xs
xsm
sm
md
lg

ทาทา ซูเปอร์เอซ มินท์ รถเล็กขนใหญ่กำไรเยอะ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

หากนับเวลาที่รถยนต์ “ทาทา” เข้ามาทำตลาดในเมืองไทย กำลังจะครบ 10 ปี แล้ว เรียกว่า เริ่มรู้ทางของผู้บริโภคชาวไทยและความเป็นตัวตนของทาทา ได้เป็นอย่างดี จากจุดแรกเริ่มที่นำทัพด้วยกระบะ ซีนอน แบบยกสูง มุงเจาะกลุ่มลูกค้าระดับบน อาจจะดูไม่ตรงกับคุณสมบัติของความเป็นรถยนต์ทาทา

จนกระทั่งปรับทัพมาลงตัวที่ กระบะ ซีนอนแบบหัวเดียว ซึ่งสามารถทำยอดขายเป็นหลักให้กับทาทายืนหยัดต่อไปในประเทศไทยได้ พร้อมกับการลงทุนรอบใหม่ในปีนี้ด้วยเม็ดเงินกว่า 500 ล้านบาท สำหรับการย้ายโรงงานแห่งใหม่

เมื่อทราบถึงจุดเด่นของตัวเองอย่างดีแล้ว รถรุ่นอื่นๆ ต่อมาจึงเน้นไปในแนวทางเดียวนั่นก็คือ การบรรทุก ซึ่ง โมเดล ล่าสุดที่ทาทา นำเข้ามาทำตลาดและกำลังจะขึ้นไลน์ประกอบในประเทศไทย นั่นก็คือ “ซูเปอร์เอช มินท์” โดยทีมงาน เอ็มจีอาร์ มอเตอริ่ง ตอบรับคำเชิญเข้าร่วมทดลองขับ ผลลัพท์เป็นอย่างไรเชิญชมได้

วิ่งทำกำไร ไม่เน้นสบาย

ทาทา ซูเปอร์เอซ มินท์ ถือเป็น รถบรรทุกขนาด 4 ล้อขนาดเล็ก มีความคล่องตัวสูง สะดวกในการขนถ่ายสินค้าด้วยกระบะพื้นเรียบที่สามารถเปิดได้ทั้ง 3 ด้าน มุ่งเน้นในเรื่องของการทำกำไรให้กับผู้ประกอบการเป็นหัวใจสำคัญ ดังนั้น สิ่งต่างๆ จึงมีเพียงพอกับความจำเป็นเช่น ระบบแอร์ พวงมาลัยพาวเวอร์ กระจกไฟฟ้า แต่จะไม่มีวิทยุ และเซ็นทรัลล็อก เป็นต้น ซึ่งมองในมุมเจ้าของกิจการถือว่าลดต้นทุนได้เป็นอย่างดี และทำให้ลูกน้องอยากไปส่งของไวๆ ไม่ขับออกนอกเส้นทางหรือแอบเอารถไปเที่ยว

ทาทา ซูเปอร์เอซ มินท์ มาพร้อมกับขุมพลัง เครื่องยนต์ดีเซล คอมมอนเรล ขนาด 1.4 ลิตร ไดคอร์ ยูโร 4 จ่ายเชื้อเพลิงด้วยหัวฉีดแบบไดเร็คอินเจคชั่น พร้อมระบบอัดอากาศ เทอร์โบ อินเตอร์คูลเลอร์ กำลังสูงสุด 70 แรงม้า ที่ 4,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด140 นิวตันเมตร ที่รอบต่ำต่อเนื่อง ตั้งแต่ 1,400-2,750 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์ธรรมดา 5 สปีด

ช่วงล่างหน้าแบบอิสระ และแหนบรูปกึ่งวงรีที่ด้านหลัง ส่วนระบบเบรก ด้านหน้าเป็นดิสก์เบรกพร้อมครีบระบายความร้อน ด้านหลังเป็นดรัมเบรก พร้อมวาล์วปรับแรงดัน ส่วนเบาะเป็นแบบ Bucket Seat ให้ความสบาย และปลอดภัย

