“มิตซูฯ” มั่นใจ “อีคลิปส์ ครอสส์/เอ็กซ์แพนเดอร์” หัวหอกในการสร้างยอด คาดปี61 ดันยอด 1.25 ล้านคัน เติบโตเพิ่ม14%
โอซามุ มาสุโกะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น เปิดเผยว่า ในปี 2561 มิตซูบิชิ ได้ตั้งเป้าเติบโตเพิ่มขึ้น 14% โดยมียอดขายรวม 1.25 ล้านคัน เมื่อเทียบกับปี 2560 โดยตลาดที่คาดว่าจะมียอดจำหน่ายเพิ่มขึ้น ได้แก่ ตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และจีน ซึ่งมีการเพิ่มกำลังการผลิตจากการร่วมทุนและการพัฒนาเครือข่าย ขณะที่ตลาดญี่ปุ่น จะมีการฟื้นฟูยอดขาย ซึ่งจะทำให้ยอดขายรวมของมิตซูบิชิเพิ่มมากขึ้น และรุ่นที่เป็นตัวหลักในการเพิ่มยอด ได้แก่ อีคลิปส์ ครอสส์ และรุ่นเอ็กซ์แพนเดอร์
ด้านแนวโน้มการดำเนินธุรกิจในปี 2561 มิตซูบิชิ คาดว่าจะมียอดขายรวมเพิ่มขึ้น 9% หรือประมาณ 7 แสนล้านบาท และตั้งเป้าผลกำไรเพิ่มขึ้น 4.6% หรือประมาณ 32,100 ล้านบาท แม้ในปีนี้จะมีปัจจัยลบในเรื่องอัตราการแลกเปลี่ยนที่คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อสภาพตลาดอย่างรุนแรงมากกว่าปีที่แล้ว
โอซามุ มาสุโกะ กล่าวว่า “เรามุ่งมั่นจะเร่งสร้างความเชื่อมั่นให้การดำเนินธุรกิจกลับคืนมา และในปี 2561 เป็นปีที่2 ภายใต้แผนธุรกิจระยะกลาง โดยมีการขยายการลงทุนอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างการเติบโตและผลกำไรแบบยั่งยืน ทั้งยังให้ความสำคัญต่อการขยายธุรกิจ และการลดต้นทุนการผลิต ซึ่งถือเป็นเป้าหมายหลักของมิตซูบิชิ”
ส่วนผลประกอบการในปี 2560 ซึ่งเป็นปีแรกในการดำเนินการตามแผนธุรกิจระยะกลาง ถือว่าเป็นปีที่ประสบความสำเร็จและบรรลุเป้าหมายที่วางไว้ โดยมีการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ 2 รุ่น ได้แก่ มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ และ มิตซูบิชิ อีคลิปส์ ครอสส์” ส่งผลทำให้มียอดขายสุทธิ ประมาณ 640,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 15% มีผลกำไรเพิ่มขึ้น 4.5% ทั้งนี้ มิตซูบิ มีรายได้สุทธิประมาณ 31,400 ล้านบาท จากการดำเนินงานในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งเดิมมิตซูบิชิประสบปัญหาขาดทุนสุทธิถึง 58,000 ล้านบาท ในปี 2559
ด้านยอดขายมิตซูบิชิทั่วโลก มีอัตราเพิ่มขึ้น 19% หรือประมาณ 1,101,000 คัน เฉพาะในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มียอดขายรวม 275,000 คัน เพิ่มขึ้น 33% เป็นผลมาจากการเติบโตของยอดขาย มิตซูบิชิ ไทรทัน ในไทย และการเปิดตัว มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ ใหม่ ในอินโดนีเซีย เมื่อกลางปีที่ผ่านมา
ขณะที่ จีน มียอดขายเพิ่มขึ้น 55% หรือจำนวน 136,000 คัน จากการตั้งศูนย์การผลิตมิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ ด้านญี่ปุ่น มีอัตราเติบโตเพิ่มขึ้น 23% มียอดขาย 98,000 คัน อันเป็นผลจากความต้องการรถเคคาร์ อีเคแวกอน, เดลิกา ดีไฟฟ์ และรถยนต์มิตซูบิชิรุ่นอื่นๆ ในตระกูลแอคทีฟเกียร์ ที่เพิ่มมากขึ้น
