xs
xsm
sm
md
lg

อินฟินิตี้บุกหนักตลาดจีน ชูภาพแบรนด์อีวีพรีเมียม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

“คิว อินสไปเรชัน” คอนเซ็ปท์คาร์ที่สะท้อนทิศทางการออกแบบรถในอนาคตของอินฟินิตี้
อินฟินิตี้ แบรนด์รถหรูในสังกัดนิสสัน มอเตอร์ ตั้งเป้าเพิ่มยอดขายอย่างน้อย 3 เท่าในจีนภายใน 5 ปี ด้วยการผลิตรถในแดนมังกรรวม 6 รุ่น ซึ่งรวมถึงรถไฟฟ้าและไฮบริด อันเป็นส่วนหนึ่งของแผนการปรับภาพลักษณ์สู่การเป็นแบรนด์รถไฟฟ้าหรูดูดีมีสไตล์แบบเดียวกับสูตรสำเร็จของเทสลา

เป้าหมายของอินฟินิตี้คือยอดขายปีละ 150,000 คันในจีนที่ได้ชื่อว่า เป็นตลาดรถใหญ่ที่สุดของโลก จากยอดขายปีที่แล้วที่เพิ่มขึ้นทำสถิติ 16% อยู่ที่ 48,000 คัน

โรแลนด์ ครูเกอร์ ประธานอินฟินิตี้ บอกว่า แม้ตลาดรถหรูเมืองจีนขยายตัวอย่างมาก มียอดขายในปีที่ผ่านมาราว 2.5 ล้านคัน แต่คิดเป็นสัดส่วนไม่ถึง 10% ของยอดขายรถทุกเซกเมนต์ ซึ่งเมื่อประกอบกับพัฒนาการที่รวดเร็วและมีพลังของรถพลังงานใหม่หรือตลาดรถเพื่อสิ่งแวดล้อมแล้ว นั่นหมายถึงโอกาสการเติบโตอย่างเหลือเฟือสำหรับอินฟินิตี้ในดินแดนหลังม่านไม้ไผ่

เขายังบอกว่า นับจากปี 2021 รถใหม่ทุกรุ่นของอินฟินิตี้จะเป็นรถไฟฟ้าหรือไฮบริด “อี-พาวเวอร์” และภายในปี 2025 กว่าครึ่งของยอดขายทั่วโลกจะมาจากอีวี (electric vehicle) ตอกย้ำแผนการที่นิสสันประกาศก่อนหน้านี้ว่า จะแปลงโฉมอินฟินิตี้เป็นบริษัทรถไฟฟ้า

อินฟินิตี้มองว่า มีโอกาสอย่างมากที่ยอดขายรถไฟฟ้าในจีนจะแตะหลักล้านคันในปีนี้ หรือเพิ่มขึ้นเกือบ 2 เท่าของยอดขายรถพลังงานใหม่ที่ 460,000-470,000 คันในปีที่ผ่านมา

ภายใน 5 ปีข้างหน้า อินฟินิตี้ปักธงผลิตรถในจีน 6 รุ่น ซึ่งเมื่อประกอบกับการผลิตรถไฟฟ้า จะช่วยส่งเสริมเป้าหมายการเพิ่มยอดขายอย่างน้อย 3 เท่าภายใน 5 ปีที่กล่าวไปข้างต้น

รถรุ่นแรกที่จะผลิตในจีนคือครอสโอเวอร์ “QX50” กำหนดออกจำหน่ายช่วงปลายปีนี้ การผลิตรถในจีนจะช่วยลดหย่อนภาษีรถยนต์นำเข้าจำนวนมาก อินฟินิตี้จึงสามารถตั้งราคาที่แข่งขันได้มากขึ้น

