xs
xsm
sm
md
lg

สิงคโปร์เคาะฤกษ์ปลายปี 2020 ส่งรถบัสไฟฟ้าไร้คนขับให้บริการ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

หลังจากเมื่อปีที่แล้ว นูโตโนมีเลือกสิงคโปร์เป็นประเทศแรกในการเปิดตัวแท็กซี่ไร้คนขับ มาวันนี้แดนลอดช่องตั้งเป้านำรถบัสไฟฟ้าอัตโนมัติออกให้บริการในช่วงปลายปี 2020
ปลายปี 2020 คือฤกษ์งามที่รถบัสไร้คนขับจะโลดแล่นบนท้องถนนแดนลอดช่องเป็นจริงเป็นจังเสียที จากที่วันนี้ยังมีใช้จำกัดเฉพาะในนิคมอุตสาหกรรมและสถานที่ท่องเที่ยวบางแห่งเท่านั้น

สำนักงานการขนส่งทางบก (LTA) ของสิงคโปร์ ทำข้อตกลงกับเอสที ไคเนติกส์ บริษัทในเครือด้านระบบขนส่งทางบกของเอสที เอ็นจิเนียริ่ง เพื่อเริ่มต้นโครงการทดลองรถอัตโนมัติในระยะเวลา 3 ปีครึ่ง ซึ่งจะปูทางสู่การนำรถบัสไฟฟ้าไร้คนขับออกรับส่งผู้โดยสารในเส้นทางที่กำหนดโดยอิงกับบริการรถรับส่งที่เลือก

ภายใต้โครงการนี้ เอสที ไคเนติกส์จะผลิตรถบัสไฟฟ้าขนาด 40 ที่นั่ง ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่บริษัทสิงคโปร์ผลิตรถบัสไร้คนขับ และทดสอบในเขตอุตสาหกรรมในช่วงที่มีคนใช้ถนนน้อย ก่อนขยายไปทดสอบในสถานที่ที่มีการจราจรและสภาพแวดล้อมซับซ้อนมากขึ้น ซึ่งอาจรวมถึงเกาะจูร่งและมหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ (NUS)

รถบัสที่คาดว่า จะใช้เวลาพัฒนา 42 เดือนโดยแบ่งออกเป็น 3 ขั้นตอนนั้น จะมีความเร็ว 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ตัวรถยาว 12 เมตร ใช้ระบบ GPS พร้อมเซ็นเซอร์ในการนำทาง รวมทั้งเรดาร์และโซนาร์สำหรับตรวจจับรถคันอื่นๆ และคนเดินในระยะ 200 เมตร และตัวกรองฝนเพื่อให้เทคโนโลยีรถยนต์อัตโนมัติ (AV) สามารถตรวจจับสิ่งกีดขวางและนำทางขณะฝนตกหนัก โดยวิศวกรของเอสที ไคเนติกส์มั่นใจว่า จะสามารถเพิ่มขีดความสามารถของรถในการรองรับปริมาณน้ำฝนเป็น 30 มิลลิเมตรต่อชั่วโมง จากปัจจุบันที่รองรับได้เพียง 10 มิลลิเมตรต่อชั่วโมง

ด้วยตัวถังและโครงอลูมิเนียม รถบัสไฟฟ้านี้จะใช้พลังงานต่ำ สามารถชาร์จพลังงานในเวลาเพียง 3-5 นาที นอกจากนี้ยังสื่อสารกับรถอัตโนมัติและโครงสร้างพื้นฐานอื่นๆ ได้ รวมทั้งมีเครือข่ายไร้สายและ 4G บนรถ

ดร. ลี เชียง หลง ประธานเอสที ไคเนติกส์ เผยว่า บริษัทมีแผนทาบทามผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์จากสำนักงานวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และการวิจัย, NUS และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีและการออกแบบสิงคโปร์ มาร่วมพัฒนารถบัสนี้ด้วย นอกจากนั้นยังจะมีการวิเคราะห์ความเสี่ยงและทดสอบการเจาะระบบข้อมูลเพื่อให้มั่นใจว่า ส่วนประกอบสำคัญในระบบได้รับการปกป้องและผู้โดยสารจะเดินทางอย่างปลอดภัย

การทดสอบรถในโครงการนี้ที่จะมีนักศึกษาของ NTU เป็นผู้โดยสารจะเริ่มต้นในปี 2019 หลังจากได้รับการอนุมัติจาก LTA และบริษัทประกันภัยสำหรับความคุ้มครองแก่ผู้โดยสาร โดยขณะนี้ NTU กำลังร่วมกับ LTA และบริษัทประกันภัยเพื่อร่างข้อกำหนดและประเมินความเสี่ยง

