ปอร์เช่ ประเทศไทย เตรียมเปิดตัว SUV สุดหรู “คาเยนน์ อี-ไฮบริด” รุ่นใหม่ล่าสุดให้แก่ลูกค้าคนไทยได้สัมผัสและเจ้าของได้ ในวันที่ 13 ก.ย. ศกนี้
บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด เตรียมเผยโฉมรถยนต์รุ่นใหม่ล่าสุด “ปอร์เช่ คาเยนน์ อี-ไฮบริด” รถเอสยูวีระดับพรีเมี่ยมที่ผสานการควบคุมสไตล์สปอร์ตกับประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องยนต์ V6 ขนาด 3.0 ลิตร (340 แรงม้า/250 กิโลวัตต์) เสริมพลังด้วยระบบขับเคลื่อนมอเตอร์ไฟฟ้า (136 แรงม้า/100 กิโลวัตต์) ให้พละกำลังสูงสุดรวมกว่า 462 แรงม้า (340 กิโลวัตต์) แรงบิดสูงสุดถึง 700 นิวตันเมตร อัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ย 29.4 - 31.2 กิโลเมตรต่อลิตร อัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 78 – 72 กรัมต่อกิโลเมตร อัตราการใช้พลังงานไฟฟ้าที่ 20.9 – 20.6 กิโลวัตต์ชั่วโมงต่อระยะทาง 100 กิโลเมตร
สำหรับแบตเตอรี่ที่ติดตั้งในรถรุ่นนี้ ได้เพิ่มความจุในการเก็บสะสมพลังงาน เสริมขีดความสามารถสำหรับระยะทางในการเดินทางและกำลังสำรองเมื่อต้องการเพิ่มอัตราเร่ง ด้วยการเพิ่มความจุแบตเตอรี่เป็น 14.1 กิโลวัตต์ต่อชั่วโมง ผ่านการระบายความร้อน Fluid-Cooled ที่ติดตั้งบริเวณพื้นตัวถังด้านท้ายรถ ทั้งสามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้เต็ม ภายใน 2.6 ชม. ด้วยระบบชาร์จมาตรฐานแบบ 3.6 กิโลวัตต์ ผ่านระบบติดต่อสื่อสาร Porsche Communication Management (PCM) พร้อมสั่งการระบบปรับอากาศอย่างสะดวกสบายจาก Porsche Connect app ที่ติดตั้งเป็นอุปกรณ์มาตรฐานเชื่อมต่อกับโทรศัพท์มือถือ
นอกจากนี้ ยังมีระบบรองรับการค้นหาและคัดกรองสถานีชาร์จพลังงาน รวมทั้งบันทึกตำแหน่งที่ตั้งของสถานีลงในจุดหมายของระบบนำทางผ่านดาวเทียม ระบบเครือข่ายการให้บริการ Porsche Charging Service ใหม่ล่าสุด เปิดโอกาสให้ผู้ขับขี่เข้าถึงสถานีบริการชาร์จพลังงาน สาธารณะได้อิสระ โดยค่าใช้จ่ายในการใช้บริการจะถูกส่งตรงมายังผู้ใช้งานผ่าน Porsche ID account ซึ่งไม่จำเป็นต้องลงทะเบียนใช้งานเพิ่มเติมกับผู้ให้บริการรายอื่นแต่อย่างใด
สำหรับระบบขับเคลื่อนไฮบริดและระบบส่งกำลังใน คาเยนน์ อี-ไฮบริด เป็นระบบใหม่ทั้งหมด โดยชุดระบบขับเคลื่อนไฮบริด ประกอบด้วยเซลล์พลังงานไฟฟ้าพร้อมชุดคลัทช์ อิสระ electromechanical ให้การตอบสนองที่รวดเร็วและฉับไวอย่างเห็นได้ชัด ส่วนระบบส่งกำลัง เป็นเกียร์อัตโนมัติอัจฉริยะ 8 จังหวะ Tiptronic S ที่ได้รับการปรับแต่งใหม่โดยเฉพาะ เพื่อให้ความนุ่มนวลและสามารถปรับเปลี่ยนอัตราทดได้อย่างรวดเร็ว ลดอาการกระตุกที่เกิดขึ้น ขณะเปลี่ยนจังหวะ
ด้านการทำงานของระบบ Porsche Traction Management (PTM) ส่งผลให้ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ all-wheel drive ของ คาเยนน์ อี-ไฮบริด ที่ควบคุมด้วยอิเล็กทรอนิกส์ ผ่านอุปกรณ์ map-controlled multiplate clutch สามารถกระจายแรงบิดไปยังล้อขับเคลื่อนได้อย่างเหมาะสม และช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถบังคับควบคุมรถได้ทุกรูปแบบการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นแบบสปอร์ตความเร็วสูงที่ต้องการเสถียรภาพการทรงตัว หรือการบุกตะลุยไปบนเส้นทางทุรกันดารสไตล์ออฟโรด ซึ่งต้องยกประโยชน์ให้ระบบรองรับและช่วงล่างที่มีประสิทธิภาพเทียบเท่ารถสปอร์ตพันธุ์แท้ เฉกเช่นปอร์เช่ คาเยนน์ ในทุกเจเนอเรชั่น ที่มีระบบควบคุมการทรงตัว Porsche Active Suspension Management (PASM) ติดตั้งเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน
พร้อมกันนี้ ยังสามารถเลือกสั่งติดตั้งอุปกรณ์พิเศษอีกหลากหลายรายการ อาทิ ระบบ Porsche Dynamic Chassis Control (PDCC), ระบบ roll stabilisation และระบบลากจูงรถต่อพ่วงที่สามารถ รับน้ำหนักได้สูงสุดถึง 3.5 ตัน
คาเยนน์ อี-ไฮบริด ได้เพิ่มเติมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกและระบบช่วยเหลือการขับขี่หลากหลายรายการ อาทิ ระบบดิจิทัลช่วยเหลือผู้ขับขี่ Porsche InnoDrive พร้อมระบบควบคุมความเร็วแปรผันอัตโนมัติ adaptive cruise control, เบาะนั่งคู่หน้าพร้อมระบบนวดไฟฟ้า massage seats, ระบบไล่ฝ้ากระจกบังลมหน้า heated windscreen, ระบบทำความร้อนภายในห้องโดยสารแยกตำแหน่ง อิสระควบคุมด้วยรีโมท และล้ออัลลอยน้ำหนักเบา ขนาด 22 นิ้ว เป็นต้น
