จริงๆแล้วตลาดทั่วโลกคุ้นเคยกับหน้าตาของซี-เอชอาร์กันมาก่อน เพราะผลผลิตแรกที่โตโยต้าผลิตออกสู่ตลาดคือการเป็นรถยนต์ต้นแบบที่ออกจัดแสดงในงาน “ปารีส มอเตอร์โชว์ 2557 ” และ “แฟรงเฟิร์ต มอเตอร์โชว์ 2558 ” ก่อนที่โตโยต้าจะตัดสินใจขึ้นสายการผลิตในที่สุด และเริ่มทยอยทำตลาดทั่วโลกมาตั้งแต่ต้นปี 2560
สำหรับประเทศไทย ล่าสุด โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย เตรียมที่จะนำซี-เอชอาร์ มาโชว์ในงานมหกรรมรถยนต์ ครั้งที่ 34 หรือ มอเตอร์เอ็กซ์โป ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 30 พฤศจิกายน-11 ธันวาคม 2560 ณ ชาลเลนเจอร์ เมืองทองธานี โดยรถที่นำมาโชว์ให้ลูกค้าคนไทยชมมีด้วยกัน 2 สี คือสีแดงและสีน้ำเงิน พร้อมเปิดให้ลูกค้าที่สนใจจองสิทธิ์ได้ก่อนโดยไม่เก็บเงินแต่อย่างใด เพราะทางโตโยต้าจะยังไม่มีการประกาศราคาจำหน่ายออกมา ส่วนวันเวลาที่จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการคือปีหน้า
ก่อนที่จะเปิดตัวในปีหน้าทางโตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทยเชิญสื่อมวลชนไทยกว่า 10 ฉบับ ร่วมสัมผัสคันจริงโตโยต้า ซี-เอชอาร์ เครื่องยนต์ไฮบริด ณ ประเทศญี่ปุ่น ภายใต้กิจกรรมที่ชื่อว่า Hybrid &TNGA Riding Experience เพียงแต่ทริบนี้ สื่อมวลชนไม่ได้มีโอกาสได้ทดลองขับ เนื่องจากรถซี-เอชอาร์ ที่ทางโตโยต้า ญี่ปุ่น เตรียมไว้เป็นสเปกญี่ปุ่น ไม่เหมือนกับในบ้านเรา สื่อมวลชนไทยจึงได้แค่นั่งเป็นประสบการณ์ทั้งในสนามแข่งรถ Central Circuit และบนถนนจริง โดยมีนักแข่งรถชาวญี่ปุ่นเป็นผู้ขับให้
อันดับแรกของกิจกรรมนี้คือสื่อมวลชนต้องเข้าห้องเรียนเพื่อเรียนรู้ถึงโครงสร้างพื้นฐานของรถยนต์ใหม่ TNGA (Toyota New Global Architecture) และระบบการขับเคลื่อนแบบไฮบริด ที่ได้พัฒนามาถึงเจนเนอเรชันที่ 4 ซึ่งผลผลิตของเทคโนโลยีใหม่ทั้ง 2 อย่างดังกล่าวจะอยู่ในรถซี-เอชอาร์ ไฮบริด คันนี้ และแน่นอนคนไทยก็จะได้สัมผัสเช่นกัน เพราะเครื่องยนต์ไฮบริด เป็นหนึ่งเครื่องยนต์ของรถซี-เอชอาร์ ที่จะจำหน่ายในบ้านเรา
นายโทโมยูกิ ฮอนดะ Managing Supervisor Product Planning Division เปิดเผยว่า ซี-เอชอาร์ เป็นผลผลิตที่ได้รับการพัฒนาบนพื้นตัวถังรุ่นใหม่ของโตโยต้าที่มีชื่อเรียกว่า TNGA หรือ (Toyota New Global Architecture) ด้วยการมุ่งพัฒนาพื้นฐานรถยนต์ให้มีความยืดหยุ่นสูงสามารถนำไปใช้ในรถหลากรุ่นหลายแบบไม่ว่าจะเป็นซี-เอชอาร์ หรือแคมรี่ใหม่ ที่จะเปิดตัวในปีหน้า รวมถึงรถโตโยต้าในอีก 10 ปีข้างหน้าด้วย
