xs
xsm
sm
md
lg

เผยรถกระแสแรงสวนตลาด ยอดขายทะยานติดต่อ4เดือน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ผ่านเทศกาลกระตุ้นยอดขายโค้งแรก งานบางกอกฯ มอเตอร์โชว์ 2016 ไปแล้ว แม้จะกระตุ้นให้ตลาดรถในเดือนเมษายนกลับมาเป็นบวก หรือเติบโต 1.7% แต่ยังไม่สามารถฉุดภาพรวมตลาดรถไทยช่วง 4 เดือนแรกปีนี้ ให้พ้นแดนลบไปได้ โดยมียอดขายรวมทั้งหมด 236,996 คัน ลดลงจากปีที่แล้ว 5.9% อย่างไรก็ตาม หากโฟกัสไปเป็นกลุ่ม หรือรถรุ่นนั้นๆ จะพบว่ามีรถที่ได้รับกระแสตอบรับดี มียอดขายเติบโตติดต่อกันทุกเดือน ส่วนจะเป็นยี่ห้อ/รุ่นไหน? ไปดูกันเลย...

‘อีซูซุ-ฟอร์ด-เชฟโรเลต’แรง! ดันปิกอัพเริ่มฟื้นตัว

ตลาดปิกอัพมีการคาดหวังว่าจะกลับมาฟื้นตัวได้ ตั้งแต่ครึ่งหลังของปีที่ผ่านมา เมื่อมีการเปิดตัวรถรุ่นปรับโฉมใหม่กันเกือบครบทุกค่าย แต่ปรากฏว่ายอดขายยังคงติดลบต่อเนื่อง เพิ่งกลับมาเป็นบวกได้ในช่วงเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ซึ่งเป็นผลมาจากงานกระตุ้นยอดขายทิ้งทวนประจำปี งานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2015

นอกจากนี้ การเปิดตัวของ “อีซูซุ ดี-แมคซ์ ดีดีไอ บลูเพาเวอร์” เป็นอีกปัจจัยที่ทำให้ตัวเลขยอดขายของอีซูซุกลับมาทะยานแรง 31% ส่งผลให้ภาพรวมของตลาดปิกอัพเดือนธันวาคมกลับมาเป็นบวก 1.8% แต่เมื่อรวมทุกเดือนของปีที่ผ่านมา ตลาดปิกอัพยังติดลบ 12% หรือมียอดขายทุกรุ่น 327,660 คัน

อีซูซุ ดี-แมคซ์ นับว่าสร้างกระแสร้อนแรงให้กับตลาดปิกอัพอย่างมาก หลังจากเปิดตัวดี-แมคซ์ ใหม่ มียอดขายกลับมาเป็นบวกในทุกๆ เดือน(ดูยอดขายจากตารางประกอบ) และเป็นส่วนสำคัญผลักดันให้ตลาดปิกอัพฟื้นตัวดีขึ้นเรื่อยๆ จนช่วง 2 เดือนล่าสุดของปีนี้ ตลาดปิกอัพไทยกลับมาเป็นบวกได้ และทำให้ภาพรวมตลาดปิกอัพ 4 เดือนแรกปีนี้ติดลบเพียง 0.7% และหากเป็นเช่นนี้น่าจะกลับมาเป็นบวกได้ในช่วงครึ่งปีหลัง

จุดที่สร้างกระแสฟีเวอร์ให้กับปิกอัพ ดี-แมคซ์ ใหม่ เป็นเรื่องของขุมพลังใหม่เครื่องยนต์ดีเซลคอมมอนเรล “1.9 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์” ที่มาทำตลาดแทนรุ่น 2.5 ลิตรเดิม แม้จะมีขนาดกระบอกสูบเล็กลง แต่กลับให้พลังและอัตราการประหยัดน้ำมันที่มากกว่า ซึ่งเป็นการตอกย้ำจุดขายปิกอัพอีซูซุให้โดดเด่นกว่าเดิมอีก แต่ก็ยังมีทางเลือกให้กับลูกค้าที่ชื่นชอบความแรง ด้วยเครื่องยนต์บล็อกเดิม 3.0 ลิตร ที่ปรับปรุงให้ดีขึ้นด้วย