ปัจจุบัน อินฟินิตี้ผลิตรถในจีนเพียง 2 รุ่นคือซีดาน Q50L และ Q70L ที่โรงงานในเซียงหยางผ่านโครงการพันธมิตรระหว่างนิสสันกับตงเฟิ่ง มอเตอร์
สำหรับ QX50 นั้นจะผลิตในโรงงานที่ต้าเหลียน และพุ่งเป้าจับตลาดเอสยูวีและครอสโอเวอร์ที่มาแรงอย่างยิ่ง เฉพาะไตรมาสแรกปีนี้ทำยอดขายพุ่งทะยานถึง 11% เป็น 2.66 ล้านคัน ขณะที่ตลาดรถรวมโตแค่ 2.6%

การเปลี่ยนผ่านสู่การผลิตรถไฟฟ้าเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญจำเป็นเพื่อช่วยให้ทั้งนิสสันและอินฟินิตี้ปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านการใช้เชื้อเพลิงอย่างมีประสิทธิภาพและโควตาการผลิตรถไฟฟ้าของจีน รวมทั้งยังเป็นองค์ประกอบสำคัญในการสยายปีกของอินฟินิตี้ในแผ่นดินใหญ่

แต่ที่สำคัญกว่านั้นคือ ส่งเสริมความพยายามในการปรับเปลี่ยนภาพลักษณ์แบรนด์อินฟินิตี้ในแบบเดียวกับที่เทสลาทำสำเร็จมาแล้วคือ การเป็นผู้ผลิตรถพรีเมียมที่เป็นที่ต้องการของลูกค้าจำนวนมากด้วยรถไฟฟ้าที่หล่อเหลาเข้าตาและไม่เทอะทะ

ในจีน อาวดี้, บีเอ็มดับเบิลยู และเมอร์เซเดส เบนซ์ ร่วมกันครอบงำตลาดรถหรูมานานถึง 2 ทศวรรษ แต่ขณะที่ความต้องการรถพรีเมียมของคนจีนไต่ระดับขึ้น ผู้เล่นหน้าเดิมเหล่านั้นจึงเผชิญความท้าทายใหม่จากคาดิลแลค, เลกซัส, อาคูรา, ลินคอล์น ไปจนถึงเทสลา ที่แข่งกันลงทุนเพิ่มเพื่อชิงส่วนแบ่งตลาด

ครูเกอร์สำทับว่า ความต้องการของลูกค้าจีนเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว จากข้อมูลชี้ว่า ความสนใจในอีวีเพิ่มขึ้น 3 เท่าจากปี 2011-2016

ด้วยเหตุนี้ อินฟินิตี้จึงเตรียมรถต้นแบบ “คิว อินสไปเรชัน” ที่บ่งบอกถึงทิศทางการออกแบบรถของอินฟินิตี้ในอนาคต ไปโชว์ในมหกรรมยานยนต์ปักกิ่งที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 25 เมษายนถึง 4 พฤษภาคม

สำหรับนิสสันนั้นกำลังเดินแผนขยายตัวเชิงรุกในจีนเพื่อให้เป็นตลาดหมายเลขหนึ่งของบริษัทแทนที่อเมริกาภายใน 5 ปี โดยการเพิ่มยอดขายประจำปี 2 ใน 3 หรือ 1 ล้านคัน เป็น 2.6 ล้านคันภายในปี 2022

เพื่อให้ฝันเป็นจริง นิสสันร่วมกับตงเฟิ่งเตรียมเปิดตัวรถใหม่ 40 รุ่น ในจำนวนนี้จะเป็นอีวี 20 รุ่น จากทุกแบรนด์ตั้งแต่อินฟินิตี้, นิสสัน, เวนูเซีย จนถึงตงเฟิ่ง รวมทั้งจะขยายเครือข่ายโชว์รูมเป็นกว่า 2,000 แห่งสำหรับทุกแบรนด์ สำหรับอินฟินิตี้นั้นจะเพิ่มจาก 126 แห่ง เป็นกว่า 200 แห่ง

เป้าหมายเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนการระยะกลางที่ชื่อว่า “มูฟ ทู 2022” ที่ฮิโรโตะ ไซกาวะ ประธานนิสสันประกาศไว้เมื่อปีที่แล้ว


กำลังโหลดความคิดเห็น