โครงสร้างพื้นฐานรถยนต์ใหม่ TNGA คือเทคโนโลยีโครงสร้างของรถที่ผสานการทำงานในทุกชิ้นส่วนให้เป็นหนึ่งเดียว ผลลัพธ์ที่ได้จะทำให้การขับขี่ที่คล่องตัวและสนุกขึ้น ส่วนช่วงล่างทีดีขึ้นทำให้สามารถควบคุมรถได้อย่างมั่นใจ แต่ยังคงให้ความสบายทุกการขับขี่ของผู้ขับและการนั่งของผู้โดยสาร นอกจากนี้โครงสร้าง TNGA ยังรวมถึงการพัฒนาชิ้นส่วนของตัวรถให้มีความแข็งแรงมากขึ้นเพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสาร และจากการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ทำให้ตัวถังแข็งแกร่งขึ้นถึง 60 % และยังรวมไปถึงการออกแบบรูปแบบใหม่ ทำให้รถโตโยต้าเป็นที่จับตามมองเมื่อขับขี่
“เป้าหมายของเราคือการสร้างยนตรกรรมที่เหนือความคาดหมายของลูกค้าทุกครั้ง หากเราคอยนำเสนอตัวเองในรูปแบบใหม่ และเสนอเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่อยู่เสมอ เราจะยังคงเป็นผู้นำต่อไปและสิ่งตอบแทนที่ได้รับคือ ลูกค้าพึงพอใจและยิ้มออกทุกครั้งที่นั่งรถโตโยต้า ”
อย่างที่กล่าวข้างต้นรถซี-เอชอาร์ ที่พวกเราจะได้สัมผัสเป็นรถรุ่นไฮบริด ซึ่งทางผู้บริหารของโตโยต้า มอเตอร์ ประเทศญี่ปุ่นได้อธิบายถึง ระบบไฮบริดใหม่ ที่นำมาใช้กับซี-เอชอาร์ รุ่นนี้ว่า ระบบไฮบริด ใหม่ (New Hybrid) คือพลังงานไฟฟ้าที่ให้กับรถได้ไม่มีวันหมด สะท้อนแนวคิดหลัก Kaizen ที่ถูกพัฒนาสมรรถนะมาอย่างต่อเนื่องจนมาถึงรุ่นที่ 4 ให้เหมาะสมกับการใช้งานในชีวิตประจำวันได้มากขึ้น โดยปรับปรุงประสิทธิภาพในการชาร์จและจ่ายพลังงานไฟฟ้าในปริมาณที่มากขึ้นและเร็วขึ้น ทำให้สามารถใช้งานในโหมดพลังงานไฟฟ้าได้นานขึ้นและประหยัดเชื้อเพลิงมากกว่ารุ่นก่อน
อีกทั้งยังปรับปรุงน้ำหนักของแบตเตอรี่ให้เบาลง ทำให้สามารถจัดสรรพื้นที่ภายในได้อย่างลงตัว นอกจากนี้วัสดุของแบตเตอรี่ที่เป็น Nickel Metal Hydride ยังถูกพัฒนาประสิทธิภาพให้ทัดเทียมกับคู่แข่ง และเหนือกว่าที่สามารถรีไซเคิลได้ 100 % ทำให้ไม่สร้างมลพิษต่อโลก ระบบไฮบริดใหม่เป็นความภาคภูมิใจของโตโยต้าที่มีบทพิสูจน์ของความนิยมจากผู้ใช้จริงทั่วโลกกว่า 10 ล้านคัน
ดังนั้นโตโยต้า ซี-เอชอาร์ ไฮบริด ที่พวกเราได้สัมผัสในทริปนี้และเตรียมไปจำหน่ายในบ้านเรา จะเป็นตัวแทนของโตโยต้าในยุคใหม่ ที่ตั้งใจนำเสนอการผสานของแนวคิดดั้งเดิมของโตโยต้ากับการออกแบบและเทคโนโลยีใหม่ได้อย่างลงตัวและสมบูรณ์แบบ ทั้งนี้เพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตของผู้คนทุกยุคทุกสมัย โดยเฉพาะหนุ่ม-สาว สมัยใหม่ที่มีวิถีชีวิตหลากหลาย
