xs
xsm
sm
md
lg

เปิดตำนาน‘โลตัส’สปอร์ตคาร์สุดเก๋า(2)

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ในปี 1983 โลตัสได้เปิดนวัตกรรมใหม่ในอุตสาหกรรมรถยนต์ นั่นคือ “Active Suspension” ระบบรับแรงสั่นสะเทือนที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการควบคุมไฮโดรลิคของระบบโช้คอัพ ช่วยปรับระดับการทรงตัวของรถขณะขับขี่ โดยเทคโนโลยีดังกล่าว กองทัพอังกฤษได้นำไปปรับใช้กับรถถังหลายรุ่น

จากนั้นปี 1985 หนุ่มบราซิลเลี่ยน ไอร์ตัน เซนน่า (Ayrton Senna) ก็เข้าร่วมทีมโลตัส และควบ Type 97T คว้าชัยชนะได้หลายสนาม (แต่ก็ไม่เคยได้แชมป์โลกกับโลตัส) ซึ่งปีนี้นอกจากจะเป็นอีกหนึ่งปีทองที่โลตัสสามารถคว้ากล่องมาได้หลายใบแล้ว นอกสนามยังได้เงินมหาศาล จากยอดจองรถโลตัสทั่วโลกที่มีมูลค่ารวมกว่า 31 ล้านปอนด์ เพิ่มขึ้นจากปี 1984 ที่มียอดขายเพียง 3 ล้านปอนด์เท่านั้น

มาถึงปี 1984 โลตัสปรับรูปโฉมของ Esprit Turbo และเปิดตัว Esprit รุ่นใหม่ในไม่กี่ปีต่อมา จากนั้นปี 1989 รุ่น Turbo SE สามารถเร่งความเร็ว 0-60 ไมล์/ชม. ได้ในเวลาเพียง 4.7 วินาทีเท่านั้น และ Elan ตัวใหม่ที่ขับเคลื่อนด้วยล้อหน้า ได้ถูกเปิดตัวพร้อม “Interactive Wishbone” ระบบกันสะเทือนด้านหน้า เพื่อให้มีสมรรถนะในการขับเคลื่อนที่เหนือกว่า ทั้งการควบคุม และการยึดเกาะถนน

เริ่มต้นปี 1990 โลตัสได้ตัดสินใจช่วย Vauxhall ผลิตรถ 4 ประตู และในปี 1992 Chris Boardman ชาวอังกฤษได้รับเหรียญทองโอลิมปิกที่บาเซโลน่าจากการแข่งขันจักรยานระยะทาง 4,000 เมตร ด้วยจักรยานที่ออกแบบโดยโลตัส และมันก็ช่วยให้เขาได้แชมป์โลกประเภท 5,000 เมตร ซึ่งเขาสามารถทำลายสถิติโลกด้วยเวลาที่ดีกว่าเดิมถึง 8 วินาที ซึ่งนั่นคือการเริ่มต้นของการทำลายสถิติอื่นอีกมากมายของเขาโดยจักรยานโลตัส

ในปี 1995 โลตัสผลิตรถคันที่ 50,000 ได้สำเร็จ แต่โลตัสก็ตัดสินใจออกจากการแข่งขันรถฟอร์มูล่าวัน แต่ถึงกระนั้นโลตัสก็ยังทำการเปิดตัว โลตัส อีลิส (Lotus Elise) ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ในงาน Frankfurt Motor Show ด้วยเทคนิคที่พัฒนาไปอีกขั้น และด้วยน้ำหนักที่เบาขึ้นมาก ทำให้ อีลิสสามารถเร่งความเร็วจาก 0 – 60 ไมล์/ชม. ด้วยเวลาที่ต่ำกว่า 6 วินาที กับราคาค่าตัวที่ไม่ถึง 20,000 ปอนด์

ปี 1996 Lotus Elise ได้เริ่มสู่กระบวนการผลิต และการผลิตในปีแรก Elise ก็คว้ารางวัลมากมายในเรื่องของการออกแบบ และการควบคุมที่มีประสิทธิภาพ จนกระทั่งปี 1997 โลตัส Elise สามารถทำยอดขาย ครบ 1,000 คัน และเปิดตัว Esprit V8 ที่ทำการปรับปรุงใหม่ โดยบริษัทลงทุนไปประมาณ 7.5 ล้านปอนด์ในการผลิตเครื่องยนต์ใหม่ และพัฒนาโปรแกรมต่าง ๆ ให้ดีขึ้น นอกจากนั้นได้ใช้เงินจำนวน 1.5 ล้านปอนด์ สร้างโรงงานทำสีใหม่ และอีก 7 ล้านปอนด์สำหรับศูนย์วิจัยและพัฒนา

มาถึงปี 1998 บริษัทฉลองครบรอบ 50 ปี ของการเข้าแข่งขันครั้งแรกของคอร์ลิน แชปแมน (ด้วยรถโลตัสของเขาเอง) โดยตั้งโลตัสคลับอย่างเป็นทางการ พร้อมจัดปาร์ตี้อย่างยิ่งใหญ่ ให้เจ้าของรถ และผู้ที่มีใจรัก โลตัส จากทั่วทุกมุมโลก ณ สำนักงานใหญ่ใน Norfolk

ติดตามต่อตอนหน้า

ข้อมูล : บริษัท นิช คาร์ จำกัด
เรียบเรียงโดย ผู้จัดการมอเตอร์ริ่ง
กำลังโหลดความคิดเห็น