จากัวร์เปิดตัว “I-Pace” ที่นอกจากจะเป็นเอสยูวีรุ่นใหม่แล้ว ยังเป็นรถไฟฟ้ารุ่นแรกของบริษัท “ที่คนตั้งตารอ” ที่สำคัญยังออกแบบมาเพื่อชนกับเทสลา โมเดล X และอีวีจากค่ายรถหรูอื่นๆ ที่กำลังจะลงตลาด อาทิ อาวดี้ อี-ตรอน และมิชชั่น อีของปอร์เช่
จุดขายของ I-Pace คือดีไซน์โดดเด่นตามสไตล์จากัวร์ ห้องโดยสารโอ่อ่า 5 ที่นั่ง และความรวดเร็วทันใจในการชาร์จ
I-Pace ที่จากัวร์เปิดตัวเมื่อวันที่ 1 ที่ผ่านมา รูปร่างหน้าตาเกือบเรียกได้ว่า ถอดมาจากต้นแบบที่แสดงในงานลอส แองเจลีส ออโต้โชว์ 2016 ไม่ผิดเพี้ยน ด้วยความสูงและเส้นสายแบบเอสยูวีผสมกลมกล่อมกับด้านข้างที่กระเดียดไปทางคูเป้
รถไฟฟ้ารุ่นแรกของจากัวร์ บริษัทรถหรูสัญชาติอังกฤษ ใช้โครงสร้างอลูมิเนียมแบบใหม่ที่รองรับแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออนขนาด 90kWh ที่ติดตั้งอยู่ตรงกลางระหว่างเพลาหน้าและเพลาหลัง ช่วยให้สามารถออกแบบรถที่มีฝากระโปรงหน้าสั้น ห้องโดยสารกว้างขวาง และด้านหลังโค้งมนลดแรงต้านอากาศ I-Pace ยังมาพร้อมล้ออัลลอยขนาด 22 นิ้ว
เอียน คอลลัม ผู้อำนวยการฝ่ายออกแบบ บอกว่า จากัวร์ต้องการออกแบบอีวีที่ถูกตาต้องใจที่สุด และเขาเชื่อว่า ความท้าทายนี้บรรลุผลแล้วจาก I-Pace ที่มีพื้นที่ห้องโดยสารขนาดพอๆ กับเอสยูวีรุ่นใหญ่ ความยาว 4,673 มม. ใกล้เคียงกับ XE ซีดานขนาดกลางของบริษัท ขณะที่โมเดล X ของเทสลายาว 5,084 มม.
มอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัวติดตั้งอยู่ที่เพลาหน้าและเพลาหลังทำให้ I-Pace เป็นรถขับเคลื่อน 4 ล้อ ขุมพลังรวม 395 แรงม้า แรงบิด 695 นิวตันเมตร สามารถทำความเร็วจาก 0-60 ไมล์ต่อชม. (0-96 กม./ชม.) ภายใน 4.5 วินาที
แบตเตอรี่ชาร์จได้ 80% โดยใช้เวลา 1 ชั่วโมง 25 นาที ด้วยตัวชาร์จกำลัง 50 kW นอกจากนั้นยังรองรับตัวชาร์จ 100 kW ซึ่งสามารถชาร์จได้ 80% ภายใน 40 นาที แต่ถ้าชาร์จไฟที่บ้านต้องเผื่อเวลากันยาวๆ 10 ชั่วโมง
ระยะขับเคลื่อนรวมของ I-Pace อยู่ที่ 480 กิโลเมตรจากการชาร์จครั้งเดียวตามการทดสอบของ WLTP ซึ่งเป็นโปรโตคอลใหม่ที่เริ่มมาแทนที่ NEDC ในยุโรปตั้งแต่เดือนกันยายนปีที่แล้ว
คันเร่งและเบรกของ I-Pace จะอยู่ในแป้นเดียวกัน เช่นเดียวกับบีเอ็มดับเบิลยู i3 และนิสสัน ลีฟ
เทคโนโลยีใหม่ยังรวมถึงระบบอินโฟเทนเมนต์ “ทัช โปร ดูโอ” ที่ทำให้เอสยูวีไฟฟ้ารุ่นนี้เป็นรถรุ่นแรกของจากัวร์ที่สามารถรับอัพเดตซอฟต์แวร์อัตโนมัติผ่านระบบ “over-the-air"
ระบบนำทางผ่านดาวเทียมจะจัดเก็บข้อมูลการเดินทางที่ผ่านมา รวมทั้งสไตล์การขับขี่ส่วนตัว และประเมินข้อมูลเหล่านั้นโดยเปรียบเทียบกับลักษณะภูมิประเทศเพื่อคำนวณระยะทางวิ่งคงเหลืออย่างแม่นยำยิ่งขึ้น หน้าปัดดิจิตอลจัดวางอย่างลงตัวด้านหน้าคนขับ และอินเทอร์เฟซทัชสกรีนอยู่ตรงกลางแผงหน้าปัด
นอกจากนี้ I-Pace ยังติดตั้ง “อเล็กซา” แอปพลิเคชันที่ควบคุมด้วยเสียงของแอมะซอน และสามารถใช้งานร่วมกับ “จากัวร์ อินคอนโทรล รีโมท แอป” ช่วยให้คนขับเช็คสถานะรถจากระยะไกล เช่น ตำแหน่งที่จอด แบตเตอรี่คงเหลือ การล็อครถ หรือสถานีชาร์จใกล้ที่สุด
ข่าวบอกว่า จากัวร์ที่ปัจจุบันเป็นบริษัทในเครือของทาทา มอเตอร์จากอินเดีย น่าจะตั้งราคาเริ่มต้นของ I-Pace ไว้ที่ 70,000 ดอลลาร์สำหรับรุ่น S ตัดราคาโมเดล X รุ่นถูกที่สุด โดยจะมีให้เลือกทั้งหมด 4 รุ่น ได้แก่ S, SE, HSE และ ‘First Edition’
จากัวร์กำหนดฤกษ์จัดส่ง I-Pace ตั้งแต่เดือนกรกฏาคมเป็นต้นไป ตัดหน้าบริษัทรถหรูเยอรมันที่หันมาผลิตรถไฟฟ้าเช่นกัน อาทิ อาวดี้ที่เตรียมเปิดตัวเอสยูวีไฟฟ้า “อี-ตรอน” ในช่วงฤดูร้อน ขณะที่ซีดาน “มิชชั่น อี” ของปอร์เช่คาดว่า จะลงตลาดปลายปีนี้