อย่างไรก็ตาม ซี-เอชอาร์ ถือเป็นรถอเนกประสงค์ในรูปแบบ SUV ที่น่าจะตอบโจทย์ชีวิตคนเมืองได้ดีด้วยรูปทรงที่สวยสะดุดตา สไตล์สปอร์ต ภายใต้แนวคิด Sensual Speed-Cross ซึ่งเน้นเส้นสายบนตัวถังในแบบ Coupe-Like หรือตัวถังทีมีรูปทรงปราดเปรียวจนดูผ่าน ๆ แล้วเหมือนกับรถสปอร์ต 2 ประตู โดยภายใต้ตัวถังที่มี 5 ประตูนั้น ประตูบานท้ายจะถูกออกแบบให้มีขนาดสั้นและลดระดับความสูงไปตามแนวของหลังคา อีกทั้งยังย้ายมือเปิดประตูจากเดิมที่อยู่บนบานประตูเหมือนกับรถยนต์ปกติไปอยู่ที่ด้านข้างของกระจกหน้าต่าง โดยขนาดตัวถังของ ซีเอช-อาร์ มาพร้อมกับความยาวในระดับ 4,360 มิลลิเมตร กว้าง 1,795 มิลลิเมตร สูง 1,555 มิลลิเมตร และระยะฐานล้อ 2,640 มิลลิเมตร
สำหรับขุมพลังของซีเอช-อาร์ มีหลายหลากเครื่องยนต์ แต่ที่จะมาขายในเมืองไทยคาดว่าน่าจะมี 2 รุ่นให้เลือกคือ เบนซิน 1,800 ซีซี และเครื่องยนต์ไฮบริด 1,800 ซีซี ซึ่งจะว่าไปแล้วการนำระบบไฮบริดมาใช้กับรถยนต์รุ่นนี้เพื่อนำเสนอทางเลือกที่ประหยัดและลดมลพิษ ซึ่งระบบไฮบริดรุ่นนี้จะให้ความประหยัดในระดับ 3.6 ลิตร/100 กิโลเมตร หรือ 27.7 กิโลเมตร/ลิตร
ถึงบรรทัดนี้ก็ต้องบอกว่าลองไปชมตัวเป็นๆ กันก่อนที่งานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 34 ต้นเดือนหน้า ...แต่เชื่อได้เลยว่า... งานนี้เสียเงินแน่นอน
แจกบัตร มอเตอร์ เอ็กซ์โป ท่านละ 2 ใบ ติดต่อรับได้ที่โอปอเรเตอร์ บ้านเจ้าพระยา โทร.02-629-4488 ในเวลาทำการ 8.30-17.30 น.
***บัตรเข้างานใช้ได้วันที่ 1-11 ธค. 2560 ***
สำหรับประเทศไทย ล่าสุด โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย เตรียมที่จะนำซี-เอชอาร์ มาโชว์ในงานมหกรรมรถยนต์ ครั้งที่ 34 หรือ มอเตอร์เอ็กซ์โป ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 30 พฤศจิกายน-11 ธันวาคม 2560 ณ ชาลเลนเจอร์ เมืองทองธานี โดยรถที่นำมาโชว์ให้ลูกค้าคนไทยชมมีด้วยกัน 2 สี คือสีแดงและสีน้ำเงิน พร้อมเปิดให้ลูกค้าที่สนใจจองสิทธิ์ได้ก่อนโดยไม่เก็บเงินแต่อย่างใด เพราะทางโตโยต้าจะยังไม่มีการประกาศราคาจำหน่ายออกมา ส่วนวันเวลาที่จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการคือปีหน้า
ก่อนที่จะเปิดตัวในปีหน้าทางโตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทยเชิญสื่อมวลชนไทยกว่า 10 ฉบับ ร่วมสัมผัสคันจริงโตโยต้า ซี-เอชอาร์ เครื่องยนต์ไฮบริด ณ ประเทศญี่ปุ่น ภายใต้กิจกรรมที่ชื่อว่า Hybrid &TNGA Riding Experience เพียงแต่ทริบนี้ สื่อมวลชนไม่ได้มีโอกาสได้ทดลองขับ เนื่องจากรถซี-เอชอาร์ ที่ทางโตโยต้า ญี่ปุ่น เตรียมไว้เป็นสเปกญี่ปุ่น ไม่เหมือนกับในบ้านเรา สื่อมวลชนไทยจึงได้แค่นั่งเป็นประสบการณ์ทั้งในสนามแข่งรถ Central Circuit และบนถนนจริง โดยมีนักแข่งรถชาวญี่ปุ่นเป็นผู้ขับให้
