นิสสัน เผยโฉมรถยนต์ต้นแบบครอสโมชัน (Xmotion) ในงาน 2018 North American International Auto Show ที่สะท้อนแนวคิดของการออกแบบในอนาคตของรถยนต์เอนกประสงค์ต้นแบบที่สานต่อประวัติศาสตร์อันยาวนานของนิสสันในกลุ่มครอสโอเวอร์และรถยนต์เอนกประสงค์
เปิดตัวครั้งแรกสำหรับ ครอสโมชัน ที่จัดขึ้น ณ เมืองดีทรอยท์ ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมของชาวญี่ปุ่นและความประณีตศิลป์แบบดั้งเดิม การออกแบบสไตล์อเมริกันและเทคโนโลยีนิสสัน ทั้งนี้รถยนต์เอนกประสงค์ ครอสโมชัน มีทั้งหมด 6 ที่นั่ง แบ่งเป็น 3 แถว
แนวคิดของ ครอสโมชัน เน้นที่การแสดงพลังและความแข็งแรงของนิสสัน อินเทลลิเจ้นท์ โมบิลิตี้ ความดุดันและทรงพลังนี้เป็นองค์ประกอบที่รวมอยู่ในความประณีต นุ่มนวล สไตล์ญี่ปุ่นได้อย่างลงตัว
นาย อัลฟองโซ อัลไบซา รองประธานอาวุโส ฝ่ายการออกแบบของนิสสัน กล่าว การดีไซน์ภายนอกของครอสโมชัน ผสานแนวคิดแบบตะวันตกและตะวันออกเข้าเด้วยกัน สะท้อนผ่านเทคโนโลยีการขับขี่อัตโนมัติ และเทคโนโลยีการเชื่อมต่ออัจฉริยะรวมไปถึงศิลปะยุคดิจิทัล มองแบบผิวเผิน ครอสโมชัน อาจมีดีไซน์การออกแบบที่เรียบง่ายธรรมดา แต่ถ้ามองเพิ่มเติมจะพบกับรายละเอียดที่ซับซ้อนซึ่งเปี่ยมไปด้วยความโดดเด่น เร้าใจ ทิศทางการออกแบบในอนาคตที่มาพร้อมดีไซน์ภายนอกที่ดูปราดเปรียว ด้านหน้าเป็นรูปทรงตัวยู (U-shaped highlights) และการปรับปรุงกระจงหน้าแบบ V-Motion ที่ดูบึกบึนและทรงพลัง
รูปลักษณ์ภายนอกที่เรียบง่ายสง่างามของ “ครอสโมชัน” จะตัดกับซุ้มล้อเหล็กและยางที่สามารถได้กับทุกสภาพถนน ภายใต้การออกแบบมาอย่างดีให้เป็นชิ้นเดียวกัน ยางจะดูเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับล้ออลูมิเนียม อัลลอยขนาด 21 นิ้ว นอกจากนี้ ภายนอกของ “ครอสโมชัน” ยังโดดเด่นด้วยที่เก็บสัมภาระบนหลังคา หรือ rooftop box ที่มีดีไซน์อันโดดเด่นรวมถึงไฟท้ายที่ได้แรงบันดาลใจจากงานไม้ของญี่ปุ่นอีกด้วย ด้วยฐานล้อที่ยาว ประกอบกับล้อและยางที่ได้รับการวางให้ตำแหน่งอยู่ที่ริมด้านนอก ทำให้เกิดการจัดวางที่นั่ง "4+2" ในรูปแบบใหม่ โดยมาในรูปแบบที่นั่งแถวคู่ 3 ตอน ซึ่งเหมาะสำหรับครอบครัว หรือคู่รัก ที่มีลูก 2 คน หรือแม้กระทั่งสำหรับสัตว์เลี้ยงด้านการออกแบบภายในของ “ครอสโมชัน” ได้รับอิทธิพลจากรูปแบบภูมิทัศน์ของญี่ปุ่น ที่ตอกย้ำรากฐานของความเป็นนิสสัน ในขณะที่มีการใช้กราฟฟิคล้ำสมัยรวมถึงเทคโนโลยีการขับขี่อัตโนมัติ