ไม่เพียงอีซูซุ ดี-แมคซ์ ยังมีปิกอัพอีก 2 รุ่น ที่มาแรงต่อเนื่องตั้งแต่ครึ่งหลังของปีที่ผ่านมา ซึ่งล้วนเป็นปิกอัพจากค่ายรถอเมริกัน นั่นคือ “ฟอร์ด เรนเจอร์” ใหม่ ที่ไม่เพียงการปรับรูปลักษณ์หน้าตาโดนใจเข้าไปอีก อุปกรณ์ออปชั่นต่างๆ ยังจัดเต็มจัดหนัก และขุมพลังยังปรับปรุงใหม่ โดยเครื่องยนต์ 2.2 ลิตร เพิ่มกำลังจาก 150 เป็น 160 แรงม้า และรุ่นแรง 3.2 ลิตร ได้มีการปรับปรุงให้ประหยัดน้ำมันมากขึ้น เมื่อบวกกับการจัดแคมเปญกระตุ้นต่อเนื่อง ทำให้เรนเจอร์เป็นปิกอัพอีกรุ่นที่มียอดขายเป็นบวกเกือบทุกๆ เดือน นับตั้งแต่เปิดตัวเมื่อช่วงกลางปีที่แล้วเป็นต้นมา

ขณะที่อีกรุ่น “เชฟโรเลต โคโลราโด” กลับสร้างความทึ่งไปอีกแบบ เพราะเป็นรถที่เข้าสู่ช่วงใกล้ปรับโฉมแล้ว และเพิ่งเผยโฉมรุ่นใหม่ไปเมื่อปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา(วางจำหน่ายจริงประมาณกลางปีนี้) แต่ในรุ่นเดิมกลับมียอดขายเป็นบวกในทุกๆ เดือน ตั้งแต่ครึ่งหลังของปีที่แล้วเป็นต้นมา ปัจจัยสำคัญมาจากการพยายามสร้างทางเลือก ด้วยการแนะนำรุ่นย่อยต่างๆ และใส่นั่นเพิ่มนี่ บวกกับแคมเปญกระตุ้นยอดขายต่อเนื่อง อย่างล่าสุดหากลูกค้านำรถเก่าทุกยี่ห้อมาแลกคันใหม่ รับส่วนลดเพิ่ม 50,000 บาท และฟรีทุกค่าใช้จ่าย รวมถึงฟรีประกันภัยชั้น 1 หรือจะเลือกรับอัตราดอกเบี้ยพิเศษ

ส่วนปัจจัยสำคัญที่ทำให้ตลาดปิกอัพไม่ฟื้นตัวเร็วอย่างที่คาด เพราะปิกอัพรุ่นหลักๆ ของตลาด ไม่ว่าจะเป็น โตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่, มิตซูบิชิ ไทรทัน และนิสสัน เอ็นพี300 นาวารา ต่างแป๊กกันหมดยอดขายร่วงต่อเนื่อง ทั้งที่เพิ่งเปิดตัวโฉมใหม่กันได้ไม่นาน?!...

พีพีวี/เอสยูวีสวนกระแส-‘ฟอร์จูนเนอร์’ช่วยโตโยต้า

กลุ่มรถยนต์ที่มาแรงและมียอดขายเติบโตสวนตลาดเพียงหนึ่งเดียว เวลานี้คงต้องเป็นตลาดรถอเนกประสงค์ ทั้งแบบพีพีวี(PPV) และเอสยูวี(SUV) หรือครอสโอเวอร์ ซึ่งกระแสกำลังมาแรงในตลาด โดยปัจจัยสำคัญที่ทำให้รถกลุ่มนี้ที่ได้รับความนิยมจากลูกค้าชาวไทย มาจากการตอบรับความต้องการใช้งาน และฐานลูกค้าไม่ค่อยได้รับผลกระทบจากปัจจัยเศรษฐกิจมากนัก