อันดับแรกของกิจกรรมนี้คือสื่อมวลชนต้องเข้าห้องเรียนเพื่อเรียนรู้ถึงโครงสร้างพื้นฐานของรถยนต์ใหม่ TNGA (Toyota New Global Architecture) และระบบการขับเคลื่อนแบบไฮบริด ที่ได้พัฒนามาถึงเจนเนอเรชันที่ 4 ซึ่งผลผลิตของเทคโนโลยีใหม่ทั้ง 2 อย่างดังกล่าวจะอยู่ในรถซี-เอชอาร์ ไฮบริด คันนี้ และแน่นอนคนไทยก็จะได้สัมผัสเช่นกัน เพราะเครื่องยนต์ไฮบริด เป็นหนึ่งเครื่องยนต์ของรถซี-เอชอาร์ ที่จะจำหน่ายในบ้านเรา
นายโทโมยูกิ ฮอนดะ Managing Supervisor Product Planning Division เปิดเผยว่า ซี-เอชอาร์ เป็นผลผลิตที่ได้รับการพัฒนาบนพื้นตัวถังรุ่นใหม่ของโตโยต้าที่มีชื่อเรียกว่า TNGA หรือ (Toyota New Global Architecture) ด้วยการมุ่งพัฒนาพื้นฐานรถยนต์ให้มีความยืดหยุ่นสูงสามารถนำไปใช้ในรถหลากรุ่นหลายแบบไม่ว่าจะเป็นซี-เอชอาร์ หรือแคมรี่ใหม่ ที่จะเปิดตัวในปีหน้า รวมถึงรถโตโยต้าในอีก 10 ปีข้างหน้าด้วย
โครงสร้างพื้นฐานรถยนต์ใหม่ TNGA คือเทคโนโลยีโครงสร้างของรถที่ผสานการทำงานในทุกชิ้นส่วนให้เป็นหนึ่งเดียว ผลลัพธ์ที่ได้จะทำให้การขับขี่ที่คล่องตัวและสนุกขึ้น ส่วนช่วงล่างทีดีขึ้นทำให้สามารถควบคุมรถได้อย่างมั่นใจ แต่ยังคงให้ความสบายทุกการขับขี่ของผู้ขับและการนั่งของผู้โดยสาร นอกจากนี้โครงสร้าง TNGA ยังรวมถึงการพัฒนาชิ้นส่วนของตัวรถให้มีความแข็งแรงมากขึ้นเพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสาร และจากการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ทำให้ตัวถังแข็งแกร่งขึ้นถึง 60 % และยังรวมไปถึงการออกแบบรูปแบบใหม่ ทำให้รถโตโยต้าเป็นที่จับตามมองเมื่อขับขี่
“เป้าหมายของเราคือการสร้างยนตรกรรมที่เหนือความคาดหมายของลูกค้าทุกครั้ง หากเราคอยนำเสนอตัวเองในรูปแบบใหม่ และเสนอเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่อยู่เสมอ เราจะยังคงเป็นผู้นำต่อไปและสิ่งตอบแทนที่ได้รับคือ ลูกค้าพึงพอใจและยิ้มออกทุกครั้งที่นั่งรถโตโยต้า ”
อย่างที่กล่าวข้างต้นรถซี-เอชอาร์ ที่พวกเราจะได้สัมผัสเป็นรถรุ่นไฮบริด ซึ่งทางผู้บริหารของโตโยต้า มอเตอร์ ประเทศญี่ปุ่นได้อธิบายถึง ระบบไฮบริดใหม่ ที่นำมาใช้กับซี-เอชอาร์ รุ่นนี้ว่า ระบบไฮบริด ใหม่ (New Hybrid) คือพลังงานไฟฟ้าที่ให้กับรถได้ไม่มีวันหมด สะท้อนแนวคิดหลัก Kaizen ที่ถูกพัฒนาสมรรถนะมาอย่างต่อเนื่องจนมาถึงรุ่นที่ 4 ให้เหมาะสมกับการใช้งานในชีวิตประจำวันได้มากขึ้น โดยปรับปรุงประสิทธิภาพในการชาร์จและจ่ายพลังงานไฟฟ้าในปริมาณที่มากขึ้นและเร็วขึ้น ทำให้สามารถใช้งานในโหมดพลังงานไฟฟ้าได้นานขึ้นและประหยัดเชื้อเพลิงมากกว่ารุ่นก่อน