ห้องโดยสารภายในได้รับแรงบันดาลใจมาจากแม่น้ำ โดยมีคอนโซลกลาง ซึ่งเป็นหัวใจของการออกแบบภายใน ที่เป็นเสมือนสะพานพาดวางตั้งแต่ส่วนหน้าไปจนถึงส่วนท้ายของรถ โดยใช้เทคนิคการเชื่อมไม้แบบตัวต่อ “kanawa tsugi” ซึ่งมักพบในการสร้างวัดและศาลเจ้าของชาวญี่ปุ่น ส่วนแผงหน้าปัดของ “ครอสโมชัน” ปรับใช้เทคนิคการเชื่อมไม้แบบ Kigumi สะท้อนให้เห็นความแข็งแรงของโครงสร้าง ให้ความรู้สึกถึงความแข็งแกร่งและความน่าเชื่อถือ
ไม่เพียงเท่านี้ ครอสโมชัน ยังมาพร้อมหน้าจอดิจิทัล 7 จุด ได้แก่ หน้าจอขนาดยาวบริเวณหน้ารถ ซึ่งประกอบด้วย หน้าจอหลักทั้งหมด 3 จอ พร้อมจอซ้ายและขวา รวมถึง digital room mirror บริเวณเพดานและแผงคอนโซลกลางระบบแสดงผลและข้อมูลสามารถควบคุมได้โดยใช้ท่าทางและการเคลื่อนไหวของดวงตา ด้วยการควบคุมที่ชาญฉลาดและการสั่งงานด้วยเสียง ทำให้ผู้ขับขี่สามารถมีสมาธิในการขับรถ และเข้าถึงข้อมูลต่างๆ ได้อย่างสะดวกและปลอดภัย
เพื่อการใช้งานที่ดี ครอสโมชัน สามารถขับขี่ได้ในชีวิตประจำวันและสามารถเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวได้ทุกเมื่อที่ต้องการ
เปิดตัวครั้งแรกสำหรับ ครอสโมชัน ที่จัดขึ้น ณ เมืองดีทรอยท์ ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมของชาวญี่ปุ่นและความประณีตศิลป์แบบดั้งเดิม การออกแบบสไตล์อเมริกันและเทคโนโลยีนิสสัน ทั้งนี้รถยนต์เอนกประสงค์ ครอสโมชัน มีทั้งหมด 6 ที่นั่ง แบ่งเป็น 3 แถว
แนวคิดของ ครอสโมชัน เน้นที่การแสดงพลังและความแข็งแรงของนิสสัน อินเทลลิเจ้นท์ โมบิลิตี้ ความดุดันและทรงพลังนี้เป็นองค์ประกอบที่รวมอยู่ในความประณีต นุ่มนวล สไตล์ญี่ปุ่นได้อย่างลงตัว
นาย อัลฟองโซ อัลไบซา รองประธานอาวุโส ฝ่ายการออกแบบของนิสสัน กล่าว การดีไซน์ภายนอกของครอสโมชัน ผสานแนวคิดแบบตะวันตกและตะวันออกเข้าเด้วยกัน สะท้อนผ่านเทคโนโลยีการขับขี่อัตโนมัติ และเทคโนโลยีการเชื่อมต่ออัจฉริยะรวมไปถึงศิลปะยุคดิจิทัล มองแบบผิวเผิน ครอสโมชัน อาจมีดีไซน์การออกแบบที่เรียบง่ายธรรมดา แต่ถ้ามองเพิ่มเติมจะพบกับรายละเอียดที่ซับซ้อนซึ่งเปี่ยมไปด้วยความโดดเด่น เร้าใจ ทิศทางการออกแบบในอนาคตที่มาพร้อมดีไซน์ภายนอกที่ดูปราดเปรียว ด้านหน้าเป็นรูปทรงตัวยู (U-shaped highlights) และการปรับปรุงกระจงหน้าแบบ V-Motion ที่ดูบึกบึนและทรงพลัง