ที่สำคัญรถยนต์กลุ่มพีพีวีและเอสยูวี มีการแนะนำรถรุ่นใหม่ๆ และรุ่นปรับโฉมสู่ตลาดจำนวนมาก อย่างรถพีพีวีที่ต้องปรับเปลี่ยนตามปิกอัพรุ่นใหม่ เพราะใช้พื้นฐานโครงสร้างตัวถังร่วมกัน ทำให้ตั้งแต่ช่วงครึ่งหลังของปีที่ผ่านมา มีการแนะนำรถรุ่นใหม่ๆ สู่ตลาดหลายรุ่น ไม่ว่าจะเป็น โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์, มิตซูบิชิ ปาเจโร่ สปอร์ต และฟอร์ด เอเวอเรสต์

จากปัจจัยต่างๆ ที่กล่าวมา จึงไม่แปลกที่รถพีพีวีรุ่นปรับโฉมใหม่เหล่านี้ จะมียอดขายเติบโตในทุกๆ เดือนนับตั้งแต่เปิดตัวมา และต่อเนื่องมาจนถึง 4 เดือนแรกของปีนี้(ดูยอดขายจากตารางประกอบ) แม้จะได้รับผลกระทบต้องปรับราคาเพิ่มขึ้น จากการประกาศใช้โครงสร้างภาษีสรรพสามิตใหม่ก็ตาม

ในตลาดพีพีวีนับเป็นการกู้หน้าให้กับยักษ์ใหญ่ “โตโยต้า” หลังจากไม่ประสบความสำเร็จกับแฝดคนละฝา ปิกอัพ “ไฮลักซ์ รีโว่” จากชื่อชั้นที่ครองตลาดมาต่อเนื่อง ผสานกับการออกแบบรูปลักษณ์ที่ฉีกออกไปจากปิกอัพรีโว่ ให้ดูหรูหรามีระดับ และอุปกรณ์ต่างๆ ที่ให้มาก็โดดเด่น แม้จะมีราคาที่ค่อนข้างสูงกว่าคู่แข่ง แต่ลูกค้ายังให้ความนิยมเหนียวแน่น

ด้านอีก 2 รุ่น มิตซบิชิ ปาเจโร่ สปอร์ต และฟอร์ด เอเวอเรสต์ จุดขายเด่นทั้งรูปลักษณ์หน้าตา และอุปกรณ์ต่างๆ ที่ติดตั้งมาให้ ประกอบกับราคาน่าคบหา จึงไม่แปลกที่จะมียอดขายเติบโตในทุกๆ เดือนเช่นกัน...

ขณะที่รุ่นอื่นๆ อยู่ในช่วงปลายโมเดล และคู่แข่งมีการเปิดตัวรุ่นใหม่ จึงทำให้ยอดขายลดลงตามสภาวะการแข่งขัน แต่นับจากนี้ไปคงต้องจับตาดู “อีซูซุ มิว-เอ็กซ์” ใหม่ ที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อปลายมีนาคมที่ผ่านมา และมาพร้อมกับเครื่องยนต์ 1.9 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์ จะสร้างปรากฎการณ์เหมือนกับปิกอัพดี-แมคซ์ ใหม่หรือไม่? และในช่วงครึ่งหลังของปีต้องรอดู “เชฟโรเลต เทรลเบลเซอร์” ใหม่ ที่จะถูกส่งลงบุกตลาดไทยต่อจากปิกอัพโคโลราโดใหม่ ว่าจะช่วยปลุกยอดขายให้ฟื้นกลับมาหรือไม่?

นอกจากนี้ยังมีรถที่น่าสนใจ “นิสสัน ลิวิน่า” รถยนต์อเนกประสงค์มินิเอ็มพีวี ที่แทบไม่อยู่ในความเคลื่อนไหวของตลาด แต่กลับปรากฏว่ามียอดขายเติบโตในทุกเดือนของปีนี้ แน่นอนคงมาจากแคมเปญกระตุ้นยอดขาย ผ่อนต่ำเริ่มต้นเพียง 5,999 บาท หรือเลือกดาวน์ 10% ผ่อนนาน 72 เดือน ประกอบกับคู่แข่งหายไปจากตลาดอีกหนึ่งราย “เชฟโรเลต สปิน” จึงช่วยให้ลิวิน่าแอบเก็บยอดขายกินเงียบๆ ไปสบายๆ