อีกทั้งยังปรับปรุงน้ำหนักของแบตเตอรี่ให้เบาลง ทำให้สามารถจัดสรรพื้นที่ภายในได้อย่างลงตัว นอกจากนี้วัสดุของแบตเตอรี่ที่เป็น Nickel Metal Hydride ยังถูกพัฒนาประสิทธิภาพให้ทัดเทียมกับคู่แข่ง และเหนือกว่าที่สามารถรีไซเคิลได้ 100 % ทำให้ไม่สร้างมลพิษต่อโลก ระบบไฮบริดใหม่เป็นความภาคภูมิใจของโตโยต้าที่มีบทพิสูจน์ของความนิยมจากผู้ใช้จริงทั่วโลกกว่า 10 ล้านคัน
ดังนั้นโตโยต้า ซี-เอชอาร์ ไฮบริด ที่พวกเราได้สัมผัสในทริปนี้และเตรียมไปจำหน่ายในบ้านเรา จะเป็นตัวแทนของโตโยต้าในยุคใหม่ ที่ตั้งใจนำเสนอการผสานของแนวคิดดั้งเดิมของโตโยต้ากับการออกแบบและเทคโนโลยีใหม่ได้อย่างลงตัวและสมบูรณ์แบบ ทั้งนี้เพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตของผู้คนทุกยุคทุกสมัย โดยเฉพาะหนุ่ม-สาว สมัยใหม่ที่มีวิถีชีวิตหลากหลาย
อย่างไรก็ตาม ซี-เอชอาร์ ถือเป็นรถอเนกประสงค์ในรูปแบบ SUV ที่น่าจะตอบโจทย์ชีวิตคนเมืองได้ดีด้วยรูปทรงที่สวยสะดุดตา สไตล์สปอร์ต ภายใต้แนวคิด Sensual Speed-Cross ซึ่งเน้นเส้นสายบนตัวถังในแบบ Coupe-Like หรือตัวถังทีมีรูปทรงปราดเปรียวจนดูผ่าน ๆ แล้วเหมือนกับรถสปอร์ต 2 ประตู โดยภายใต้ตัวถังที่มี 5 ประตูนั้น ประตูบานท้ายจะถูกออกแบบให้มีขนาดสั้นและลดระดับความสูงไปตามแนวของหลังคา อีกทั้งยังย้ายมือเปิดประตูจากเดิมที่อยู่บนบานประตูเหมือนกับรถยนต์ปกติไปอยู่ที่ด้านข้างของกระจกหน้าต่าง โดยขนาดตัวถังของ ซีเอช-อาร์ มาพร้อมกับความยาวในระดับ 4,360 มิลลิเมตร กว้าง 1,795 มิลลิเมตร สูง 1,555 มิลลิเมตร และระยะฐานล้อ 2,640 มิลลิเมตร
สำหรับขุมพลังของซีเอช-อาร์ มีหลายหลากเครื่องยนต์ แต่ที่จะมาขายในเมืองไทยคาดว่าน่าจะมี 2 รุ่นให้เลือกคือ เบนซิน 1,800 ซีซี และเครื่องยนต์ไฮบริด 1,800 ซีซี ซึ่งจะว่าไปแล้วการนำระบบไฮบริดมาใช้กับรถยนต์รุ่นนี้เพื่อนำเสนอทางเลือกที่ประหยัดและลดมลพิษ ซึ่งระบบไฮบริดรุ่นนี้จะให้ความประหยัดในระดับ 3.6 ลิตร/100 กิโลเมตร หรือ 27.7 กิโลเมตร/ลิตร
ถึงบรรทัดนี้ก็ต้องบอกว่าลองไปชมตัวเป็นๆ กันก่อนที่งานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 34 ต้นเดือนหน้า ...แต่เชื่อได้เลยว่า... งานนี้เสียเงินแน่นอน
แจกบัตร มอเตอร์ เอ็กซ์โป ท่านละ 2 ใบ ติดต่อรับได้ที่โอปอเรเตอร์ บ้านเจ้าพระยา โทร.02-629-4488 ในเวลาทำการ 8.30-17.30 น.
***บัตรเข้างานใช้ได้วันที่ 1-11 ธค. 2560 ***