ขับง่าย มุมมองกว้าง

สำหรับเส้นทางในการทดสอบ ทาทา มอเตอร์ส ประเทศไทย จัดให้ ทดลองใช้งาน ทาทา ซูเปอร์เอซ มินท์ โดยใช้เส้นทางในเขตกรุงเทพมหานครชั้นใน เพื่อให้ทดลองวิ่งฝ่าการจราจรที่หนาแน่นในตัวเมือง เนื่องจากลูกค้าส่วนมากที่ซื้อ ซูเปอร์เอซ มินท์ ไปใช้งานจะเป็นลักษณะของการส่งของในเมืองระยะทางวิ่งสั้นๆ ตัวรถที่ตอบสนองเรื่องแบบนี้ได้ต้องมีจุดเด่น 2 ข้อใหญ่คือ คล่องตัวและบรรทุกได้เยอะ

ซึ่ง ซูเปอร์เอซ มินท์ ตอบตรงโจทย์ 2 อย่างดังกล่าว ด้วยความเป็นรถบรรทุก 4 ล้อขนาดเล็ก จึงวิ่งได้ไม่ติดเวลา และมีกระบะแบบพื้นเรียบขนาดบรรทุก ยาว 2.63 x กว้าง 1.46 เมตร เปิดท้ายได้ทั้ง 3 ด้าน ให้ความสะดวกในการขนถ่ายสินค้า

การลองขับของเราคิดประหนึ่งว่าเราเป็นพนักงานขับรถส่งของ ไม่ใช่เจ้าของกิจการหรือคนที่ซื้อรถเพื่อเอาไปวิ่งโฉบเฉี่ยว รถลักษณะแบบนี้มีไว้เพื่อการบรรทุกและวิ่งส่งของหรือทำเป็นรถขายของ(FoodTruck) เท่านั้น เนื่องจากบางจุดยังต้องปรับปรุงหากนำไปเปรียบกับรถปิกอัพ

ยอมรับตรงๆว่า โดยรวมสมราคา กับค่าตัว 365,000 บาท ได้รถเครื่องยนต์ดีเซลที่มีความประหยัด อัตราเร่งกำลังดี แนะนำให้ออกตัวเกียร์ 2 จะขับนุ่มนวล ส่วนทัศนวิสัยชัดเจนดี และด้วยความเป็นรถแบบหน้าตัดทำให้การเลี้ยวหรือเปลี่ยนเลนทำได้อย่างง่ายกว่ารถหน้ายาวทั่วไป แถมมีรัศมีวงเลี้ยวเพียง 5.1 เมตร

ความเร็วสูงสุดที่เราขับคือ 60 กม./ชม. แต่ส่วนใหญ่ที่วิ่งจะเป็นการขยับทีละน้อยมากกว่าเนื่องจากสิ้นทางในเมืองถนนเจริญกรุงช่วงเวลา 5-6 โมงเย็นนั้น เรียกว่า จุดพีคสุดของการจราจร แต่ ซูเปอร์เอซ มินท์ ทำได้ดี ถือว่าสอบผ่านแม้จะวิ่งท่ามกลางการจราจรหนาแน่น


เหมาะกับใคร

เจ้าของกิจการที่มองหารถวิ่งส่งของในระยะทางใกล้ๆ ที่มีการจราจรหนาแน่น ไม่ใช่วิ่งระยะทางไกล มุ่งหวังในเรื่องของต้นทุนที่ต่ำและทำกำไรต่อรอบสูงกว่า ด้วยเครื่องยนต์ดีเซล หรือใครที่มองหารถเพื่อมาทำรถขายของโดยเน้นในเรื่องของต้นทุนที่ต่ำ ทำกำไรให้คืนทุนเร็ว ทาทา ซูเปอร์เอซ มินท์ ตอบตรงโจทย์ตรงนี้ได้







กำลังโหลดความคิดเห็น