ตลาดเก๋งยังอาการหนัก! ‘มาสด้า2’พระเอกอีโคคาร์

ตลาดที่อาการสาหัสสุดคงจะเป็นกลุ่มรถยนต์นั่ง หรือเก๋ง เพราะไม่ว่าจะเป็นเก๋งขนาดเล็ก(Eco Car และ B-Car), คอมแพ็กต์คาร์(C-Car) หรือขนาดกลาง(C/D- Car) ล้วนยอดขายร่วงระนาว โดยเฉพาะกลุ่มเก๋งขนาดเล็ก และคอมแพ็กต์คาร์ที่เป็นตลาดหลักของรถกลุ่มนี้ ปรากฎว่ามียอดขายลดลงมากกว่า 20%

โดยกลุ่มคอมแพ็กต์คาร์ทุกรุ่นยอดขายตกลงหมด เพิ่งจะมาเริ่มเห็นสัญญาณบวกเพียง “ฮอนด้า ซีวิค” ที่เพิ่งเปิดตัวโฉมใหม่ไปเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา จึงทำให้ยอดขายในช่วง 2 เดือนล่าสุด(มี.ค.-เม.ย.) ตัวเลขกลับมาทะยานแรง ซึ่งคงต้องดูต่อไปจะรักษาความแรงเช่นนี้ ได้ตลอดไปจนถึงสิ้นปีหรือไม่?

สำหรับตลาดเก๋งขนาดเล็ก ณ เวลานี้คงต้องยกให้กับ “มาสด้า2 สกายแอคทีฟ” ซึ่งเป็นรถโมเดลเดียวที่มียอดขายเติบโตต่อเนื่องทุกๆ เดือน ตั้งแต่การเปิดตัวเมื่อปลายปี 2014 และโดยเฉพาะหลังการเปิดตัวรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน Skyactiv G 1.5L เมื่อต้นปี 2015 เป็นต้นมา ซึ่งแน่นอนความสำเร็จของมาสด้า 2 ทั้งในตลาดเก๋งเล็กแบบซีดาน และแฮทช์แบ็ก มาจากทั้งเรื่องของการออกแบบรูปลักษณ์หน้าตา เทคโนโลยีสกายแอคทีฟที่โดดเด่น และการเข้าไปอยู่ในโครงการอีโคคาร์ระยะที่ 2 ทำให้ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี ช่วยให้สามารถตั้งราคาได้น่าดึงดูดใจ จากปัจจัยเหล่านี้จึงผลักดันให้ผู้บริโภคตอบรับมาสด้า2 สกายแอคทีฟอย่างล้นหลาม

อีโคคาร์อีกรุ่นที่กระแสมาแรง “มิตซูบิชิ มิราจ” ที่มาพร้อมกับระบบความปลอดภัยล้ำสมัย ซึ่งไม่ค่อยจะได้พบในรถขนาดเล็กเช่นนี้ ไม่ว่าจะเป็นระบบเตือนการชนด้านหน้าตรง พร้อมระบบช่วยชะลอความเร็ว (ที่ความเร็วต่ำ) รวมถึงระบบตัดกำลังเครื่องยนต์ชั่วขณะ เมื่อเหยียบคันเร่งอย่างรุนแรงและรวดเร็ว (เฉพาะด้านหน้า) เมื่อบวกกับการปรับรูปลักษณ์และอุปกรณ์ต่างๆ เพื่อความสวยงามและทันสมัย จึงทำให้มิราจใหม่ได้การตอบรับดีต่อเนื่อง หลังจากการทำการไมเนอร์เชนจ์และเปิดตัวเมื่อก่อนสิ้นปีที่แล้ว...

นี่คือโฉมหน้าของบรรดารถที่กระแสมาแรงสวนตลาด ซึ่งแสดงให้เห็นว่าการปรับเปลี่ยนสิ่งใหม่ๆ และตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ในเวลาที่เหมาะสาม นับเป็นจุดสำคัญในการนำมาสู่หลักชัยได้ ขณะเดียวกันหากใช้กลยุทธ์ที่ดึงดูดใจ ความสดใหม่อาจจะสู้ไม่ได้ แต่ก็สามารถผลักดันให้ประสบความสำเร็จได้เช่นเดียวกัน?!

กำลังโหลดความคิดเห็น