รูปลักษณ์ภายนอกที่เรียบง่ายสง่างามของ “ครอสโมชัน” จะตัดกับซุ้มล้อเหล็กและยางที่สามารถได้กับทุกสภาพถนน ภายใต้การออกแบบมาอย่างดีให้เป็นชิ้นเดียวกัน ยางจะดูเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับล้ออลูมิเนียม อัลลอยขนาด 21 นิ้ว นอกจากนี้ ภายนอกของ “ครอสโมชัน” ยังโดดเด่นด้วยที่เก็บสัมภาระบนหลังคา หรือ rooftop box ที่มีดีไซน์อันโดดเด่นรวมถึงไฟท้ายที่ได้แรงบันดาลใจจากงานไม้ของญี่ปุ่นอีกด้วย ด้วยฐานล้อที่ยาว ประกอบกับล้อและยางที่ได้รับการวางให้ตำแหน่งอยู่ที่ริมด้านนอก ทำให้เกิดการจัดวางที่นั่ง "4+2" ในรูปแบบใหม่ โดยมาในรูปแบบที่นั่งแถวคู่ 3 ตอน ซึ่งเหมาะสำหรับครอบครัว หรือคู่รัก ที่มีลูก 2 คน หรือแม้กระทั่งสำหรับสัตว์เลี้ยงด้านการออกแบบภายในของ “ครอสโมชัน” ได้รับอิทธิพลจากรูปแบบภูมิทัศน์ของญี่ปุ่น ที่ตอกย้ำรากฐานของความเป็นนิสสัน ในขณะที่มีการใช้กราฟฟิคล้ำสมัยรวมถึงเทคโนโลยีการขับขี่อัตโนมัติ
ห้องโดยสารภายในได้รับแรงบันดาลใจมาจากแม่น้ำ โดยมีคอนโซลกลาง ซึ่งเป็นหัวใจของการออกแบบภายใน ที่เป็นเสมือนสะพานพาดวางตั้งแต่ส่วนหน้าไปจนถึงส่วนท้ายของรถ โดยใช้เทคนิคการเชื่อมไม้แบบตัวต่อ “kanawa tsugi” ซึ่งมักพบในการสร้างวัดและศาลเจ้าของชาวญี่ปุ่น ส่วนแผงหน้าปัดของ “ครอสโมชัน” ปรับใช้เทคนิคการเชื่อมไม้แบบ Kigumi สะท้อนให้เห็นความแข็งแรงของโครงสร้าง ให้ความรู้สึกถึงความแข็งแกร่งและความน่าเชื่อถือ
ไม่เพียงเท่านี้ ครอสโมชัน ยังมาพร้อมหน้าจอดิจิทัล 7 จุด ได้แก่ หน้าจอขนาดยาวบริเวณหน้ารถ ซึ่งประกอบด้วย หน้าจอหลักทั้งหมด 3 จอ พร้อมจอซ้ายและขวา รวมถึง digital room mirror บริเวณเพดานและแผงคอนโซลกลางระบบแสดงผลและข้อมูลสามารถควบคุมได้โดยใช้ท่าทางและการเคลื่อนไหวของดวงตา ด้วยการควบคุมที่ชาญฉลาดและการสั่งงานด้วยเสียง ทำให้ผู้ขับขี่สามารถมีสมาธิในการขับรถ และเข้าถึงข้อมูลต่างๆ ได้อย่างสะดวกและปลอดภัย
เพื่อการใช้งานที่ดี ครอสโมชัน สามารถขับขี่ได้ในชีวิตประจำวันและสามารถเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวได้ทุกเมื่อที่ต้องการ