ลัม วี ชานน์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยีของ LTA บอกว่า ผู้พัฒนาเทคโนโลยี AV ส่วนใหญ่กำลังทุ่มความพยายามในการพัฒนารถยนต์ขับขี่อัตโนมัติ แต่ความต้องการรถที่รองรับผู้โดยสารจำนวนมากในชั่วโมงที่มีการใช้งานสูงสุดของสิงคโปร์นำเสนอโอกาสสำหรับบริษัทอย่างเอสที ไคเนติกส์ ในการพัฒนารถบัสอัตโนมัติเพื่อรองรับความต้องการแอบแฝงนี้

เอสที ไคเนติกส์ยังประกาศการร่วมเป็นพันธมิตรกับกระทรวงคมนาคมและเซนโตซา ดิเวลอปเมนต์ คอร์เปอเรชัน เพื่อทดสอบรถ “โมบิลิตี้-ออน-ดีมานด์” ในเซนโตซา ซึ่งประกอบด้วยพ็อดไร้คนขับแนฟยา อาร์มา ขนาด 15 ที่นั่ง และรถไร้คนขับเอสที ไคเนติกส์ ชัตเติล ขนาด 20 ที่นั่ง รวม 4 คัน รถทั้งหมดนี้ที่มีความเร็วสูงสุด 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จะให้บริการใน 3 เส้นทาง ได้แก่ หาดตันจงและปาลาวันอีสต์ไปยังซิโลโซ พอยต์ และเซนโตซา กอล์ฟ คลับไปยังอิมเบีย ลุคเอาต์

นับจากปีหน้า นักท่องเที่ยวที่ไปยังเกาะเซนโตซาจะสามารถเรียกใช้บริการรถเหล่านี้ผ่านสมาร์ทโฟนหรือเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ที่มีอยู่ทั่วเกาะ ระบบจัดการฟลีตจะปรับปรุงการบริหารเส้นทางอย่างเหมาะสมโดยอิงกับความต้องการของผู้โดยสาร และจะมีการตรวจติดตามรถไร้คนขับผ่านระบบกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งอยู่ตลอดเส้นทาง

ฟู กี ลุน รองประธานไคเนติกส์ แอดวานซ์ โรโบติกส์ ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของเอสที ไคเนติกส์ บอกว่า คุณสมบัติสำคัญของรถบัสและพ็อดไร้คนขับของเอสที ไคเนติกส์คือเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI)

นอกจากนี้ เอสที ไคเนติกส์ยังเปิดตัวสิงคโปร์ ออโตโนมัส เวฮิเคิลส์ คอนซอร์เตียม เพื่อส่งเสริมการพัฒนาเงื่อนไขในการทดสอบ AV โดยประกอบด้วยพันธมิตร ได้แก่ อินสติติวท์ ฟอร์ อินโฟคอมม์ รีเสิร์ช และมหาวิทยาลัยอีกหลายแห่ง กิจการค้าร่วมนี้จะโฟกัสที่การระบุเกณฑ์วิธีและมาตรฐานสำหรับ AV ในสถานการณ์จริง และการพัฒนาเทคโนโลยีเฉพาะ เช่น การรักษาความปลอดภัยระบบไซเบอร์ในรถยนต์

แผนการริเริ่มใหม่เหล่านี้มีขึ้นหลังจากเมื่อสองปีที่แล้วรัฐบาลสิงคโปร์ออกหนังสือขอข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อรวบรวมข้อเสนอเกี่ยวกับเทคโนโลยี AV ซึ่ง ณ เวลานั้น มีการทดสอบรถไร้คนขับแล้วที่วัน-นอร์ธ ซึ่งเป็นนิคมอุตสาหกรรมในควีนส์ทาวน์

นับจากวันนั้นจนถึงขณะนี้มีการทดสอบนวัตกรรมยานยนต์หลายโครงการในแดนลอดช่อง อาทิ ชัตเติลบัสอัตโนมัติที่การ์เด้นส์ บาย เดอะ เบย์ ซึ่งเอสที เอ็นจิเนียริ่งมีส่วนร่วมด้วย และโรบ็อตแท็กซี่ที่วัน-นอร์ธ เดือนตุลาคมที่ผ่านมา LTA และ สถาบันวิจัยด้านพลังงานของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีนันยาง (ERI@N) ยังประกาศโครงการทดสอบรถบัสไร้คนขับที่ประกอบด้วยรถบัสไฮบริด-ไฟฟ้า 2 คัน
ขณะเดียวกัน นอกจากข้อตกลงกับเอสที ไคเนติกส์ และ ERI@N แล้ว LTA ยังทำข้อตกลงที่เกี่ยวข้องกับยานยนต์แห่งอนาคตกับเดลฟายและนูโตโนมี

ปัง คิน คอง ปลัดกระทรวงคมนาคมสิงคโปร์ปิดท้ายว่า จะขยายโครงการทดลองรถไร้คนขับเชิงรุกในส่วนอื่นๆ ของประเทศภายใต้เป้าหมายในการปรับใช้เทคโนโลยี AV เป็นองค์ประกอบสำคัญของระบบขนส่งในอนาคต
กำลังโหลดความคิดเห็น