ์ขับขี่ที่แตกต่างไม่เหมือนใคร


สำหรับมือใหม่หัดออฟโรด ช่วงล้อรถที่กว้างขึ้น 150 มิลลิเมตร จะช่วยให้เสถียรภาพขณะสมบุกสมบันบนความเร็วสูงได้มากยิ่งขึ้น ช่วงล่างด้านหน้า คือ ระบบกันสะเทือนอิสระปีกนกคู่ที่ผลิตจากอลูมิเนียมน้ำหนักเบา พร้อมโช้ค FOX ขนาด 2.5 นิ้ว แบบ Internal Bypass Shock และ Position Sensitive Damping ขณะที่ด้านหลังเป็นแบบคอยล์โอเวอร์ช็อคพร้อมวัตต์ลิงค์พิเศษและโช้คอัพ FOX Shocks ทั้งจานเบรคขนาดใหญ่ที่มีร่องระบายความร้อนและพวงมาลัยที่มีแถบสีแดงด้านบนตรงกลางจะช่วยให้ผู้ขับขี่ทราบว่า ล้อรถ 285/70R17 BF Goodrich กำลังมุ่งไปในทิศทางใดได้อย่างปลอดภัย





สำหรับดาเมียน รอส หัวหน้าทีมวิศวกรโปรแกรมของเรนเจอร์ แร็พเตอร์ กล่าวว่า โหมดบาฮาที่อยู่ในระบบ Terrain Management System (TMS) คือขั้นสุดยอดของประสบการณ์ขับขี่สำหรับรถรุ่นนี้



“เราได้ยกระดับระบบ TMS ที่อยู่ในเรนเจอร์ แร็พเตอร์ ให้ดีขึ้นกว่าเดิม คำว่าโหมดบาฮา ดูมีเอกลักษณ์และดีเอ็นเอเข้ากันได้เป็นอย่างดี โดยคำว่า บาฮาได้แรงบันดาลใจมาจากชื่อรถกระบะที่ใช้ในรอบก่อนลงสนามของรายการแข่งออฟโรด Baja1000 สุดโหด”


“โหมดบาฮา เราได้ปรับแต่งระบบอย่างพิถีพิถัน ระบบบางส่วนที่เคยทำงานแทรกแซงกันกลับมาประสานรวมกัน เพื่อให้ผู้ขับได้เป็นหนึ่งเดียวกับยานพาหนะและสนุกกับการขับขี่ได้เต็มขั้น”




ความเป็นรถกระบะสมรรถนะสูงที่พร้อมด้วยระบบช่วงล่างและเทคโนโลยี สร้างประโยชน์อย่างยิ่งให้กับการขับขี่ในชีวิตประจำวัน ดาเมียน รอส ไซมอน จอห์นสัน และทีมงานฟอร์ดคนอื่นๆ ที่ได้ลองขับเรนเจอร์ แร็พเตอร์ คันต้นแบบให้นิยามกับมันว่า “นุ่มนวลเหมือนพรมวิเศษ”


“การขับเรนเจอร์ แร็พเตอร์ไปทั่วเมืองเป็นไปอย่างราบรื่น ช่วงล่างของรถคอยรองรับทุกอย่าง ให้ความรู้สึกสะดวกสบาย ผ่อนคลายเหมาะสำหรับการขับขี่ในชีวิตประจำวัน คุณจะมีความสุขที่นั่งบนกระบะแสนสบาย ที่พร้อมเปลี่ยนเป็นกระบพันธุ์แกร่งความเร็วสูง และลุยได้ทุกสภาพผิวถนน มันคือ
ส่วนผสมที่ลงตัวและน่ามหัศจรรย์” รอสส์กล่าว



สำหรับไซมอน จอห์นสัน การขับขี่เรนเจอร์ แร็พเตอร์ คือ ตัวจริงเสียงจริงของคำว่าเกิดมาแกร่ง


“สมรรถนะของเรนเจอร์ แร็พเตอร์ เป็นสิ่งที่ลอกเลียนแบบกันไม่ได้ คุณไม่สามารถสร้างมันเอง ไม่สามารถประกอบหรือเชื่อมต่อเทคโนโลยีเหล่านี้เองได้ การขับขี่ที่เหนือชั้นรวมอยู่ในฐานช่วงล่าง แชสซีส์แบบใหม่ กระบะท้ายพร้อมวัตต์ลิงค์พิเศษ โช้คอัพจาก FOX shocks ระบบกันสะเทือน ระบบ Terrain Management System และโหมดบาฮา ทั้งหมดนี้ถูกออกแบบตั้งแต่ต้น ก่อร่างสร้างจนกลายเป็นเรนเจอร์ แร็พเตอร์ ที่มอบประสบการณ์การขับขี่สุดเร้าใจแบบที่ใครเทียบได้ยาก”




กำลังโหลดความคิดเห็น